xs
xsm
sm
md
lg

หัวใจจะวาย! "ช้างศึก" แม่นโทษ เชือด เบลารุส 5-4 ป้องแชมป์ "คิงส์คัพ" สำเร็จ

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สรรวัชญ์ เดชมิตร พยายามเลี้ยงบอลหนีการเข้าสกัดของ เบลารุส
"ช้างศึก" ทำได้ ยิงโทษแม่นกว่า เชือดเบลารุส 5-4 หลังเจ๊าจืด 90 นาที 0-0 ป้องกันแชมป์ "คิงส์คัพ" ได้สำเร็จ ถือเป็นสมัยที่ 15 ของขุนพลทีมชาติไทย

การแข่งขันฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน "คิงส์คัพ" ครั้งที่ 45 เมื่อวันที่ 16 กรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ ขุนพล "ช้างศึก" ทีมชาติไทย ที่เอาชนะ เกาหลีเหนือ 3-0 ในรอบที่แล้ว พบกับ เบลารุส ที่ดวลจุดโทษชนะ บูกินาฟาโซ เข้ามา

เกมนี้ มิโลวาน ราเยวัช ยึด 11 ผู้เล่นชุดเดิมจากในเกมก่อน ไม่มีการเปลี่ยนแปลงใดๆทั้งสิ้น ขณะที่ เบลารุส ยึดผู้เล่นชุดเดิมเกือบทั้งหมดจากในเกมที่แล้วเช่นเดียวกับทีมชาติไทย

เริ่มเกมทั้งสองทีมไม่เปิดเกมบุกใส่กันเท่าที่ควร โดยเป็น ไทย ที่ครองบอลได้ดีกว่าเล็กน้อย แต่หาโอกาสทำประตูแทบไม่ได้

นาทีที่ 8 เป็นฝั่งเบลารุส ที่ได้ลุ้นก่อน จากการยิงไกลนอกกรอบเขตโทษของ ดิมิทรี แอนท์ซิลิวสกี แต่บอลไปตรงตัวของ กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์

ต่อมานาทีที่ 18 เป็น ไทย ที่มีโอกาสลุ้นประตูบ้าง จากจังหวะที่ ธีราทร บุญมาทัน เปิดบอลจากริมเส้นฝั่งซ้ายให้ อดิศักดิ์ ไกรษร ได้โหม่งเต็มๆ แต่บอลหลุดกรอบออกไป

หลังจากนั้นทั้งสองทีมผลัดกันครองบอลอยู่บริเวณกลางสนาม ไม่ค่อยมีจังหวะน่าตื่นเต้นเท่าไหร่นัก

นาทีที่ 35 ไทย ได้โอกาสลุ้นประตูจากจังหวะลูกฟรีคิกระยะ 25 หลา ของ ธีราทร บุญมาทัน แต่ยิงไปเข้ามือผู้รักษาประตู เบลารุส

หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่มีใครทำประตูกันได้ หมดเวลา 45 นาทีแรก ทีมชาติไทย เสมอ เบลารุส 0-0

เริ่มเกมในครึ่งหลัง ไทย เป็นฝ่ายครองเกมได้เหนือกว่าเล็กน้อย พยายามหาช่องเจาะแนวรับ เบลารุส เพื่อทำประตูขึ้นนำให้ได้ แต่จังหวะสุดท้ายยังขาดๆเกินๆ

นาทีที่ 64 เป็นจังหวะลุ้นประตูของ เบลารุส เยาเฮนี เชาเชนก้า หัวหอกตัวเก่ง ได้โอกาสยิงหน้ากรอบเขตโทษ แต่ไปติดบล็อกของ พรรษา เหมวิบลูย์ ออกหลังไป

ทีมช้างศึก ที่พยายามหาจังหวะในการจบสกอร์เพื่อทำประตูให้ได้ แต่ไม่มีโอกาสจะแจ้งเท่าไหร่นัก

ช่วง 10 นาทีสุดท้าย ไทย เป็นฝ่ายพับสนามขึงเกมบุกเข้าใส่ เบลารุส เพื่อทำประตูขึ้นนำให้ได้ นาทีที่ 88 ไทยได้ลุ้นจากจังหวะลูกฟรีคิก ระยะ 30 หลา เยื้องมาทางซ้าย ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ยิงบอลกระดอนพื้นเฉี่ยวเสาออกไปนิดเดียว

หลังจากนั้นทั้งสองทีมไม่มีใครทำอะไรกันได้ หมดเวลา 90 นาที ไทย เสมอ เบลารุส 0-0 ต้องตัดสินแชมป์ด้วยการดวลลูกจุดโทษ

มาถึงการดวลจุดโทษ เป็นทีมชาติไทย ที่ยิงได้แม่นกว่า เอาชนะไปได้ 5-4 โดยทีมช้างศึก ธีรเทพ วิโนทัย, ฟิลิป โรเลอร์, ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธีราทร บุญมาทัน และสิโรจน์ ฉัตรทอง ยิงเท้า ส่วน พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา ยิงไม่เข้า

โดย "ช้างศึก" ทีมชาติไทย สามารถป้องกันแชมป์ "คิงส์คัพ" ได้สำเร็จ ถือเป็นแชมป์คิงส์คัพสมัยที่ 15 ของทีมชาติไทย

รายชื่อ 11 ตัวจริงของทั้งสองทีม
ทีมชาติไทย
ผู้รักษาประตู กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์ - กองหลัง พีระพัฒน์ โน้ตชัยยา, พรรษา เหมวิบูลย์, เฉลิมพงษ์ เกิดแก้ว, อดิศร พรหมรักษ์ - กองกลาง ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, สรรวัชญ์ เดชมิตร - กองหน้า มงคล ทศไกร, ธีราทร บุญมาทัน, อดิศักดิ์ ไกรษร

ทีมชาติเบลารุส
ผู้รักษาประตู ดูดาร์ ซมิทรี - กองหลัง สกิตัว อาร์เซียม, ควัลโค ยาฮอร์, เปียเชนิน คิริล, นาวามู มิกาต้า - กองกลาง คัตเลียรู อเลียคซานดาร์, คลิโมวิช อูลาดซิสลัว, เบสส์เมิร์ทนี ซมิทรี, วอลคัว ซัคฮาร์ - กองหน้า อันต์ซิลิวสกี ซมิทรี, เชาเชนก้า เยาเฮนี

ยอดผู้ชมในสนามราชมังคลากีฬาสถาน : 22,483 คน



กำลังโหลดความคิดเห็น