รัฐมนตรี “กอบกาญจน์” แนะวางแผน 3 ระยะพัฒนายกระดับเมือง “ชลบุรี” สู่ “สปอร์ตซิตี้” ชูนโยบาย “สปอร์ตทัวริซึ่ม” มอบปลัดกระทรวง ร่วมถกแผนรับเจ้าภาพจัดศึก “เอเชี่ยนเกมส์”
นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา เป็นประธานในการประชุมเพื่อหารือและรับทราบแผนการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬาของจังหวัดชลบุรี โดยมี นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี, นายวิทยา คุณปลื้ม นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดชลบุรี, นายสนธยา คุณปลื้ม นายกสมาคมกีฬาจังหวัดชลบุรี และ นายณรงค์ชัย คุณปลื้ม นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองแสนสุข ร่วมด้วยที่ห้องประชุมชลบุรี ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดชลบุรี เมื่อวันที่ 19 เมษายน
ประธานแจ้งที่ประชุมว่า ชลบุรีนับเป็นจังหวัดสำคัญของภาคตะวันออก และช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศจากด้านการท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก โดยการหารือในครั้งนี้จะเน้นในเรื่องการกีฬาเพื่อการท่องเที่ยว เนื่องจากชลบุรีถือเป็น 1 ใน 4 สปอร์ตฮับของไทย และเป็นเมืองหลักแม่ข่ายของภาคตะวันออกที่มีการนำกีฬาหลายอย่างมาลงจัดการแข่งขัน
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า นอกจากนี้ พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร รองนายกรัฐมนตรีก็มีแผนเตรียมที่จะลงพื้นที่มาติดตามการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การใช้กีฬานำการท่องเที่ยวไทยสร้างเศรษฐกิจชาติของชลบุรีด้วย และครั้งนี้ตัวเองจึงได้ลงพื้นที่มารับฟังแผนการจัดกิจกรรมเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬาของชลบุรี ตลอดปี 2560 - 2561
นายภัครธรณ์ กล่าวว่า ชลบุรีในฐานะเป็นประธานเขตพัฒนาการท่องเที่ยวฝั่งทะเลตะวันออก ได้ทำแผนพัฒนาขับเคลื่อนในด้านการท่องเที่ยวและการกีฬาเพื่อสร้างรายได้ให้กับประเทศ ซึ่งชลบุรีมีความพร้อมในทุกด้าน และมีสนามกอล์ฟมากถึง 18 สนาม ทำให้สามารถพร้อมรองรับการจัดการแข่งขันกอล์ฟรายการระดับโลกได้
นายวิทยา กล่าวว่า อบจ.ชลบุรี สนับสนุนจัดการแข่งขันกีฬาระดับท้องถิ่น และระดับประเทศมาต่อเนื่อง ทั้งการแข่งขันแบดมินตัน สวัสดี คัพ, เจ็ตสกีโลกชิงถ้วยพระราชทาน, วอลเลย์บอลพัทยาโอเพ่น, วินด์เซิร์ฟชิงแชมป์ประเทศไทย, ว่ายน้ำพัทยาโอเพ่น,มหกรรมแอร์ซีแลนด์โอเพ่น, พัทยา ไตรกีฬา และอื่นๆ ซึ่งโดยรวมแล้วท้องถิ่นค่อนข้างพร้อมร่วมกับกระทรวงในการจัดมหกรรมกีฬาระดับนานาชาติอย่างเอเชี่ยนเกมส์ได้ ซึ่งท้องถิ่นพร้อมเอางบมาร่วมกับกระทรวงและรัฐบาลในการเตรียมความพร้อมเป็นเจ้าภาพได้แน่นอน แต่ปัญหาจะมีในเรื่องที่ท้องถิ่นไม่สามารถสนับสนุนรายการนานชาติ
นายสนธยา กล่าวว่า ที่ผ่านมา ชลบุรีเคยจัดการแข่งขันกีฬาระดับโลกมาแล้ว ทั้งยกน้ำหนัก, เจ็ตสกีโลก และอีกมากมาย ทำให้ชลบุรีมีความพร้อม ซึ่งหากมีการปรับปรุงศูนย์แห่งชาติภาคตะวันออก เทศบาลตำบลห้วยใหญ่ อ.บางละมุง ที่มีพื้นที่กว่า 200 ไร่ เพื่อพัฒนาไปรองรับการใช้จัดแข่งขันระดับนานาชาติ รวมกับสนามกีฬาต่างๆ ที่มีอยู่แล้วทั้งสนามสถาบันการพลศึกษา และศูนย์กีฬาอินดอร์เมืองพัทยา เชื่อว่า ชลบุรีจะรองรับการจัดเอเชี่ยนเกมส์ได้ และจะช่วยกระตุ้นในด้านการส่งเสริมการท่องเที่ยวตามนโยบายสปอร์ตทัวริซึ่มของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยสถานที่ภูมิประเทศมีความพร้อม และการจัดกิจกรรมกีฬาของจังหวัดสามารถทำรายได้ให้กับประเทศเป็นจำนวนมาก
นายณรงค์ชัย กล่าวว่า เทศบาลเมืองแสนสุขได้จัดกิจกรรมการส่งเสริมการท่องเที่ยวและกีฬาของชลบุรี ประกอบด้วย การแข่งขันรถยนต์ไทยแลนด์ ซูเปอร์ซีรีส์ “บางแสน กรังด์ปรีซ์”, บางแสน ไตรกีฬา, วิ่งมาราธอน และปั่นจักรยาน ซึ่งนับเป็นส่วนสำคัญในการช่วยส่งเสริมรายได้ และเพิ่มนักท่องเที่ยวให้เข้ามายังพื้นที่เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีทีผ่านมาอีกด้วย
พล.ร.ต.ยงยุทธ พร้อมพรหมราช ผู้ช่วยหัวหน้านายทหารฝ่ายเสนาธิการประจำผู้บัญชาการทหารเรือ กล่าวถึงการจัดการแข่งขันเครื่องบินสะสมคะแนนชิงแชมป์โลก “แอร์เรซวัน ออฟ ไทยแลนด์” (เวิลด์ ซีรีส์ 2017) ว่า ปีนี้จะจัดการแข่งขันในวันที่ 15 - 19 พฤศจิกายน ที่สนามบินอู่ตะเภา อ.สัตหีบ ควบคู่ไปกับมหกรรมสวนสนามทางเรือนานาชาติ ช่วงวันที่ 18 - 19 พฤศจิกายนนี้ โดยไทยถือเป็นแห่งเดียวในเอเชียที่มีการแข่งขันแอร์เรซวัน ซึ่งในการแข่งขันปรีอีเวนต์เมื่อปลายปีก่อนก็สร้างรายได้อย่างมาก และปีนี้ก็น่าจะสร้างรายได้เพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน
นางกอบกาญจน์กล่าวสรุปการประชุม ว่า ได้เห็นภาพชัดเจนมากของชลบุรีที่เป็นสปอร์ตซิตี้อย่างมาก โดยเท่าที่ได้มารับฟังแผนการจัดกิจกรรมของชลบุรีอยากเสนอให้มีการแบ่งออกเป็น 3 ระยะ คือ ระยะสั้น ให้เน้นที่การแข่งขันไตรกีฬานานาชาติ “พัทยา ไตรลอน ทัวร์ ซีรีส์ 2017” วันที่ 27 - 28 พฤษภาคม ที่เมืองพัทยา ตามด้วยระยะกลาง คือ จัดการแข่งขันกีฬารายการต่างๆ ต่อเนื่องไปตามแนวทางสปอร์ตทัวริซึ่ม ซึ่งครั้งนี้ได้เห็นว่าชลบุรีมีอีเวนต์กีฬาเยอะมาก ทำให้คิดว่าจะต้องกลับไปทำแผนคลัสเตอร์โดยเฉพาะ แต่อยากแนะว่าควรจะชูอีเวนต์ใดอีเวนต์หนึ่งลำดับความสำคัญเป็นอันดับหนึ่ง
รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวในตอนท้ายว่า ส่วนระยะยาวคือเรื่องการจัดเอเชี่ยนเกมส์นั้น เป็นเรื่องใหญ่ที่จะต้องใช้งบประมาณค่อนข้างมาก ซึ่งหากชลบุรีต้องการเป็นเจ้าภาพก็อยากให้ตั้งทีมมาพูดคุยกันร่วมกับทางปลัดกระทรวงการท่องเที่ยว ซึ่งจะมอบหมายให้ดูแลเรื่องนี้ และการเป็นเจ้าภาพเอเชี่ยนเกมส์ เป็นเรื่องใหญ่ และการลงทุนของภาครัฐในครั้งนี้จะต้องไม่เหมือนเดิม และจะดูแลต่อเนื่องหลังจากนี้ไปได้.