เอสซีจี ร่วมกับ สํานักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ และ สมาคมแบดมินตันแห่งประเทศไทยฯ เตรียมเปิดศึกความยิ่งใหญ่ให้แฟนชาวไทยได้รับชมกันอีกครั้ง สำหรับการแข่งขันแบดมินตันนานาชาติรายการใหญ่แห่งปี “เอสซีจี ไทยแลนด์ โอเพ่น 2017” รายการสะสมคะแนนโลกระดับกรังด์ปรีซ์ โกลด์ ชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พร้อมเงินรางวัล 120,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 3,960,000 บาท โดยการแข่งขันในปีนี้จะมีขึ้นระหว่างวันที่ 30 พ.ค.- 4 มิ.ย. 60 ที่ อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ซึ่งในปีนี้บรรดานักตบมือดีทั่วโลกยังคงให้ความสนใจตบเท้าเข้าร่วมอย่างเนืองแน่นมากกว่า 300 คน โดยเฉพาะแชมป์เก่า และรองแชมป์มากันครบหน้า นำโดย ประเภทชายเดี่ยว “เจ้าสอง” ทนงศักดิ์ แสนสมบูรณ์สุข กับ หญิงคู่คู่เก่ง “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย - “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล สองแชมป์เก่าความหวังของไทย ที่จะลงป้องกันแชมป์อีกครั้ง
โดย “เจ้าสอง” ทนงศักดิ์ ครั้งนี้เป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการ และมืออันดับ 11 ของโลก รอบแรกจะพบกับ มาเทจ ฮลินิน จากสโลวาเกีย ขณะเดียวกัน “เจ้าไบรท์” สัพพัญญู อวิหิงสานนท์ อีกหนึ่งหนุ่มความหวังของไทยขอลุ้นแชมป์ปีนี้ด้วย รอบแรกจะพบกับ ราฮูล ยาดาฟ ชิตตาโบนา จากอินเดีย ส่วนมือดีชายเดี่ยวอีกหลายคนไม่พลาดมาล่าแชมป์ปีนี้ ไม่ว่าจะเป็น โซนี ดวี คุนโคโร รองแชมป์ปีที่แล้ว และ แชมป์เก่าปี 2012 จากอินโดนีเซีย มือ 36 ของโลก รวมไปถึง อิห์ซาน มัวลานา มุสโตฟา มือ 32 ของโลกจากอินโดฯ รองแชมป์เก่าปี 2015 หรือจะเป็นนักตบชาวไทยรุ่นน้อง อาทิ โฆษิต เพชรประดับ มือ 46 ของโลก, ปัณณวิชญ์ ทองน่วม, อดุลรัชต์ นามกูล, กันตภณ หวังเจริญ, กันตวัฒน์ ลีลาเวชบุตรฯลฯ เรียกได้ว่ามากันครบหน้า
ขณะที่ประเภทหญิงคู่ “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย - “เอิร์ธ” พุธิตา สุภจิรกุล คู่มือ 10 ของโลก ยังคงปักหลักเป็นความหวังของไทย และเป็นคู่มือวางอันดับ 1 ของรายการ รอบแรกจะพบกับเ อพริลซาซี พูทรี วาเรียลา - ลินดา มูเทียรา คู่จากอินโดนีเซีย เช่นเดียวกับอีกคู่ “กิ๊ฟ” จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ “วิว” รวินดา ประจงใจ คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ และมืออันดับ 11 ของโลก ครั้งนี้จะขอแก้มือล่าแชมป์หลังจากปีก่อนอกหักเข้าได้เพียงแค่รอบตัดเชือก และ รอบแรกจะพบกับ ลินดา อีฟเลอร์ - อิวา เจนเซนส์ คู่จากเยอรมนี ขณะเดียวกัน เกรเซีย โปลลี แชมป์เก่าปี 2013 ที่ปีนี้จับคู่มากับ อาพริยานี ราฮายู และคู่มือวางอันดับ 5 ของรายการจากอินโดนีเซีย รวมถึง กรอนยา ซัมเมอร์วิล - เซ็ตยานา มาปาซา มือ 24 ของโลกจากออสเตรเลีย ก็ไม่พลาดมาสร้างสีสันให้ได้ลุ้นกันอีกด้วย
เช่นเดียวกับ ประเภทหญิงเดี่ยว ดุเดือดไม่แพ้กัน ไทยนำโดย “น้องเมย์” รัชนก อินทนนท์ มืออันดับ 8 ของโลก เจ้าของแชมป์เก่าปี 2013 ปีนี้เป็นมือวางอันดับ 1 ของรายการรอบแรกจะพบกับ ริทูพาร์นา ดาส จากอินเดีย ขณะที่ “น้องครีม” บุศนันทน์ อึ๊งบำรุงพันธุ์ รองแชมป์เก่าปีที่แล้วมือ 13 ของโลก ขอแก้ตัวล่าแชมป์ให้ได้ โดยรอบแรกจะพบ รูซีดีนา อันทราดายู จากอินโดนีเซีย ขณะเดียวกัน ความหวังไทยยังมี “แน็ต” ณิชชาอร จินดาพล มือ 14 ของโลก, “หมิว” พรปวีณ์ ช่อชูวงศ์ มือ 20 ของโลก ที่ยังมีโอกาสได้ลุ้น แม้ปีนี้จะมี ไซนา เนห์วาล ดีกรีแชมป์เก่าปี 2012 มือ 9 ของโลก, ซายากะ ทาคาฮาชิ จากญี่ปุ่น, จาง เป่ย เหวิน มือ 12 ของโลกจากอเมริกัน และเป็นมือวางอันดับ 3 ของรายการ ตบเท้าเข้าลุ้นแชมป์ด้วย
ด้านประเภทชายคู่ และคู่ผสม นับได้ว่าครั้งนี้หลายคู่ฟิตพร้อมน่าจับตา โดยชายคู่ ไทยนำโดย “อาท” บดินทร์ อิสสระ - “ต้นน้ำ” นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการมืออันดับ 13 ของโลก และคู่ “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ - “สกาย” กิตตินุพงษ์ เกตุเรน มือ 23 ของโลก และมือวางอันดับ 6 ของรายการ ส่วน วาหยุ นายาคา อาร์ยา - เอดี ยูซูฟ ซานโตโซ แชมป์เก่าปี 2015 จาก อินโดนีเซีย, คิม แอสทรัพ - แอนเดิร์ส ราสมุสเซน คู่มือวางอันดับ 1 ของรายการจากเดนมาร์ก มือ 9 ของโลก รวมถึง มาคัส เอลลิส - คริส แลงริดจ์ คู่มือ 19 ของโลก เจ้าของเหรียญทองแดงโอลิมปิกเกมส์ จากอังกฤษ และ ตัน บุน ฮอง - เฮนดรา เซเตียวาน คู่มือเก๋าชาวมาเลเซีย - อินโดนีเซีย ก็จะมาล่าแชมป์กลับบ้านครั้งนี้ด้วย
เช่นเดียวกับคู่ผสมไทยมี “ปอป้อ” ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย - “บาส” เดชาพล พัววรานุเคราะห์ ซึ่งเป็นคู่มือวางอันดับ 1 ของรายการมือ 9 ของโลก เป็นกำลังหลัก กับคู่ บดินทร์ อิสสระ - สาวิตรี อมิตรพ่าย คู่มือ 21 ของโลก และเป็นมือวาง 3 ของรายการ และอีกคู่ นิพิฐพนธ์ พวงพั่วเพชร - จงกลพรรณ กิติธรากุล คู่มือ 27 ของโลก ที่มีโอกาสสร้างเซอร์ไพรส์ในบ้านได้เช่นกัน แต่ทั้งนี้ ราฟาเอล เบ็ค - อีวา แยนส์เซนส์ สองนักตบจากเยอรมนี กับ ยอง ไค เทอร์รี ฮี-ตัน เหว่ย หาน คู่มือวางอันดับ 2 ของรายการ จากสิงคโปร์ ก็นับเป็นกระดูกชิ้นโตที่ไทยจะประมาทไม่ได้
สำหรับแฟนๆ กีฬาแบดมินตันไทยที่ชื่นชอบ ร่วมชมร่วมเชียร์นักตบลูกขนไก่ทีมชาติกันได้ทุกวัน ที่ อาคารกีฬานิมิบุตร สนามกีฬาแห่งชาติ ในระหว่างวันที่ 30 พ.ค.- 4 มิ.ย. 60 โดยวันแรก 30 พ.ค. จะเริ่มการแข่งขันในรอบคัดเลือกเวลา 09.00 น. เป็นต้นไป โดยผู้สนใจสามารถซื้อบัตรเข้าชมราคา 50, 100, 200, 400, 2,000 บาท (วีไอพี) ได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ หรือดูรายละเอียดได้ที่ www.thaiticketmajor.com สำหรับในวันที่ 3 มิ.ย. True Sport 7 (ช่อง 686) จะถ่ายทอดสดในรอบรองชนะเลิศ และรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 4 มิ.ย. จะทำการถ่ายทอดสดทางช่อง 3SD (ช่อง 28)