EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
ชัยชนะของ แมนเช้สเต้อร์ ยูนายเถ็ด (Manchester United) ที่มีต่อ เบิร์นลีย์ เอฟซี (Burnley FC) 2-0 ที่ เทิ้ร์ฟ มัวร์ (Turf Moor) ใน แล็งคะเช่อร์ (Lancashire) ในเกม เพรอมิเอ ลีก (Premier League) เมื่อคืนวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ไม่เพียงแต่สร้างความยินดีให้กับผู้ชนะบนเกาะอังกฤษเท่านั้น แต่ดันส่งผลไปไกลถึง ราชรัฐ โมนาโก โน่น
แมน ยู แข่ง 32 นัด มี 63 คะแนน อยู่อันดับ 5 ของตาราง ทำคะแนนคืบคลานเข้าใกล้ 4 อันดับแรก ซึ่งมี ลิเว่อร์พูล อยู่อันดับ 3 แต่ลงแข่งมากกว่าถึง 2 นัด นี่เป็นการเปิดโอกาสให้กว้างขึ้นอย่างมากที่ แมน ยู จะคว้าโควต้าเข้าร่วมศึก ยูเอ๊ฟฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก ในฤดูกาลหน้า อันหมายถึงความยิ่งใหญ่และรายได้มหาศาลจะกลับมาสู่สโมสรอย่างแน่นอน
แต่ท่ามกลางความดีใจ แมน ยู ต้องกระเป๋าฉีกเสียเงินทันทีเช่นกัน เนื่องจากประตูแรกที่เกิดขึ้นในนาทีที่ 21 ของเกมจากการยิงของ อองโตนี่ มารซิอัล (Anthony Martial) นั้น ถือเป็นประตูที่มีมูลค่าถึง 10 ล้าน เออโร หรือประมาณ 360 ล้าน บาท เลยทีเดียว นั่นเป็นจำนวนเงินที่ แมน ยู จะต้องจ่ายให้ อาแอ๊ส โมนาโก แอ๊ฟเซ (AS Monaco FC) ต้นสังกัดเดิมของกองหน้าวัย 21 ปีจาก ฝรั่งเศส
โมนาโก ตกลงขายกองหน้าทีมชาติฝรั่งเศสคนนี้ให้ แมน ยู ในวันสุดท้ายของตลาดซื้อ-ขายนักเตะก่อนเริ่มฤดูกาล 2015-16 พอดี เป็นสัญญาที่มีระยะเวลา 4 ปี และเผื่อเลือกต่อสัญญาได้อีก 1 ปี โดยมีมูลค่า 50 ล้าน เออโร หรือประมาณ 1,800 ล้าน บาท พร้อมเงื่อนไขในรูปของเงินโบนัสให้กับ โมนาโก อีก 30 ล้าน เออโร ซึ่งครอบคลุมตลอดระยะเวลาของสัญญา
เงื่อนไขดังกล่าวจะเป็นดัชนีชี้วัดว่า นักเตะที่ โมนาโก ขายให้นั้นเป็นของดี มีคุณภาพ ทำประโยชน์ให้แก่ผู้ซื้อได้จริง ประกอบด้วย ประการแรก หาก อองโตนี่ ยิงประตูให้สโมสรในการแข่งขันที่เป็นทางการได้ครบ 25 ประตู แมน ยู ก็ต้องจ่ายให้ โมนาโก 10 ล้าน เออโร หรือประมาณ 360 ล้าน บาท อันนี้ เพิ่งทำได้ในเกมล่าสุดนี่เอง
เงิน 10 ล้าน เออโร ก้อนที่ 2 แมน ยู ต้องจ่ายให้ โมนาโก เมื่อหมอนี่ติดทีมชาติฝรั่งเศส ซึ่งต้องได้ลงเล่นอย่างน้อย 45 นาทีในแต่ละเกม ครบ 25 ครั้ง อันนี้ยังมาไม่ถึง และเป็นสิ่งที่ยากเสียด้วย เพราะแม้ว่าถึงตอนนี้ติดทีมชาติไปแล้ว 15 นัด แต่เขายังไม่ใช่ตัวยืน มักเป็นตัวสำรองที่ถูกเปลี่ยนตัวลงมาเล่นเพียงไม่กี่นาที
เงื่อนไขประการที่ 3 ยิ่งสุดหินเพราะหมายถึง อองโตนี่ พัฒนาฝีเท้าของตนเองจนกลายเป็นนักเตะเบอร์ต้นๆของโลกอย่างแท้จริง โดยมีรางวัลการันตี นั่นคือ อีก 10 ล้าน เออโร จะจ่ายให้เมื่อ อองโตนี่ มีชื่อติด 1 ใน 3 คนสุดท้ายผู้เข้าชิงรางวัล บัลลง ดอร
ธุรกิจกีฬานั้นมีรายละเอียดมากมาย ฝรั่งมีสิ่งที่ล้ำหน้าไปไกลให้เราได้เรียนรู้เยอะมาก การเซ็นสัญญาซื้อ-ขายนักเตะก็เป็นเรื่องระหว่างผู้ซื้อกับผู้ขายที่มีนักเตะเป็นสินค้า ซึ่งสัญญาจะมีระบุเงื่อนไขอย่างไรย่อมได้ ขึ้นอยู่กับการตกลงยินยอมของทั้ง 2 ฝ่าย ไม่มีข้อจำกัด แม้แต่บ้านพัก รถยนต์ เครื่องใช้ในครัวเรือน ถ้วย ช้อน จาน ชาม ก็ยังมีนักเตะบางคนเรียกร้องว่า ต้องเอายี่ห้อนั้น ยี่ห้อนี้ ถึงขั้นระบุในสัญญาให้ชัดๆกันไปเลย
เงื่อนไขในสัญญาระหว่าง แมน ยู กับ โมนาโก ที่เกี่ยวกับ อองโตนี่ มารซิอัล ยังมีระบุถึงการขายต่อไปให้สโมสรอื่นอีก คือ ถ้าขายได้ราคาสูงเกินกว่า 60 ล้าน เออโร ขึ้นไป เงินส่วนที่เกินจากนั้น โมนาโก ต้องมีส่วนได้รับครึ่งหนึ่ง ทั้งหมดที่กล่าวมาก็คือตัวอย่างของสินค้าที่ถูกซื้อ-ขายไปแล้ว แต่ยังมีผลกำไรที่ผู้ขายรอรับส่วนแบ่งได้อีก อันนี้คงป้องกันกรณีเผลอขายนักเตะที่ในวันข้างหน้าอาจกลายเป็นนักเตะที่โด่งดังที่สุดคนหนึ่งของโลกก็ได้ ซึ่งบางครั้งการคาดเดาอนาคตก็เป็นสิ่งที่ยาก แต่ฝรั่งมีวิธีที่แม้จะขายสินค้าไปหลายปีแล้ว ในวันนี้ยังมีสิทธิ์ได้รับผลประโยชน์อีก ยิงประตูทางโน้น แต่ดันมาได้เฮทางนี้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *