พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ยอมรับไม่สามารถเพิ่มเงินสนับสนุนทีมลีกภูมิภาค ทีมละ 1 ล้านบาท ช่วง 2 ปีแรก เหตุเกิดจากหนี้สินที่มีมากมายจากสมาคมฟุตบอลชุดเก่า
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2560 ณ ห้องประชุมบุญยะจินดา สโมสร ตำรวจ วิภาวดี สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ จัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2560
การประชุมในครั้งนี้ มี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ เป็นประธานการประชุม ร่วมกับ พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมฯ, อุปนายกฝ่ายต่างๆของสมาคมฯ และ สภากรรมการ พร้อมกันนี้ ยังมีตัวแทนจาก การกีฬาแห่งประเทศไทยฯ, มร.ซานจีวาน บาลาซิงคัม, คุณ ชื่นชนก ศิริวัฒน์ ตัวแทนจากสหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟา และ ปูรูชอตทัม คาสเทล ตัวแทนจากสมาพันธ์ฟุตบอลแห่งเอเชีย หรือ เอเอฟซี เป็นผู้สังเกตการณ์การประชุม นอกจากนี้ การประชุม มีสโมสรสมาชิกที่มีสิทธิ์ออกเสียง เข้าร่วมทั้งหมด 49 สโมสร
ซึ่งเนื้อหายในการประชุมประกอบด้วย
1. วันนี้เป็นการประชุมสามัญ ประจำปี 2560 ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งถือว่าครบรอบ 101 ปี ของสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ พอดี
2. การบริหารงานสมาคมฯ สมาคมฯ บริหารงานจากจุดเริ่มต้นด้วยกุญแจดอกเดียว พร้อมปัญหาหนี้สินทางภาษี และหนี้ค้างชำระ เช่น ค่าโรงแรม ค่าอาหาร ค่าโดยสารเครื่องบิน ซึ่งเกิดจากการบริหาร ของผู้บริหารชุดเดิม
3. สมาคมฯ อยู่ในภาวะวิกฤต ขาดสภาพคล่องทางการเงิน แต่กิจกรรมต่างๆ ของสมาคมฯ ก็จะต้องดำเนินต่อไป สิ่งที่ตามมา คือ ค่าใช้จ่ายต่างๆ ที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ ไม่ว่าจะเป็น ค่าบุคลากร ค่าจัดการแข่งขัน จึงต้องแก้ปัญหาสภาพคล่องด้วยการกู้ยืมเงินจากบุคคลภายนอก และนำเงินต่างๆ ของสมาคมฯ เท่าที่มี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เงินจากกองทุนฟุตบอลไทยไปบอลโลกเพื่อแก้ไขปัญหาการขาดสภาพคล่องเฉพาะหน้า เนื่องจากขณะนั้น เงินสนับสนุนจากสปอนเซอร์ และค่าถ่ายทอดจาก บริษัท ทรูวิชั่นส์ จำกัด ยังไม่ถึงกำหนดชำระ
***หนี้สินจำนวนมาก และค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดคิด***
- สมาคมต้องชำระภาษีมูลค่าเพิ่มที่ค้างจ่ายตั้งแต่ปี 2550-2555 รวม 128,349,110.32 บาท
- ภาษีเงินได้ของสมาคมค้างชำระปี 2558 จำนวน 1,487,429.59 บาท
***ตั้งสำรอง***
- ศาลปกครองอุบลราชธานี พิพากษาให้สมาคมชดใช้เงิน จำนวน 18,482,162.61 บาท
- โรงแรมโกลเด้นทิวลิป ทวงเงินค่าใช้บริการ จำนวน 2,506,521.95 บาท
- โรงแรมทาวน์อินทาวน์ ทวงเงินค่าใช้บริการ จำนวน 1,172,444.96 บาท
- โค้ชวิคเตอร์ ฟ้องฟีฟาเรียกค่าเสียหาย จำนวน 8,000,000.00 บาท
- เงินรางวัลไทยลีก (กกท. งดจ่ายเงินสนับสนุน) จำนวน 17,500,000.00 บาท
- เงินรางวัลไทยลีก 2 (กกท. งดจ่ายเงินสนับสนุน) จำนวน 10,000,000.00 บาท
- เงินสนับสนุนสโมสร ไทยลีก และไทยลีก 2 จำนวน 108,000,000.00 บาท
- เงินสนับสนุนค่าเดินทาง ไทยลีก 3-4 จำนวน 28,000,000.00 บาท
รวมเป็นเงินทั้งสิ้น จำนวน 323,497,669.43 บาท
4. เป็นเหตุให้สมาคมฯ ไม่สามารถปฏิบัติตามคำพูดที่ให้ไว้ คือ การเพิ่มเงินสนับสนุนให้สโมสรภูมิภาคอีกสโมสรละหนึ่งล้านบาทในช่วงสองปีแรก ซึ่งคาดว่าปีต่อไปสมาคมฯ จะสามารถจัดสรรเงินสนับสนุนเพิ่ม ให้กับสโมสรในลีกภูมิภาคได้
***คาดว่าปี 2560 จะสามารถทำตามคำสัญญาได้***
แต่ได้ทราบว่า มีผู้มาร้องเรียนกล่าวโทษตัวผมต่อการกีฬาแห่งประเทศไทย ว่า การเพิ่มเงินสนับสนุนให้กับสโมสรต่างๆ เป็นการกระทำที่เปรียบเสมือนการซื้อเสียงและเป็นการผิดจริยธรรม จึงทำให้ผมและสภากรรมการ ตลอดจนผู้บริหารสมาคม จะต้องพิจารณาทบทวนว่า ในปี 2560 ซึ่งเราได้เตรียมการจะจ่ายเงินสนับสนุนเพิ่มเติมแก่สโมสรภูมิภาค จากเงิน 1 ล้านบาท เป็น 2 ล้านบาท จะยังคงสามารถกระทำได้หรือไม่
5. แก้ไข ปรับปรุงเปลี่ยนแปลง สัญญาและนิติกรรมต่าง ๆ ที่สมาคมผูกพันใหม่ ให้ถูกต้องตามระเบียบข้อบังคับและกฎหมาย เช่น สัญญาโอนสิทธิประโยชน์ของสมาคมให้บริษัทเอกชน ยกเลิก บริษัท พรีเมียร์ลีก (ไทยแลนด์) จำกัด (PLT) เป็น บริษัท ไทยลีก จำกัด (TL) รวมถึง การปรับโครงสร้างผู้ถือหุ้นใหม่ โดยให้สมาคมเป็นผู้ถือหุ้นในไทยลีก 98 เปอร์เซ็นต์ ทำสัญญากับ บริษัท ทรูวิชั่น จำกัด ใหม่ ให้ถูกต้องโดยยึดถือรายละเอียดต่าง ๆ ตามสัญญาเดิมทุกประการ
-ปี พ.ศ. 2559 จำนวนเงิน 900,000,000 บาท
-ปี พ.ศ. 2560 จำนวนเงิน 1,100,000,000 บาท
-ปี พ.ศ. 2561 จำนวนเงิน 1,100,000,000 บาท
-ปี พ.ศ. 2562 จำนวนเงิน 1,100,000,000 บาท
6. จัดระบบบัญชีธนาคารและการเงินของสมาคมฯ ใหม่เดิมที่ผ่านมา เงินที่ได้รับการสนับสนุนจากองค์กรภายนอกทุกรายการ จะถูกรวมเข้าอยู่ในบัญชีของสมาคมฯ บัญชีเดียว ซึ่งยากต่อการตรวจสอบ เป็นปัญหาจนถึงทุกวันนี้ ปัจจุบัน บัญชีธนาคารต่างๆ ได้ถูกแยกออกอย่างชัดเจน คือ บัญชีสมาคม, บัญชีรับเงินสนับสนุน FIFA - AFC - AFF, บัญชีค่าปรับ และ บัญชีกองทุนฟุตบอลไทยไปฟุตบอลโลก ซึ่งจะมีความชัดเจนและสามารถตรวจสอบได้
7. ทดลอง ปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ระบบการจัดการแข่งขัน ทั้งนี้ เพื่อหาระบบที่มีรูปแบบที่ลงตัวและเหมาะสมกับสภาพความเป็นจริงของวงการกีฬาฟุตบอลไทย แต่ทั้งนี้ สมาคมฯ พร้อมและยินดีที่จะรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆ ของสโมสรสมาชิก เพื่อนำไปปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแก้ไขให้เหมาะสมกับสภาพความเป็นจริง และก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อวงการกีฬาฟุตบอลไทย
8. กำหนดยุทธศาสตร์การบริหารของสมาคมฯ ออกเป็น 6 ด้าน ทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว (ดูเอกสารแผ่นพับที่สมาคมแจกจ่ายให้ประกอบ)
8.1 การพัฒนาอาคาร สถานที่ และสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความจำเป็น สำหรับการพัฒนากีฬาฟุตบอล
(1) จัดหาสถานที่ตั้งสำนักงาน สมาคมฯ **ขอรับการสนับสนุนจากการกีฬาแห่งประเทศไทย ให้เช่าพื้นที่อาคาร 40 ปี เป็นอาคารสำนักงานสมาคมฯ ระยะยาว 20 ปี โดย สมาคมฯ ได้ทำการปรับปรุงอาคารจนมีสภาพที่ทันสมัย มีสิ่งอำนวยความสะดวกที่มีความจำเป็น และพร้อมสำหรับการปฏิบัติงาน เริ่มทำงานเมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2560
(2) การพัฒนาสนามกีฬาและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาฟุตบอล ให้มีความพร้อม มีประสิทธิภาพ
เทียบเท่ามาตรฐานสากล
(3) ขอความร่วมมือ การช่วยเหลือสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชน ตลอดจนประชาชนชาวไทยในการผลักดันโครงการก่อสร้างสนามฟุตบอล เพื่อเตรียมความพร้อมในการที่ภูมิภาคอาเซียนจะขอเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลโลกในปี พ.ศ. 2577 (ค.ศ.2034)
8.2 จัดทำแผนพัฒนากีฬาฟุตบอลแห่งชาติระยะยาว 20 ปี โดยสภาปฏิรูปกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ **อยู่ระหว่างดำเนินการ
8.3 การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่เกี่ยวกับกีฬาฟุตบอล
(1) ส่งเสริมสนับสนุนให้มีการพัฒนาบุคคลากรทางด้านกีฬาฟุตบอลเพิ่มมากขึ้น
- จัดการฝึกอบรมโค้ชระดับต่าง ๆ เช่น โปรไลเซนต์ จำนวน 48 คน เอไลเซนต์ จำนวน 432 คน บีไลเซนต์จำนวน 936 คน ซีไลเซนส์ จำนวน 2,066 คน และอินโทรดักโตรี่ จำนวน 3,500 คน
- จัดการฝึกอบรมกรรมการผู้ตัดสิน ผู้ควบคุมการแข่งขัน ผู้ประเมินกรรมการผู้ตัดสิน รวมถึงส่งพนักงานและผู้บริหารของสมาคมฯ ไปอบรมหลักสูตรต่าง ๆ ของ AFC และ AFF ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง
- พัฒนาบุคลากรของสมาคมฯ ให้มีความรู้ความสามารถชำนาญงานในหน้าที่ เพื่อรองรับการให้บริการสมาชิกให้ได้รับความสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น และถูกต้องตามระเบียบงานสารบรรณ
8.4 การพัฒนานักกีฬาฟุตบอลในทุกระดับให้มีมาตรฐานสูงขึ้นและมีประสิทธิภาพ เพื่อก้าวไปสู่การเป็นนักกีฬาฟุตบอลอาชีพ และตัวแทนทีมชาติ
(1) ก่อตั้ง“ศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอลแห่งชาติ”ที่ทันสมัยและครบวงจร ในทุกภูมิภาค เพื่อวางรากฐานกีฬาฟุตบอลตั้งแต่ระดับเยาวชน จนก้าวสู่ระดับชาติ
(2) ผลิตบุคลากรการกีฬาฟุตบอลที่มีคุณภาพ โดยร่วมมือหรือว่าจ้างบุคลากรที่มีประสบการณ์ด้านการพัฒนากีฬาฟุตบอลระดับเยาวชนจากต่างประเทศมาบริหารจัดการศูนย์ฝึกฯ อย่างเป็นระบบ
***ได้บรรลุข้อตกลงการว่าจ้างให้บริษัท เอคโคโน เป็นผู้บริหารจัดการศูนย์ฝึกฯ
8.5 การนำวิทยาการ และเทคโนโลยี ที่ทันสมัยมาใช้ในการเสริมสร้างและพัฒนานักกีฬาฟุตบอล
8.6 สร้างความมั่นคงและยั่งยืนในด้านการเงินของสมาคมฯ ให้มีความโปร่งใส สามารถตรวจสอบได้
(1) แผนพัฒนาการจัดการด้านสิทธิประโยชน์ของสมาคม ดำเนินการอย่างมืออาชีพ โปร่งใส และ
เป็นธรรมต่อทั้งสมาคมฯ และผู้สนับสนุน โดยนำเงินที่ได้รับการสนับสนุนมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและตามวัตถุประสงค์ของสมาคมฯ
(2) มีระบบบัญชีการเงินที่ทันสมัยรวดเร็ว สามารถตรวจสอบได้
(3) กระจายงบประมาณให้สโมสรสมาชิกอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม