“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง เฮดโค้ช “ช้างศึก” หวังลูกทีมสู้เต็มที่เพื่อคว้า 1 แต้มกลับบ้าน รับดีใจได้ลงฟาดแข้งไซตามะ สเตเดียม สนามที่เคยจัดฟุตบอลโลก 2002 เผย อยากให้ทีมชาติไทยได้เข้ารอบลึกๆ ศึกคัดบอลโลกบ่อยๆ
เมื่อเวลา 18.00 น. ตามเวลาประเทศญี่ปุ่น ได้มีการจัดแถลงข่าวความพร้อมก่อนลงทำการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 7 “ซามูไรบลูส์” ทีมชาติญี่ปุ่น จะเปิดบ้านสนามไซตามะ เวิลด์คัพ สเตเดียม ต้อนรับการมาเยือนของ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย
โดยการพบกันในนัดแรก ญี่ปุ่น เป็นฝ่ายบุกมาเอาชนะทีมชาติไทยถึงสนามราชมังคลากีฬาสถานไป 2-0 ซึ่งสถานการณ์ตอนนี้ทัพ “ช้างศึก” รั้งบ๊วยของตารางกลุ่มบี มีแค่แต้มเดียว ส่วนญี่ปุ่นเป็นรองจ่าฝูงมี 13 คะแนน
ซึ่ง “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ได้กล่าวว่า “เกมพรุ่งนี้เราคิดว่าการเจอกับญี่ปุ่นเขาเป็นทีมที่ดีที่สุดในกลุ่มของเรา แล้วก็เห็นว่าแมตช์ที่ผ่านมา ญี่ปุ่น สามารถเอาชนะ ยูเออี ได้ ทำให้เป็นเกมที่ยากสำหรับเรา ถ้าพูดโดยรวมแล้วทั้งแท็กติก และเทคนิคของผู้เล่นญี่ปุ่น เหนือกว่าทีมชาติไทยแน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่คุยกันกับนักฟุตบอล ก็คือ ใจที่อยากจะเล่น 100% ซึ่งเราคิดว่าไม่มีอะไรจะเสีย เพราะหลายปีที่ผ่านมาเราไม่มีโอกาสที่จะเล่นกับทีมชาติญี่ปุ่นเลย ซึ่งพวกเขามีโอกาสไปฟุตบอลโลกมาหลายครั้ง และถือเป็นโอกาสดีที่เราจะได้เล่นต่อหน้าแฟนบอลญี่ปุ่น และแฟนบอลชาวไทยที่ตามมาเชียร์ ก็พยายามจะทำให้เต็มที่ที่สุด”
“แมตช์ที่เล่นกับซาอุดีอาระเบีย ที่เล่นในบ้านเราต้องการ 3 แต้ม เราเปิดเกมรุกเต็มพิกัด ซาอุฯ ก็ไม่ได้เพรสซิงมากมาย แต่เราเสียประตูเร็ว จึงจำเป็นต้องเปิดเกมรุก และมาเสียประตูที่ 2 จากความผิดพลาด พอเสียประตูที่ 3 เกมมันเปิดแล้ว แม้ว่าแมตช์นั้นเราจะไม่ได้ 3 แต้มอย่างใจหวัง แต่นักฟุตบอลทุกคนลืมเกมนั้นไปแล้ว คิดว่าเกมที่เจอกับญี่ปุ่นเราคิดว่าจะทำอย่างไรให้ทุกทีมที่เจอเราเป็นงานที่ยากที่สุด ก็หวังว่า พรุ่งนี้ญี่ปุ่นจะเจองานยาก และเราจะเล่นให้สนุก ขอให้ทุกคนดึงศักยภาพของตัวเองให้มากที่สุด แฟนบอลทุกคนจะเห็นเราสู้ตลอด 90 นาที หากได้ 1 คะแนน ก็ถือเป็นสิ่งที่ดี”
สำหรับเกมนี้ที่จะต้องขาด ธีราทร บุญมาทัน กัปตันทีมที่ติดโทษแบน เฮดโค้ช “ช้างศึก” กล่าวว่า “การขาด ธีราทร กัปตันทีม ทีมเราอาจจะมีจุดอ่อนบ้างเรื่องลูกตั้งเตะ แต่ถ้าเรามองผลดีก็คือคนอื่นๆ จะได้โอกาสของผู้เล่นใหม่ซึ่งเป็นนักเตะวัยรุ่น เราเน้นเรื่องแทคติกทีมเวิร์คเป็นหลัก เกมพรุ่งนี้ทุกคนมีความกระหายอยากจะโชว์ในวันพรุ่งนี้”
“นานแค่ไหนแล้วที่ทีมชาติไทยไม่ได้มาเล่นกับทีมชาติญี่ปุ่นที่นี่ นานมากแล้ว รวมถึงตัวผมเองด้วย ตั้งแต่ปี 1992 ที่เคยเล่นกับ มิอูระ, รามอส น่าจะ 25 ปีที่แล้ว ตอนนี้เราได้มาเล่นกับทีมที่ดีที่สุดในเอเชีย มันคือความโชคดี พรุ่งนี้เราจะเล่นให้สนุก และเก็บเกี่ยวประสบการณ์ทั้งหมด เราอยากเห็นทีมชาติไทยมารอบลึกแบบนี้บ่อยๆ ซึ่งสนามแห่งนี้เคยใช้เป็นสนามฟุตบอลโลก ไม่ใช่ใครก็มาเล่นได้ ฉะนั้นมันเป็นความฝันของนักเตะที่ได้มาเล่นที่ไซตามะ สเตเดียม”
ด้าน สินทวีชัย หทัยรัตนกุล ผู้รักษาประตูทีมชาติไทย กล่าวถึงเกมที่จะพบกับญี่ปุ่นในวันพรุ่งนี้ว่า “พรุ่งนี้เป็นเกมที่หนักสำหรับเราอยู่แล้ว แต่สิ่งสำคัญเลยคือทีมชาติไทยเอง พวกเรามีสิทธิ์ที่จะเรียนรู้เพื่อพัฒนาเหมือนกับที่ญี่ปุ่นเรียนรู้ถูกผิด เช่นเดียวกัน เกมพรุ่งนี้จะทำให้ทีมชาติไทยจะได้ประสบการณ์ที่ดีและได้แนวทางที่ดีในการพัฒนาเหมือนกับที่ญี่ปุ่นเป็น”
ทั้งนี้ ศึกฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก โซนเอเชีย รอบ 12 ทีมสุดท้าย นัดที่ 7 ทีมชาติญี่ปุ่น พบ ทีมชาติไทย ในวันอังคารที่ 28 มีนาคม เวลา 17.35 น. ตามเวลาในประเทศไทย ณ สนาม ไซตามะ เวิลด์คัพ สเตเดี้ยม ช่อง 7 สีถ่ายทอดสด
รายชื่อ 11 ตัวแรกที่คาดว่าจะลงสนาม 3-5-2 : กวินทร์ ธรรมสัจจานันท์, อดิศร พรหมรักษ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์, ประทุม ชูทอง, พีรพัฒน์ โน้ตชัยยา, ทริสตอง โด, ปกเกล้า อนันต์, วัฒนา พลายนุ่ม , ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธีรศิลป์ แดงดา, อดิศักดิ์ ไกรษร
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *