คอลัมน์ “Golf Healing” โดย “พลตรีนายแพทย์ สมศักดิ์ เถกิงเกียรติ แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านกระดูกประจำโรงพยาบาลพระมงกุฎ และ โรงพยาบาลรามคำแหง มีประสบการณ์ในการดูแลผู้ป่วยมากกว่า 30 ปี somsak_doctor@hotmail.com”
“เฮียเข้าใจผิดมานาน…มิน่า! เฮียอัดน้ำทีไร…มึนหัวจะอ้วกทุกที…ขอบใจมากนะหมอที่ให้ข้อมูลที่ถูกต้อง”
“ขอบใจ healthyclub เค้าเถอะเฮีย…เค้าอยากให้ทุกครอบครัวมีสุขภาพดี….แชร์ข้อมูลดีๆมาเรื่อย…งั้นต่อกันเลยนะ
12. ปริมาณน้ำขั้นต่ำที่ร่างกายต้องการคือประมาณ 60 cc/ชม.
13. แปลว่าตอนเช้า ควรต้องดื่มน้ำ 60cc x 8ชม. = 480 cc. (ทดแทนช่วงกลางคืนที่ไม่ได้ดื่มน้ำ)
14. แต่….ตื่นเช้าแล้วอย่าดื่มรวดเดียว ให้ทยอยดื่มในเวลาประมาณหนึ่งชั่วโมง ไม่ต้องรีบร้อน
15. ถ้าติดจะไปไหน แล้วไม่อยากปวดปัสสาวะระหว่างเดินทาง คำนวณเวลาในการดื่มน้ำให้ดี
16. ก่อนนอน 3-3.5 ชม. ต้องแทบไม่ดื่มน้ำ เพื่อให้ร่างกายได้เคลียร์น้ำรอบสุดท้ายก่อนนอนให้หมด กลางคืนจะได้หลับรวดเดียว
17. ตัวอย่าง : ถ้าต้องการนอน 5ทุ่ม ประมาณ 2 ทุ่ม สามารถดื่มน้ำเยอะหน่อยได้เป็นครั้งสุดท้าย
18. ระหว่าง 3-3.5 ชม. ก่อนนอนนั้น ให้ดื่มน้ำไม่เกิน 100cc.
19. คนทั่วไปดื่มน้ำเยอะ หรือดื่มนมก่อนนอน ทำให้ต้องตื่นมาตอนตี2 ตี3 และกลับไปนอนต่ออีกครั้งยาก ตาโพลง
20. กระเพาะปัสสาวะ เมื่อมีความจุประมาณ 100 cc. ก็จะเริ่มปวดปัสสาวะแล้ว เลยเป็นเหตุผลว่า ในช่วง 3 ชม. ก่อนนอน ดื่มน้ำได้นิดหน่อยเท่านั้น เพื่อจะได้หลับยาวทั้งคืน
21. ในผู้หญิงท่อปัสสาวะมีความยาว 4 ซม. ซึ่งเชื้อแบคทีเรียสามารถเดินทางเข้าไปได้ง่าย
22. แปลว่าทุกๆ 3-4 ชม. ปวดปัสสาวะหรือไม่ก็ต้องเข้าห้องน้ำ เพื่อเคลียร์ปัสสาวะทิ้ง ก่อนที่เชื้อโรคจะเติบโตมากเกินไป แล้วทำให้เป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ
23. วิธีดูง่ายๆว่าดื่มน้ำพอไหม คือ ประมาณ 3-4 ชม. จะต้องรู้สึกปวดปัสสาวะ
24. ถ้าปัสสาวะเร็วกว่า 3 ชม. อาจดื่มน้ำมากไป หากเกิน 4 ชม. แล้วยังไม่ปวดปัสสาวะ น่าจะดื่มน้ำน้อยไป
25. ปริมาณน้ำที่ดื่มต้องลดลง ถ้ากินอาหารที่มีน้ำหรือผักผลไม้ฉ่ำน้ำ มิฉะนั้นจะได้รับน้ำมากเกินไป
รู้วิธีดื่มน้ำ-ปัสสาวะที่ถูกต้องแล้ว ก็อย่าลืมสังเกตตัวเองกันด้วยนะครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *