“เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์” ซีรีย์สองล้อระดับเวิลด์คลาส

อีกครั้งที่การแข่งขันจักรยานยนต์ทางเรียบ เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิป (WSBK) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดแข่งขันเป็นปีที่ 3 เมื่อต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ด้วยยอดผู้ชมร่วมแสนที่เข้าชมการแข่งขันแน่นสนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งเป็นสังเวียนที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์รถจักรยานยนต์นานาชาติ (FIM) ให้อยู่ในระดับเกรดเอ จัดศึกสองล้อได้อย่างเต็มรูปแบบ โดยสนามแห่งนี้เป็นเจ้าภาพจัด เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิป 3 ปีติดต่อกัน รวมถึง เอเชีย โรด เรซซิง หลายปี

ปัจจุบันศึกเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิป จัดการแข่งขันโดย ดอร์น่า สปอร์ต บริษัทบริหารจัดการด้านกีฬายักษ์ใหญ่ที่มีสำนักงานอยู่ในประเทศสเปน โดยดอร์น่าฯ เป็นผู้ถือลิขสิทธิ์ทั้งหมดของการแข่งขัน ภายใต้การรับรองของเอฟไอเอ็ม และพิเศษสุดๆ ที่ปีนี้ฝ่ายจัดการแข่งขันจัดกิจกรรม เวิลด์ซูเปอร์ไบค์ เอกซ์พีเรียล มีเดีย เป็นครั้งแรก เพื่อเปิดโอกาสให้สื่อมวลชนเข้าชมระบบการจัดการแข่งขันที่สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต แบบเอกซ์คลูซีฟ โดยมี มร. เบนจามิน ค็อบบ์ มีเดีย ออฟฟิเซอร์ ดอร์น่าสปอร์ต และมร.แดเนียล คาร์เรร่า ตัวแทนจาก ดับเบิ้ลยูเอสบีเค ออร์แกไนเซชัน รวมถึงเจ้าหน้าที่จากฝ่ายจัดการแข่งขันแผนกต่างๆ ให้ข้อมูลอย่างเจาะลึก

เรามีโอกาสได้เยี่ยมชมระบบการจัดการแข่งขันระดับเวิลด์คลาสที่สมบูรณ์แบบ อาทิ ห้อง Race Control ที่ทุกฝ่ายทำงานทุกขั้นอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง ด้วยการใช้เทคโนโลยีที่ดีที่สุดระดับโลก เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ถูกต้อง แม่นยำ และรวดเร็ว ทำให้รู้ว่าเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นแบบเรียลไทม์ รวมถึงส่งไปที่ ห้องทีวีคอมพาวน์ เพื่อนำไปปรับใช้ทำคอมพิวเตอร์กราฟฟิกต่อไป ห้องถ่ายทอด ประกอบด้วยเจ้าหน้าที่ซึ่งเป็นคนพื้นที่ รวมถึงหัวหน้าทีม Medical เจ้าหน้าที่เทคนิค หัวหน้าทีมอาสาสมัครที่คอยรับฟังการสั่งการเพื่อความรวดเร็วและแม่นยำที่สุด ทำให้เจ้าหน้าที่ภาคสนามทั้งกรรมการดูแลการแข่งขัน และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย รวมถึงเจ้าหน้าที่รักษาพยาบาล มีความพร้อมที่สุดสำหรับเกมระดับโลก

ในส่วนของการถ่ายทอดการแข่งขัน สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต มีจำนวน 12 โค้ง ใช้กล้องทั้งหมด 18 ตัว มีตากล้อง 35 คน ซึ่งประกอบด้วยช่างภาพฝีมือดีที่มีประสบการณ์สูง 14 คน และจะทำการฝึกเจ้าหน้าที่ใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อรองรับการแข่งขันทั่วโลกทั้ง 50 สนาม ด้วยทีมตากล้องฝีมือดีที่ทำงานให้กับโมโตจีพี ประกอบกับประสบการณ์ที่ทางดอร์นาฯ จัดการแข่งขันและดูแลเรื่องการถ่ายทอดสดมา 25 ปี ดังนั้นเทคโนโลยีและคุณภาพในการถ่ายทอดทำให้อรรถรสในการชมเวิลด์ซูเปอร์ไบค์จึงไม่แตกต่างจากโมโตจีพี ซึ่งทางผู้จัดฯ พยายามยกระดับเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ให้ก้าวไปจุดเดียวกับโมโตจีพีให้ได้

ทั้งนี้เรื่องกราฟฟิกเป็นสิ่งสำคัญของการถ่ายทอดสดของโมโตจีพี เมื่อดอร์นาฯ เข้ามาดูแลเวิลด์ซูเปอร์ไบค์จะทำให้เวิลด์ซูเปอร์ไบค์มีเทคโนโลยีต่างๆ และข้อมูลต่างๆ ที่ผู้ชมต้องรู้พร้อมกับการฟังผู้บรรยายไปด้วย จึงจะทำให้ผู้ชมสนุกไปกับการแข่งขัน ซึ่งทางผู้จัดพยายามให้เวิลด์ซูเปอร์ไบค์กลายเป็นรายการยอดนิยมคล้ายกับโมโตจีพีให้ได้ เรื่องการถ่ายทอดสดจึงสำคัญ โดยปีนี้ผู้จัดต้องการแสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการพัฒนาเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ ด้วยการใส่เทคโนโลยีกล้องซูเปอร์ไฮสปีด ทำให้ได้ภาพซูเปอร์สโลว์อย่างที่เคยเห็นในโมโตจีพีก็จะได้เห็นในเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ด้วย ซึ่งจะเริ่มใช้ในเรซ 3 ที่สนามอารากอน ประเทศสเปน

ในส่วนของการถ่ายทอดนอกจากภาพที่สวยงามกับโปรดักชั่นและกราฟฟิกที่สวยงาม การเล่าเรื่องจึงมีความสำคัญมาก ทุกครั้งที่มีการถ่ายทอดการแข่งขันจะมีการใส่ข้อมูลของสถานที่แต่ละประเทศที่กำลังเดินทางไปแข่ง ซึ่งทางผู้จัดให้ความสำคัญในเรื่องของเรื่องการท่องเที่ยวเพื่อให้ผู้ชมได้รู้จัก รวมถึง ข้อมูลสนาม และไฮไลท์เกี่ยวกับการแข่งขันที่ผ่านมา โดยจะนำไปตัดต่อด้วยความรวดเร็ว และเผยแพร่ผ่านหลายช่องทาง ทั้งโชเชียลมีเดียต่างๆ และสื่อมวลชนทุกแขนง

มร. เบนจามิน ค็อบบ์ มีเดีย ออฟฟิเซอร์ ดอร์น่าสปอร์ต เผยกับคณะสื่อมวลที่เข้าร่วมกิจกรรม เวิลด์ซูเปอร์ไบค์ เอกซ์พีเรียล มีเดีย ครั้งนี้ว่า “การจัดเวิลด์ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิป ที่ประเทศไทยถือว่าเป็นรายการที่ประสบความสำเร็จ เห็นได้จากผู้ชมที่มีจำนวนมหาศาล แสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีศักยภาพในการจัดการแข่งขันรายการระดับโลก มีการพัฒนาที่ดีขึ้นเรื่อยๆ นอกจากนี้ในเรื่องของมาร์เกตติ้งของเวิลด์ซูเปอร์ไบค์มีค่ายผู้ผลิตซึ่งเป็นสปอนเซอร์มากมายเข้ามาร่วม ทำให้ค่ายผู้ผลิตได้ประโยชน์ในการเผยแพร่แบรนด์ของพวกเขา ทั้งนี้เมื่อจบการแข่งขัน ข้อมูลของนักแข่งรวมถึงรถแข่ง จะถูกส่งไปยังผู้ผลิตในการพัฒนารถของเขาต่อไป ที่สำคัญเวิลด์ซูเปอร์ไบค์เป็นรายการที่ให้แฟนๆ ได้ใกล้ชิดนักแข่งมากที่สุด เห็นได้จากกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นเพื่อผู้ชมโดยเฉพาะ”

ทางด้าน นายเนวิน ชิดชอบ ประธานที่ปรึกษา สนามช้าง อินเตอร์เนชั่นแนล เซอร์กิต จ.บุรีรัมย์ กล่าวปิดท้ายว่า “ความสำเร็จของเวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิป ในปีที่ 3 พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่า กีฬามอเตอร์สปอร์ตมีความนิยมอย่างมากในประเทศไทย โดยเฉพาะตัวเลขผู้ชมเกือบแสนคนซึ่งมีไม่บ่อยนักกับรายการนี้ในหลายๆ ประเทศ แต่เราทำได้ รวมถึงความพร้อมด้านต่างๆ ที่พิสูจน์แล้วว่าเราพร้อมจะก้าวไปสู่การเป็นเจ้าภาพในรายการที่ใหญ่ขึ้น”

ภาพรวมของความสำเร็จจากการที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน เวิลด์ ซูเปอร์ไบค์ แชมเปียนชิป ตลอด 3 ปีที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วว่าสนามแข่งของไทยมีศักยภาพความพร้อมในหลายๆ ด้านไม่แพ้ชาติในโลก ดังนั้นการที่ไทยจะเป็นสังเวียนจัดศึกจักรยานยนต์ทางเรียบที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกอย่างโมโต้จีพีจึงไม่ใช่แค่ฝันอีกต่อไป