“โนเล” เฟ้น “ซูเปอร์โค้ช” ก่อน “สแลมเฟรนช์” เป้าหมายคืนบัลลังก์

เอเยนซี - เป็นข่าวฮือฮาในวงการเทนนิสเมื่อ โนวัค ยอโควิช มือ 2 ของโลกจาก เซอร์เบีย โละทีมงานของตัวเองยกแผงทั้ง หัวหน้าโค้ช, นักกายภาพ และนักจิตวิทยา ล้างเครื่องใหม่หมดหลังประสบปัญหาฟอร์มตกตั้งแต่เริ่มปี 2017 ล่าสุดประกาศแล้วว่าสเป๊คติวเตอร์คนใหม่ต้องเป็น “ซูเปอร์โค้ช” ที่ประสบความสำเร็จในฐานะผู้เล่นหยิบแชมป์มากมาย ซึ่งปัจจุบันก็มีผู้เล่นระดับตำนานหลายรายที่มีคุณสมบัติถูกต้อง และทางที่ดีควรแต่งตั้งให้เร็วที่สุดก่อนเวทีใหญ่ลำดับ 2 ของปี เฟรนช์ โอเพน ที่ ฝรั่งเศส จะเริ่มขึ้นในวันที่ 28 พฤษภาคมนี้

สเตฟาน เอ็ดเบิร์ก
ครบเครื่องที่สุดในชั่วโมงนี้สำหรับตำนานมือ 1 โลกจาก สวีเดน ผู้ผ่านความสำเร็จในสนามอย่างโชกโชนทั้งแชมป์ แกรนด์ สแลม 6 สมัย, ทัวร์ ไฟนอลส์ ส่งท้าย เอทีพี ทัวร์ ปี 1989 และสองเหรียญทองแดง โอลิมปิก ที่กรุงโซล ปี 1988 และในฐานะโค้ชก็เคยปลุกฟอร์ม โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักหวดจอมเก๋าขวัญใจคนดูทั่วโลก กลับสู่ความยิ่งใหญ่เก็บแชมป์มากมายตั้งแต่ปี 2014-2015 ก่อนจะแยกทางจากกันด้วยดี

ขณะเดียวกัน เอ็ดเบิร์ก ยังมีอีกคุณสมบัติสำคัญที่ ยอโควิช พึงปรารถนาคือเรื่องของจิตวิทยา มีการใช้คำพูดและคำแนะนำที่ดีให้แก่นักหวดในความดูแลของตัวเอง ซึ่งเรื่องนี้ “เฟดเอ็กซ์” ยังเคยกล่าวชื่นชมว่า เอ็ดเบิร์ก เป็นมากกว่าโค้ช เก่งทั้งเรื่องบู๊และบุ๋น ซึ่งปัจจุบัน หวดเลือดเซิร์บก็มีปัญหาเรื่องการควบคุมอารมณ์อยู่ ดังนั้นจึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจที่สุด

อังเดร อากัสซี
ตำนานเลือดร้อนแห่งเมืองลุงแซม ชี่อเสียงในสนามไม่มีอะไรต้องสงสัยเพราะครองความยิ่งใหญ่ในวงการมาตลอดยุค 90 มี แกรนด์ สแลม ติดมือครบทุกใบที่วงการเทนนิสจัดแข่งขัน, ขึ้นรั้งมือ 1 โลก และเหรียญทองโอลิมปิกที่ แอตแลนตา ปี 1996 โดยถือเป็นคนแรกที่มองเห็นจุดอ่อนของ ยอโควิช ในปัจจุบันคือเรื่องอารมณ์ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่เขาเคยเผชิญสมัยเป็นผู้เล่นอาชีพ แน่นอนว่าด้วยประสบการณ์ที่มีน่าจะช่วยเจ้าตัวได้

อย่างไรก็ตาม สิ่งหนึ่งที่หวดเลือดเซิร์บอาจคิดหนักคือที่ผ่านมา ตำนานแร็กเกตแห่ง ลาส เวกัส ยังขาดประสบการณ์ฝึกสอนผู้เล่นระดับอาชีพ แม้จะเปิดอคาเดมีเป็นของตัวเอง แต่ก็สอนเพียงแต่เด็กๆเท่านั้น

จอห์น แม็คเอนโร
ปกติแล้วแฟนเทนนิสรุ่นหลังมักจะเห็น “บิ๊กแม็ค” ประจำการอยู่ที่สถานีโทรทัศน์ในฐานะคอมเมนเตเตอร์ตามรายการระดับ แกรนด์ สแลม แต่ในฐานะผู้เล่นก็ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการเช่นกัน กวาดแชมป์ แกรนด์ สแลม และ ทัวร์ ไฟนอลส์ นับไม่ถ้วน เช่นเดียวกับแชมป์ระดับชาติพาทีม สหรัฐอเมริกา กวาดถ้วยแชมป์โลก เดวิส คัพ 5 สมัย ด่างพร้อยเพียงแค่ไม่มี ออสเตรเลียน โอเพน กับ เฟรนช์ โอเพน ประดับตู้โชว์เท่านั้น3

ขณะที่ประสบการณ์ติวเตอร์ผู้เล่นอาชีพ เดือนมิถุนายนปีที่แล้วก็รับงานดูแล มิลอส ราโอนิค จอมเสิร์ฟหนักชาวแคนาเดียน ซึ่งผลงานก็เข้าขั้นดีช่วยส่งเจ้าตัวเป็นรองแชมป์ วิมเบิลดัน โดยแพ้ แอนดี เมอร์เรย์ เจ้าถิ่นแบบสูสี และทะยานขึ้นมือ 3 โลก ก่อนจะแยกทางกันภายหลัง และยังว่างอยู่จนถึงปัจจุบัน

บอริส เบ็คเกอร์
สมัยเป็นนักหวดอาชีพก็ประสบความสำเร็จมากมาย เป็นดาวค้างฟ้าแห่งเมืองเบียร์ ครั้นพอมารับงานคุม ยอโควิช ตั้งแต่ปี 2013 เสกสรรแชมป์ แกรนด์ สแลม ใส่มือลูกศิษย์ไปทั้งสิ้น 6 รายการ รวมถึงทัวร์นาเมนต์ระดับมาสเตอร์ส จนกระทั่งปี 2016 ก็ยุติการทำงานร่วมกันด้วยเหตุผลต้องการปรับทิศทางการเล่นใหม่ แต่ก็ดูไปไม่รอดเลยหลังจากนั้น

ทั้งนี้ ประตูสำหรับทั้งคู่ยังเปิดกว้างเพราะที่ผ่านมา เบ็คเกอร์ มักให้คำแนะนำอดีตลูกศิษย์ผ่านทางสื่อต่างๆอยู่เสมอ พร้อมคำพูดปลุกใจมากมาย ดังนั้นหากจะหวนกลับมาร่วมงานอีกรอบก็เป็นเรื่องดีเพราะไม่ต้องใช้เวลาปรับตัวนานแค่มองตาก็รู้ใจ แต่อาจต้องศึกษาเทคนิคการเล่นเทนนิสในปัจจุบันมากขึ้นเพื่อเสริมความรู้และหาทางช่วยให้ ยอโควิช โชว์ฟอร์มไฉไลเหมือนเดิม