xs
xsm
sm
md
lg

“ชนคนตาย” ถึง “ไลป์ซิก” รอยด่างแบรนด์ “กระทิงแดง” ความเกลียดที่ส่งต่อกันมา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ติโม เวอร์เนอร์ กองหน้า ไลป์ซิก
ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - เวทีโม่แข้ง บุนเดสลีกา เยอรมัน ฤดูกาล 2016-17 เหลืออีก 2 นัด แต่ทราบโฉมหน้าแชมป์ไปแล้วว่าเป็นของขาประจำอย่าง บาเยิร์น มิวนิก รวมถึงโควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก อีก 3 ที่นั่งตกเป็นของ ไลป์ซิก, โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ และ ฮอฟเฟนไฮม์ ส่วนตกชั้นไปแล้ว 1 ทีม คือ ดาร์มสตาดต์

เหนืออื่นใดคือต้องแสดงความยินดีกับม้ามืดอย่าง ไลป์ซิก กับ ฮอฟเฟนไฮม์ ที่ได้ไปอวดฝีเท้าสังเวียนใหญ่อย่าง แชมเปียนส์ ลีก ซึ่งดูผิวเผินก็น่าจะสร้างความชื่นมื่นให้กับคนเยอรมันไม่น้อย แต่กลับไม่เป็นเช่นนั้น โดยเฉพาะทีมแรกที่ได้ไปเล่นรอบแบ่งกลุ่มแบบอัตโนมัติ

คนเยอรมันไม่ปลื้ม ไลป์ซิก ด้วยหลากหลายเหตุผล คือ เพิ่งก่อตั้งเมื่อวันที่ 19 พฤษภาคมปี 2009 ทำให้ไม่ค่อยมีเกียรติประวัติให้ภาคภูมิใจ แถมเติบโตขึ้นจากน้ำมือของชาวต่างชาติ คือ แบรนด์เครื่องดื่มชูกำลัง Red Bull GmbH ที่ซื้อสิทธิ์มาจาก มาร์กรานสตาดต์ สโมสร ดิวิชัน 5 ก่อนปลุกปั้นจนกระทั่งมีทุกวันนี้

ไลป์ซิก ยิ่งเทียบไม่ได้กับ บาเยิร์น มิวนิก แชมป์ลีกสูงสุด 27 สมัยปลุกปั้นผู้เล่นระดับโลกประดับวงการลูกหนังมาแล้วมากมาย ไม่ว่าจะเป็น เกิร์ด มุลเลอร์ กับ ฟรานซ์ เบ็คเคนเบาเออร์ ขณะที่ทีมน้องใหม่นั้นขึ้นมาจากเหตุผลด้านธุรกิจล้วนๆ แม้ว่าจะบริหารทีมและซื้อนักเตะได้อย่างถูกจุดจนคว้าโควตา แชมเปียนส์ ลีก

หนึ่งในผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จในฤดูกาลนี้ของ ไลป์ซิก ก็คือ ราล์ฟ รังนิก ผู้อำนวยการด้านกีฬาวัย 58 ปี โดยอาศัยวิสัยทัศน์จากประสบการณ์ที่เคยคุม สตุ๊ตการ์ท กับ ชาลเก 04 มาแล้ว เหนืออื่นใดก็ยากเปลี่ยนความคิดที่คนในประเทศต่างฝั่งรากลึกลงไปแล้วว่าเป็นทีมที่อยู่ในเงื้อมมือของชาวต่างชาติ

แน่นอนว่า ไลป์ซิก ถูกโจมตีต่างๆ จากสโมสรคู่แข่ง ไม่ว่าจะขยับตัวทำอะไร โดยเฉพาะประเด็นในเรื่องของการซื้อความสำเร็จ ขณะที่บรรดาสตาฟฟ์โค้ชหรือไม่ก็บอร์ดบริหารถูกตราหน้าขั้นรุนแรงว่าเป็นพวก “โสเภณีฟุตบอลสมัยใหม่” (whore of modern football)

รานี เคห์ดิรา กองกลางวัย 23 ปี ของ ไลป์ซิก ที่เป็นน้องชายของ ซามี เคห์ดิรา มิดฟิลด์ทีมชาติเยอรมัน ของ ยูเวนตุส ได้แต่ก้มหน้าก้มตารีดผลงาน โดยหวังว่าการไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก จะได้รับการยอมรับจากแฟนบอลในประเทศมากขึ้น

นอกจาก รานี ทางด้าน ไลป์ซิก ยังมีนักเตะที่สามารถฝากความหวังได้ไม่ว่าจะเป็น ติโม เวอร์เนอร์ กองหน้าที่กดไปแล้ว 19 ประตูในลีกเมืองเบียร์ รวมถึง เอมิล ฟอร์สเบิร์ก ที่ทำไป 16 แอสซิสต์ มากที่สุดในลีกเวลานี้ และ โอลิเวอร์ เบิร์ก มิดฟิลด์เลือดสกอต ที่ทีมควักเงินสูงที่สุดเป็นสถิติทีม 13 ล้านปอนด์ (ประมาณ 585 ล้านบาท) มาจาก น็อตติงแฮม ฟอเรสต์ เมื่อซัมเมอร์

ไม่ง่ายเลยที่ ไลป์ซิก จะเปลี่ยนความคิดที่ฝังรากลึกของคนเยอรมัน อีกทั้งโลโกของทีมยังย้ำเตือนด้วยรูปที่เป็นฉายาของทีมด้วย คือ “กระทิงสีแดง” (Die Roten Bullen) อันมาจากเครื่องดื่มชูกำลังชื่อดัง

ซึ่งเมื่อเอ่ยถึง “กระทิงแดง” แน่นอนว่า เราย่อมนึกถึงทีมแข่ง เอฟวัน ที่ชื่อ “เรด บูล เรซซิง” ที่มีเจ้าของเป็นมหาเศรษฐีชาวออสเตรีย คือ ดีทริซ มาเตสชิตซ์ โดยเปิดตัวในวงการความเร็วเมื่อปี 2005 หลังซื้อกิจการต่อจาก จากัวส์ เรซซิง ปี 2004 ที่สำคัญเลยเป็นผู้บริหารทีมแข่งจากการถือหุ้น 49 เปอร์เซนต์ ดังนั้น เจ้าของทีมที่แท้จริงนั้นจึงไม่ใช่คนไทย

แม้การบริหารจัดการเครื่องดื่ม “กระทิงแดง” กับ “เรด บูล เรซซิง” จะแยกกันทั้งหมด รวมถึง ไลป์ซิก แต่ก็ไม่วายถูกจับโยงกับคดีอื้อฉาว “บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ทายาทผู้บริหารกระทิงแดงประเทศไทย ที่หนีคดีออกนอกประเทศจากการที่ขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2012 เรียกได้ว่าอีรุงตุงนังกันไปหมด

ส่วนเรื่องที่มีข่าวว่า 2 ค่ายรถดัง เมอร์เซเดส กับ เฟอร์รารี ปฏิเสธให้ความร่วมมือจัดส่งเครื่องยนต์ให้กับทาง เรด บูล เรซซิง หลังมีนักข่าว “เอพี” ไปตาม “บอส” วรยุทธ ถึงรังที่ประเทศอังกฤษ นั้นก็ไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นความจริง เหนืออื่นใดคือเรื่องเหตุผลทางธุรกิจและผลงานในสนามมาเป็นลำดับแรกมากกว่า

สุดท้ายแล้วทุกอย่างก็ต้องแยกกันเป็นเรื่องๆ ไป เพียงแต่ว่าที่ผ่านมาบังเอิญมาพัวพันกันแบบไม่ได้นัดหมาย ซึ่งถ้าถามว่าเรื่องฉาวที่เกิดขึ้นมีผลกระทบกับผลงานของ ไลป์ซิก รวมถึง เรด บูล เรซซิง หรือไม่ก็คงตอบว่าไม่ เพียงแต่เป็นรอยด่างของแบรนด์ที่เสียไปแล้วยากที่จะกู้คืนกลับมา เพราะเมื่อพูดถึงครั้งใดก็ย่อมไม่วายมีคนต้องขุดหรือสะกิดให้นึกถึงอยู่ร่ำไป

เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล
สโมสร ไลป์ซิก ที่คนเยอรมันเกลียด
“บอส” วรยุทธ อยู่วิทยา ที่กำลังหนีคดี
คดีขับรถชนตำรวจเสียชีวิตเมื่อปี 2012
โยงกันจนมาถึงทีมแข่ง เรด บูล เรซซิง
ไลป์ซิก กำลังไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก
กำลังโหลดความคิดเห็น