"เดอะ ซัน" แท็บลอยด์หัวดังของ อังกฤษ จัด 11 ขุนพลระดับค่าตัวแพงสุดของโลก ระบบ 4-3-3 นำโดยแนวรุกระดับพระกาฬอย่าง คริสเตียโน โรนัลโด กับ แกเร็ธ เบล คู่หู รีล มาดริด และ กอนซาโล ฮิกัวอิน ศูนย์หน้า ยูเวนตุส ขณะที่ จอห์น สโตนส์ กับ ลุค ชอว์ ถูกมองเป็นจุดอ่อนเกมรับ
ผู้รักษาประตู
จิอันลุยจิ บุฟฟอน ปาร์มา ไป ยูเวนตุส 33 ล้านปอนด์ (1.65 พันล้านบาท) ปี 2001 : ตามสายตาคนทั่วไป เชื่อว่า คือ ผู้รักษาประตูดีสุดของโลก แม้อายุอานามล่วงเลยมา 38 ปี และอาจมีชื่อลุ้นรางวัล "บัลลง ดอร์" ปี 2018 ช่วย "ม้าลาย" คว้าดับเบิลแชมป์ ทั้ง กัลโช เซเรีย อา และ โคปปา อิตาเลีย ขาดเพียงโทรฟี ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ที่โหยหามาตลอดอาชีพ
กองหลัง
ดานี อัลเวส เซบีญา ไป บาร์เซโลนา 30 ล้านปอนด์ (1.5 พันล้านบาท) ปี 2008 : รายละเอียดการซื้อ-ขาย แบ่งเป็น 23 ล้านปอนด์ (1.15 พันล้านบาท) บวกโบนัส 7 ล้านปอนด์ (350 ล้านบาท) ซึ่งก็ตอบแทนครบทุกบาททุกสตางค์ กวาดโทรฟี 23 ใบ ตลอด 8 ซีซัน ในถิ่น คัมป์ นู หากคิดเฉพาะค่าตัว ราคาเฉลี่ยถ้วยละ 1 ล้านปอนด์ (50 ล้านบาท)
จอห์น สโตนส์ เอฟเวอร์ตัน ไป แมนฯ ซิตี 47.5 ล้านปอนด์ (2.375 พันล้านบาท) ปี 2016 : เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซือชาวสเปน คาดหวังจะปลุกปั้นให้เป็นตัวตั้งเกมรุกเหมือน เกราร์ด ปิเก สมัยคุม บาร์เซโลนา แต่ยังมิอาจฉายแววเด่นเหมือนแผงกลาง "เรือใบสีฟ้า" และมักกลายเป็นแพะจังหวะผิดพลาดอันนำไปสู่การเสียประตู
ดาวิด ลุยซ์ เชลซี ไป ปารีส แซงต์ แชร์แมง 50 ล้านปอนด์ (2.5 พันล้านบาท) ปี 2014 : กลับมาโชว์ฟอร์มยอดเยี่ยมกับ "สิงโตน้ำเงินคราม" หลังถูกวิจารณ์ด้านเติมเกมรุกจนละเลยหน้าที่เกมรับ ช่วงแรกของการค้าแข้งระดับ พรีเมียร์ ลีก ได้รับการเลือกติดทีมยอดเยี่ยม สมาคมนักฟุตบอลอาชีพ (PFA) ช่วย "เดอะ บลูส์" หยิบโทรฟีลีกสูงสุด ฤดูกาลที่แล้ว
ลุค ชอว์ เซาแธมป์ตัน ไป แมนฯ ยูไนเต็ด 34 ล้านปอนด์ (1.7 พันล้านบาท) ปี 2014 : เคยได้รับการยกย่องว่าเป็นแบ็กซ้ายดีสุดของ พรีเมียร์ ลีก ก่อนหน้าย้ายสู่ถิ่น โอลด์ แทรฟฟอร์ด อย่างไรก็ตาม ปราการหลังวัย 21 ปี ยังไม่สามารถการันตีตัวจริงอย่างถาวร ทำให้อนาคตกับ "เรด เดวิลส์" ทำท่าจะมืดมน
กองกลาง
พอล ป็อกบา ยูเวนตุส ไป แมนฯ ยูไนเต็ด 89 ล้านปอนด์ (4.45 พันล้านบาท) ปี 2016 : อำลา ยูไนเต็ด แบบฟรีๆ ก่อนย้ายกลับอ้อมอก "ปิศาจแดง" อีก 4 ปีต่อมา สถิติแพงสุดของโลก ทว่ายังมิอาจรับมือความคาดหวังอย่างมหาศาลจากแฟนๆ อย่างไรก็ตาม ป็อกบา ยิงประตูเกม ยูโรปา ลีก รอบชิงชนะเลิศ และโดดเด่นกับ ทีมชาติฝรั่งเศส พบ อังกฤษ เกมอุ่นเครื่อง
ซีเนอดีน ซีดาน ยูเวนตุส ไป รีล มาดริด 47 ล้านปอนด์ (2.375 พันล้านบาท) ปี 2001 : ตอบแทนความคุ้มค่าด้วยลูกวอลเลย์สุดสวย พบ ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซน ช่วย "ราชันชุดขาว" คว้าแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ตั้งแต่ซีซันแรก และซิวถ้วย ลา ลีกา สเปน อีก 1 ซีซันต่อมา แต่สัมผัสโทรฟี สแปนิช ซูเปอร์ คัพ เพียง 1 ครั้งตลอด 3 ฤดูกาลสุดท้าย
เจมส์ โรดริเกวซ โมนาโก ไป รีล มาดริด 63 ล้านปอนด์ (3.15 พันล้านบาท) ปี 2014 : สร้างชื่อครองดาวซัลโวสูงสุด ฟุตบอลโลก 2014 ที่ประเทศบราซิล ก่อนย้ายสู่ถิ่น ซานติอาโก เบร์นาบิว แต่ความฝันไม่ได้เป็นไปตามคาด ชวดสัมผัสเกมชิงชนะเลิศ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก 2 ปีติดต่อกัน และด้วยวัยเพียง 25 ปี ยังมีโอกาสหาสังกัดใหม่ช่วงซัมเมอร์
กองหน้า
คริสเตียโน โรนัลโด แมนฯ ยูไนเต็ด ไป รีล มาดริด 80 ล้านปอนด์ (4 พันล้านบาท) ปี 2009 : กวาดแชมป์ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กับ "ลอส บลังกอส" ตลอดระยะเวลา 8 ปี ได้รับการคาดหมายว่าทาบสถิติสูงสุดของ ลิโอเนล เมสซี ดาวยิง บาร์เซโลนา ที่ทำไว้ 5 สมัย
กอนซาโล ฮิกัวอิน นาโปลี ไป ยูเวนตุส 75.3 ล้านปอนด์ (3.765 พันล้านบาท) ปี 2016 : กลายเป็นคนทรยศของ นาโปลี ย้ายสู่ถิ่น ยูเวนตุส สเตเดียม หลังกระทุ้งไป 36 ประตู นับเฉพาะ กัลโช เซเรีย อา ซึ่งปัจจุบันมาตรฐานยังไม่ตก กดไป 32 ประตูรวมทุกรายการ
แกเร็ธ เบล ท็อตแนม ฮ็อตสเปอร์ ไป รีล มาดริด 86 ล้านปอนด์ (4.3 พันล้านบาท) ปี 2013 : ประสบความสำเร็จในฐานะนักเตะส่งออกจาก สหราชอาณาจักร ซัดประตูชัยเกม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และ โกปา เดล เรย์ รอบชิงชนะเลิศ ปัจจุบันสัมผัสทุกโทรฟีในประเทศสเปนเรียบร้อยแล้ว แต่ฝีเท้ายังห่างชั้นกับคำว่าทายาท คริสเตียโน โรนัลโด ซัดไป 67 ประตู เทียบกับ "โด้" ที่ทำไว้ 205 ประตู ช่วง 4 ปีแรก