ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - เวลาพูดถึงอคาเดมีฟุตบอลที่มีชื่อเสียงโด่งดังในวงการลูกหนัง แฟนบอลมักจะนึกถึง “ลา มาเซีย” ของ บาร์เซโลนา ที่สเปน และ อาแจ๊กซ์ ของเนเธอร์แลนด์ เป็นลำดับต้นๆ เพราะถือเป็นสองสถาบันที่ปลุกปั้นดาวรุ่งก้าวขึ้นเป็นผู้เล่นระดับโลก ทั้ง เชส ฟาเบรกาส, อันเดรียส อิเนียสตา, ลิโอเนล เมสซี, เวสลีย์ สไนจ์เดอร์, ราฟาเอล ฟาน เดอ ฟาร์ท โดยไม่มีใครคาดคิดว่ายังมีโรงเรียนลูกหนังอีกแห่งในฝรั่งเศส ที่สร้างสุดยอดนักเตะเป็นกระบุง การันตีคุณภาพยามถูกปล่อยลงฟลอร์หญ้า
“แคลร์ฟองแต็ง” (Clairefontaine) คือ ชื่อของอคาเดมีฟุตบอลดังกล่าว โรงเรียนลูกหนังแห่งนี้มีฐานทัพใหญ่อยู่ที่เมือง อีฟว์ลีน ประเทศฝรั่งเศส แต่ก็มีการกระจายสาขาออกไปตามเมืองต่างๆ เช่น ดิฌง, มาร์กเซย, คาสเตลเมารู, ชาโตรูซ์, แรมส์ ฯลฯ ภายใต้การรับรองคุณภาพจากสมาคมฟุตบอลฝรั่งเศส (FFF) ซึ่งมี เฟอร์นองด์ ซาสเตร ประธานสมาคมฟุตบอล “ตราไก่” เป็นผู้ริเริ่มและก่อตั้งขึ้นมาในปี 1988 จากแนวคิดของ สเตฟาน โควัคส์ อดีตนักฟุตบอลชาวโรมาเนียน ที่แนะนำไอเดียนี้
คุณสมบัติของผู้เข้ารับการเล่าเรียนในสถาบัน ไม่มีปิดกั้นว่าคุณจะเป็นเพศชายหรือหญิง ขอแค่มีใจรักในการหวดลูกหนังก็มายื่นใบสมัครได้ แต่ต้องมีอายุอย่างน้อย 13 ปี และมีสัญชาติเป็นชาวฝรั่งเศสตัวจริงเท่านั้น การเปิดรับสมัครจะมีขึ้นในเดือนตุลาคมของทุกปี ก่อนทำการคัดสรรให้เหลือผู้ที่มีคุณสมบัติทางการเล่นฟุตบอลที่ผ่านเกณฑ์ของทีมงานมากที่สุด 22 รายของแต่ละสาขา ในเดือนธันวาคม โดย 3 - 4 คน ในจำนวนดังกล่าวจะต้องเลือกเป็นผู้รักษาประตู
เมื่อได้นักเรียนเข้ามาอบรมเรียบร้อย ทั้งหมดนี้จะถูกจับให้ต้องมาอยู่ภายใต้บ้านหลังเดียวกัน กินอยู่หลับนอนด้วยกันที่ศูนย์ฝึก ซ้อมตั้งแต่วันจันทร์ - วันศุกร์ ส่วน เสาร์ - อาทิตย์ ก็ปล่อยให้กลับไปอยู่กับครอบครัว พักผ่อนตามสบาย หลักสูตรที่ทุกคนจะได้เรียนประกอบด้วยการเสริมสร้างพละกำลัง ฝึกการใช้สปีดเคลื่อนไหวให้เร็วและเร็วยิ่งขึ้น, เรียนรู้การใช้ขาข้างที่ไม่ถนัดในการเตะบอล, ฝึกทักษะ เลี้ยง - ส่ง - โหม่ง - ยิง, ฝึกการทำงานเป็นทีม รวมถึงทดสอบสภาวะทางอารมณ์ทุกครั้ง
นอกจากการเรียนการสอน ศูนย์ฝึก แคลร์ฟองแต็ง ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน เช่น ห้องพยาบาล, ห้องฟิตเนส, ร้านอาหาร, คาเฟ่ กระทั่งคอร์ตเทนนิสสำหรับผู้ที่สนใจอยากเล่น ด้านสนามฟุตบอลก็มีทั้งอินดอร์และเอาต์ดอร์ มาตรฐานเท่ากันหมด และในที่สุดเมื่อจบหลักสูตรการเรียนการสอนก็จะรับมอบประกาศนียบัตร และปล่อยตัวผู้เล่าเรียนไปต่อยอดอนาคตเองว่าอยากจะทำอะไรเช่นนักฟุตบอลอาชีพ หรือเก็บเกี่ยวความรู้เพื่อเป็นโค้ช
เมื่อถามว่าศูนย์ฝึกแห่งนี้ ปลุกปั้นนักเตะคนใดมาประดับวงการบ้าง? ต้องบอกว่าเยอะมากและต่างก็เป็นผู้เล่นระดับโลกที่เคยมาค้าแข้งในพรีเมียร์ ลีก ทั้งสิ้นเช่น นิโคลาส์ อเนลกา, วิลเลียม กัลลาส, หลุยส์ ซาฮา, ฮาร์เทม เบน อาร์ฟา, เซบาสเตียน บาสซง, โอลิวิเยร์ ชิรูด์ รวมถึงผลงานชิ้นโบแดง คือ เธียร์รี อองรี ตำนานดาวยิงของ อาร์เซนอล ส่วนรายล่าสุดที่กำลังจะฉายแสงให้คนทั่วโลกได้รู้จัก คือ คีเลียน เอ็มบัปเป จอมซัลโวของ โมนาโก ที่แจ้งเกิดในเวที ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และนับถอยหลังสู่การเป็นนักเตะค่าตัว 100 ล้านปอนด์ ในอนาคต เพราะมีทั้ง แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และ รีล มาดริด จับตามอง
ทั้งนี้ แคลร์ฟองแต็ง ยังมีอีกบทบาทหนึ่งนอกเหนือการประสิทธิ์ประสาทความรู้แก่นักเรียนลูกหนัง ก็คือ เป็นแคมป์เก็บตัวฝึกซ้อมของขุนพลนักเตะทีมชาติฝรั่งเศส ทุกชุดที่ถูกส่งไปรับใช้ชาติตามทัวร์นาเมนต์ต่างๆ ซึ่งปลอดภัยและมีสื่อเข้ามาติดตามเป็นจำนวนมาก และเป็นฐานกำลังสำคัญของทัพ “เลส เบลอส์” ชุดคว้าแชมป์โลก เวิลด์ คัพ ปี 1998 ด้วย
เชื่อว่า จากนี้ไปแฟนบอลทั่วโลกจะได้รู้จักโรงเรียนลูกหนังที่นี่กันมากขึ้น หากผลิตผลล่าสุดอย่าง เอ็มบัปเป โยกย้ายสู่สโมสรระดับโลก ดึงดูดให้เด็กหนุ่มสาวทั้งหลายแห่กันมาสมัครเข้าเรียนคับคั่ง ทว่า เหนือสิ่งอื่นใดคือแม้จะได้เข้าเรียนกับโค้ชมืออาชีพ สิ่งสำคัญคือจงมุ่งมั่นตั้งใจ มีวินัย และเก็บเกี่ยวความรู้มาพัฒนาตนเองไปสู่ฝัน ซึ่งสิ่งนี้สามารถใช้ได้กับทุกเรื่องไม่ว่าจะเข้าเรียนที่อคาเดมีแห่งใดบนโลกนี้ก็ตาม