เริ่มแล้วสำหรับเทศกาล “หัวหิน-ชะอำ กอล์ฟเฟสติวัล ครั้งที่ 16" ประจำปี 2560 ที่ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับ ททท.สำนักงานเพชรบุรี, ชมรมผู้บริหารสนามกอล์ฟจังหวัดเพชรบุรี - ประจวบคีรีขันธ์ และสนามกอล์ฟ 9 สนามในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและประจวบคีรีขันธ์ จัดขึ้นเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวกลุ่มผู้สนใจกีฬากอล์ฟในช่วงกรีนซีซัน ระหว่างวันที่ 1 สิงหาคม - 30 กันยายนนี้ โดยมีสนามกอล์ฟเข้าร่วมเทศกาลครั้งนี้มาลดค่ากรีนฟีราคาพิเศษ พร้อมจัดรายการแข่งขันทุกวันอาทิตย์ด้วยค่ากรีนฟีเพียง 1,600 บาท และ 2,400 บาท นอกจากนี้นักกอล์ฟผู้เข้าแข่งขันยังมีสิทธิ์ลุ้นชิงรางวัลพิเศษอีกด้วย
โดยก่อนหน้านี้ ททท. สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดกิจกรรม FAM Trip เส้นทาง “สตรีตีกอล์ฟ ช้อปสบาย เอนกายที่ประจวบฯ” ตามโครงการตีกอล์ฟ ช้อปสบาย เพื่อกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยวสตรี ที่ได้ทั้งกิน เที่ยว ชิลล์ ช้อป สัมผัสสนามกอล์ฟต่างๆ ตามคอนเซ็ปต์งานกันแบบคุ้มค่าตลอดทริป 3 วัน 2 คืน เลยทีเดียว
"เมืองทองเนื้อเก้า มะพร้าวสับปะรด สวยสดหาดเขาถ้ำ งามล้ำน้ำใจ"
ประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดที่แคบและยาวที่สุดในประเทศไทย มีความยาวจากเหนือจดใต้ถึง 212 กิโลเมตร เป็นจังหวัดสุดท้ายของภาคกลาง เรียกได้ว่าเป็นประตูสู่ภาคใต้ โดยส่วนที่แคบที่สุดจากชายแดนไทยไปจนถึงเมียนมาร์ ระยะทาง 11 กิโลเมตร อยู่ที่บริเวณด่านสิงขร ตำบลคลองวาฬ อำเภอเมือง มีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจมากมาย ทั้งด้านประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม ธรรมชาติ และการผจญภัย เช่น วัดเขาช่องกระจก ตำหนักกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ วัดห้วยมงคล ทะเลหัวหิน ป่าละอู ป่ากุยบุรี เขาสามร้อยยอด อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง ฯลฯ
สำหรับคนรักกีฬากอล์ฟพร้อมๆ ไปกับการท่องเที่ยว ประจวบคีรีขันธ์เป็นหนึ่งในจังหวัดต้นๆ ที่นักกอล์ฟเลือกมาเป็นจุดหมายปลายทางของการออกรอบ โดยมีสนามกอล์ฟที่ติดอันดับและได้รับรางวัลระดับโลกการันตีอย่าง สนามบันยัน กอล์ฟ คลับ หัวหิน และสนามแบล็คเมาน์เทน กอล์ฟ คลับ รวมถึงสนามกอล์ฟระดับตำนานของประเทศอย่าง สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน และสนามติดทะเลอย่าง สนามศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก สวนสน ประดิพัทธ์ นอกจากนี้ยังมีสนามสวยๆ อีกหลายแห่งที่ได้รับการยอมรับจากนักกอล์ฟชาวไทยและชาวต่างชาติเดินทางมาออกรอบกันตลอดทั้งปี ทั้งสนาม มาเจสติกครีก คันทรี คลับ, สนามกอล์ฟค่ายธนะรัชต์, สนามมิลฟอร์ด กอล์ฟ คลับ และสนามกอล์ฟอ่าวมะนาว
ทั้งนี้ FAM Trip เส้นทาง “สตรีตีกอล์ฟ ช้อปสบาย เอนกายที่ประจวบฯ” เรามีโอกาสได้ไปเยือนสนามกอล์ฟชั้นนำของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ 3 แห่ง ขอเริ่มต้นที่ สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน สนามกอล์ฟมาตรฐานแห่งแรกของประเทศไทย โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมพระกำแพงเพชร อัครโยธิน ทรงดำริโครงการและบัญชาการสร้าง ในพระปรมาภิไธยพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เป็นมรดกล้ำค่าทางประวัติศาสตร์ สมบูรณ์ด้วยแมกไม้นานาพันธุ์อายุยืนต้นนานนับ 100 ปี และยังมีไก่ป่า สัตว์ป่า นกนานาชนิด ให้นักกอล์ฟได้ออกรอบพร้อมชมภูมิทัศน์อันสวยงาม ทุกแฟร์เวย์มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เป็นเสน่ห์ที่ยากจะลืม
ไปต่อกันที่ สนามบันยันกอล์ฟคลับ หัวหิน ซึ่งได้รับรางวัลสนามกอล์ฟและคลับเฮ้าส์ที่ดีที่สุด 3 อันดับแรก จากนิตยสาร Asian Golf Monthly ติดต่อกัน 3 ปีซ้อน และยังติดอันดับ 1,000 ในโลกโดยโรเล็กซ์เมื่อปี 2554 สนามแห่งนี้มีความโดดเด่นที่คลับเฮาส์สไตล์ทรงไทยอยุธยาประยุกต์ที่มีเอกลักษณ์ ทิวทัศน์ยามดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าบนเทือกเขาฝั่งประเทศพม่าตระการตาเมื่อมองจากคลับเฮ้าส์ ซึ่งนักกอล์ฟที่มาเยือนต้องประทับใจเมื่อได้มาสัมผัส
ปิดท้ายที่ สนามศูนย์พัฒนากีฬากองทัพบก สวนสน ประดิพัทธ์ หรือต่างชาติจะรู้จักในชื่อ Seapine Golf Course สนามสไตล์ภูเขาซึ่งมีพื้นที่ด้านหลังติดกับทะเล มีหาดทรายยาวประมาณ 3,330 เมตร ส่วนของสนามกอล์ฟถูกแบ่งเป็นสองส่วนโดยมีทางรถไฟสายใต้เป็นตัวแบ่งเขตริมทะเลกับเขตริมเชิงเขา
เมื่อเสร็จสิ้นการออกรอบที่สนามสวนสนประดิพัทธ์ ต้องไม่พลาดที่จะแวะไปสักการะอนุสาวรีย์พระมหากษัตริย์ 7 รัชกาล ณ อุทยานราชภักดิ์ ซึ่งอยู่เยื้องๆ กับสนามกอล์ฟสวนสนประดิพัทธ์นั่นเอง นอกจากนี้ยังมีแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่น่าสนใจหลายแห่งให้ได้ไปเยี่ยมเยือนเมื่อว่างเว้นจากการออกรอบ อาทิ อุทยานแห่งชาติน้ำตกห้วยยาง เป็นอุทยานแห่งชาติที่สวยงามอุดมสมบูรณ์ด้วยทรัพยากรป่าไม้สัตว์ป่า เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารหลายสาย โดยน้ำตกมีทั้งหมด 9 ชั้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 9 และสมเด็จพระบรมราชินีนาถ เสด็จมาทรงดนตรีและพักผ่อนถึง 2 ครั้ง และยังมี ยอดเขาหลวง เป็นยอดเขาที่สูงถึง 1,250 เมตร จากระดับน้ำทะเล และเป็นแหล่งต้นน้ำของน้ำตกห้วยยาง สามารถมองเห็นเทือกเขาตะนาวศรีทอดตัวยาวเป็นพรมแดนระหว่างประเทศไทยกับเมียนมาร์ อีกด้วย
สำหรับนักท่องเที่ยวคนรุ่นใหม่และรักการถ่ายภาพแนวสร้างสรรค์ต้องชอบที่นี่ For Art's Sake พิพิธภัณฑ์ภาพ 4 มิติแห่งแรกในประเทศไทย ที่นักท่องเที่ยวจะสนุกสนานไปกับไอเดียการถ่ายภาพใหม่ๆ กับศิลปะการวาดภาพฝาผนังแบบเรียลลิสติก ประกอบกับการจัดแสงและเสียง ที่จะทำให้รู้สึกร่วมในบรรยากาศภาพวาดนั้นเลยทีเดียว
ตีกอล์ฟท่องเที่ยวกันแล้ว แน่นอนต้องแวะกินแวะช้อปของฝากติดไม่ติดมือกลับบ้าน ซึ่งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีอาหารหลากหลายประเภท ตั้งแต่อาหารพื้นบ้าน อาหารไทยทั่วไป อาหารทะเล รวมถึงอาหารนานาชาติ ให้เลือกหลากหลาย มีร้านอาหารบรรยากาศดีทั้งในเมืองและริมทะเล รวมถึงร้านกาแฟและเบเกอรีเก๋ๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบบรรยากาศชิลล์ๆ ไปจนถึงสถานบันเทิงแนวไนท์ไลฟ์ยามค่ำคืน
ส่วนสินค้าและของที่ระลึกมีทั้งงานหัตถกรรมและผลิตภัณฑ์จากธรรมชาติ โดยเฉพาะสับปะรด มีผ้าบาติกและผ้าพิมพ์ลายไทย รวมถึงเครื่องจักสานไม้ไผ่และเครื่องใช้ที่ทำจากป่านศรนารายณ์ นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพและความงามแปรรูปจากน้ำมันมะพร้าวของ วิสาหกิจชุมชนบ้านแสงอรุณ อำเภอทับสะแก ซึ่งที่นี่เป็นเป็นต้นตำรับน้ำมันสกัดเย็นออร์แกนิค และมีบรรจุภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ คือน้ำมันมะพร้าวบรรจุในลูกกะลา พร้อมด้วยผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ผลิตมาจากน้ำมันมะพร้าว กว่า 10 ชนิด เช่น แชมพู ครีมนวด ครีมหมักผม ครีมอาบน้ำ โลชั่น สครัป เซรั่ม สบู่ แฮร์โคช ฯลฯ
หลังจากตีกอล์ฟและเที่ยวกันเหนื่อยอยากรีแลกซ์ สามารถแวะไป ศูนย์การค้าบลูพอร์ตหัวหิน ศูนย์การค้าสไตล์รีสอร์ทแห่งใหม่ที่รวบรวมสินค้าไลฟ์สไตล์ ร้านค้าแฟชั่น ของตกแต่งบ้านอินเทรนด์ โฮมสปา และร้านอาหาร รวมกว่า 200 ร้านค้า ส่วนใครที่ชื่นชอบผ้าฝ้ายทำมือคุณภาพพรีเมียม ต้องแวะไปที่ ร้านผ้าโขมพัสตร์ ร้านขายผ้าฝ้ายพื้นเมืองเก่าแก่ตั้งแต่ยุคหลังสงครามโลกครั้งที่สอง โดยพลเอกพระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าบวรเดช และหม่อมเจ้าหญิงผจง-รจิตร กฤดากร ได้ทรงสร้างโรงงานย้อมและพิมพ์ผ้าขึ้นที่หัวหิน โดยยุคแรกเริ่มเน้นการพิมพ์ลายไทยลงบนผ้าฝ้ายเป็นหลัก จากนั้นประยุกต์ลายผ้าพิมพ์ และคิดค้นลวดลายใหม่ๆ ขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยยังคงรักษาเอกลักษณ์ ของผ้าพิมพ์ลายไทยของหัวหินไว้ และทุกอย่างยังคงผลิตด้วยมือตั้งแต่ต้นจนจบ ยกเว้นขั้นตอนการซักรีดและอบผ้า ซึ่งผ้าโขมพัสตร์ได้กลายมาเป็นอีกหนึ่งเอกลักษณ์ของเมืองหัวหิน ที่หลายคนนิยมซื้อเป็นของฝากระดับพรีเมียมที่สร้างความประทับใจให้กับผู้รับแน่นอน
และสำหรับงานเทศกาล "หัวหิน-ชะอำ กอล์ฟเฟสติวัล ครั้งที่ 16" ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่ 1 ส.ค.-30 ก.ย.นี้ มีสนามกอล์ฟเข้าร่วมเทศกาลครั้งนี้ 9 แห่ง ได้แก่ สนามกอล์ฟหลวงหัวหิน, สนาม ศพก.ทบ.สวนสนประดิพัทธ์, สนามมาเจสติก ครีก คันทรี คลับ, สนามบันยัน กอล์ฟ คลับ หัวหิน, สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ, สนามเลควิวรีสอร์ท แอนด์ กอล์ฟ คลับ, สนามกอล์ฟแก่งกระจานคันทรีคลับ, สนามปาล์มฮิลล์ กอล์ฟ คลับ แอนด์เรสซิเด้นท์, สนามกอล์ฟสปริงฟิลด์ รอยัล คันทรี คลับ ทั้งหมดร่วมกันลดค่ากรีนฟีพิเศษ เหลือเพียงสนามละ 1,000 บาท ยกเว้นสนามบันยัน กอล์ฟ คลับ และแบล็คเมาน์เทนกอล์ฟ คลับ หัวหิน ที่กรีนฟีราคา 1,800 บาท นอกจากนี้ ยังจัดรายการแข่งขันทุกวันอาทิตย์ ค่ากรีนฟี 1,600 บาท และ 2,400 บาท พร้อมงานเลี้ยงเย็น และลุ้นชิงรางวัลสร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท สนใจสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ ททท.สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ โทร. 0 3251 3885 หรือเว็บไซต์ www.ppgathailand.com
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *