xs
xsm
sm
md
lg

3 เหตุผลหลัก “ช้างศึก” ปิดประตูสู่ฟุตบอลโลก 2018

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ความพ่ายแพ้ของทีมชาติไทย ต่อ ซาอุดีอาระเบีย 0-3 ในเกมฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย โซนเอเชีย เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 23 มีนาคม 2560 ถือว่าส่งผลให้ทีม “ช้างศึก” หมดลุ้นโอกาสคว้าตั๋วลุยรอบสุดท้ายที่ประเทศรัสเซีย ค่อนข้างแน่นอนแล้ว จากผลงาน 6 นัด แพ้ 5 เสมอ 1 มี 1 คะแนน รั้งอันดับ 6 ซึ่งเป็นอันดับสุดท้ายต่อไป ตามหลังทีมจ่าฝูงอย่าง ซาอุฯ และ ญี่ปุ่น อันดับ 2 ที่มี 13 คะแนน อยู่ถึง 12 แต้ม และ ออสเตรเลีย อันดับ 3 ที่อยู่ในโควตาเพลย์ออฟ ที่มี 10 คะแนน ก็ยังหวังยาก โดยมี 3 ประเด็นถึงการกระเด็นหลุดวงโคจรในครั้งนี้
ทีมชาติไทย ชุดใหญ่
1. ยึดติด - เห็นได้ชัดว่าทีมชาติไทย ภายใต้การคุมทีมของ เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง จะมีผู้เล่นหน้าใหม่เข้าสู่ทีมค่อนข้างน้อย หรือหากมีผู้เล่นที่ใหม่สดมาจริงๆ สุดท้ายก็มักจะโดนหั่นตัวทิ้งไปเมื่อต้องตัดเหลือ 23 คนสุดท้าย เรื่องนี้ “ซิโก้” เองก็อธิบายไว้ชัดเจนว่า ตนเป็นคนที่มีนโยบายใช้นักเตะอายุน้อย เพื่อที่จะได้มีโอกาสเล่นร่วมทีมกันเป็นเวลานาน และมีผลงานที่ดีในระดับอาเซียนให้เห็นมาแล้ว

ทว่า การตัดโอกาสผู้เล่นหน้าใหม่ หรือแม้แต่ตัวเก๋าหลายๆ รายเข้าสู่ทีมชาติ ก็ส่งผลให้รูปแบบการเล่นของทีมชาติไทยชุดนี้ จะมีเพียงไม่กี่ระบบให้เลือก ซึ่งเห็นได้ชัดจากการที่ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือชาวฮอลแลนด์ ของทีมชาติซาอุดีอาระเบีย กล่าวว่า เขารู้ดีว่าทีมชาติไทย จะมาไม้ไหน

“เราทำการบ้านมาดี เรารู้ว่าทีมไทยต้องเล่น 3-5-2 แน่นอน บางครั้งก็เล่นด้วยกองหลังสามตัว เราทำได้ค่อนข้างดีในครึ่งแรก อีกทั้งทีมไทยเองก็เปิดพื้นที่ให้เราเล่น ผมคิดว่าทีมเราน่าจะได้ประตูมากกว่านี้ด้วยซ้ำในครึ่งแรก แต่ผมก็พอใจที่ทีมได้อีกสองประตูในครึ่งหลัง ผมรู้ว่านักเตะไทยเองก็มีความสามารถ แต่ทีมเราก็ปรับปรุงแท็กติกในทุกๆ เกม” ฟาน มาร์ไวค์ กล่าว ซึ่งนี่ก็ชัดเจนแล้วว่าคู่แข่งสามารถเดาทาง “ซิโก้” ออกหมดแล้ว
เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง หัวหน้าผู้ฝึกสอน
2. ความแตกต่างของเฮดโค้ช - คงไม่มีใครปฏิเสธว่าหัวหน้าผู้ฝึกสอนอย่าง “ซิโก้” ถือเป็นกุนซือชาวไทยระดับแถวหน้า เพราะมีทั้งทีมงานที่พยายามทำงานอย่างเป็นระบบ ทว่า เมื่อเทียบกับทุกทีมที่ต้องวัดกึ๋นกันในรอบนี้ ถือว่าเป็นรอง อาทิ เบิร์ต ฟาน มาร์ไวค์ กุนซือ ซาอุฯ ก็มีดีกรีล้นเหลือ ประสบความสำเร็จกับการนำ เฟเยนูร์ด คว้าแชมป์ ยูฟา คัพ 2001-202, คว้าแชมป์ฟุตบอลถ้วยฮอลแลนด์ 2007 - 2008 และเคยนำทีมชาติฮอลแลนด์คว้าตำแหน่งรองแชมป์ฟุตบอลโลก 2010 ที่แอฟริกาใต้มาแล้ว

ขณะที่ วาฮิด ฮาลิลฮอดซิช กุนซือชาวเซอร์เบีย วัย 63 ปี ที่รับงานคุมทีมชาติญี่ปุ่น นอกจากจะเก่งกาจตั้งแต่เป็นผู้เล่นในตำแหน่งกองหน้า ยังผ่านงานคุมทีมประสบความสำเร็จมาแล้วมากมาย ทั้งการรับงานสโมสรในฝรั่งเศส กับ ลีลล์ ด้วยการคว้าแชมป์ลีกเดอรซ์ 1999 - 2000, ปารีส แซงต์ แชร์กแมง แชมป์บอลถ้วย 2003 - 2004 และรองแชมป์ลีกเอิง ในปีเดียวกัน จนได้รางวัลโค้ชยอดเยี่ยมของลีกเอิง 2001 มาแล้ว อีกทั้งยังเคยพาทีมชาติไอวอรีโคสต์ ไปแข่งขันฟุตบอลโลก 2010 ก่อนจะกลับมาพา แอลจีเรีย ไปฟุตบอลโลก 2014 ดีกรีนี้ไม่ธรรมดาเลย

ส่วน อันเก ปอสเตโคกลู กุนซือที่เกิดประเทศกรีซ ก่อนย้ายมาตั้งรกรากที่ ออสเตรเลีย จนได้รับสัญชาติ ล้วนผ่านมาคุมทีมมาอย่างโชกโชน โดยมีผลงานที่เข้าตา คือ พา เมลเบิร์น วิคตอรี คว้าแชมป์เอลีก 2010 - 2011, นำทีมออสเตรเลีย ยู-17 เป็นแชมป์ OFC U-17 ถึง 3 สมัย และพาทีม ยู-20 คว้าแชมป์ OFC U-20 อีก 3 สมัย และแชมป์ AFF U-19 ปี 2006 รวมทั้งยังพาทีมชาติออสเตรเลีย เป็นแชมป์ เอเชียน คัพ 2015

นอกจากนี้ ยังมีกุนซือทีมชาติสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์ อย่าง มะฮ์ดี อาลี ที่มีดีกรีสูงปรี๊ด นำทีมคว้าแชมป์ กัลฟ์ คัพ 2013, รองแชมป์กัลฟ์ คัพ 2014 และอันดับ 3 เอเชียน คัพ 2015 เช่นเดียวกันกับ ราดี ชาไนชิล กุนซืออิรัก ที่มารับงานต่อจาก ยะห์ยา อัลวา กุนซือคนเก่าที่โดนปลดออก หลังเปิดบ้านเสมอทีมชาติไทย 2-2 โดยกุนซือรายนี้ดีกรีเคยนำทีม อัลซาวรา คว้แชมป์ลีกอิรัก และนำทีมคว้าอันดับ 4 ศึกเอเชียน คัพ 2015 มาแล้ว
นักเตะไทย เมื่อเทียบกับ ซาอุฯ หรือแถวหน้าของทวีป ถือว่ายังเป็นรอง
3. ระดับฝีเท้าของผู้เล่น - แม้ว่าเกมกับ ซาอุดีอาระเบีย จะขาดผู้เล่นตัวหลักอย่าง สารัช อยู่เย็น มิดฟิลด์คนสำคัญ ทว่า เรื่องดังกล่าวก็ไม่อาจนำมาเป็นข้ออ้างได้ เห็นได้ชัดว่า นักเตะหลายรายเล่นไม่ออกในเกมนี้ ไม่ว่าจะเป็น “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่มีจังหวะให้เล่นสวยๆ อยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้เกมเปลี่ยน หรือแม้แต่ ธีรศิลป์ แดงดา ที่เคยร้อนแรงในเกมกับออสเตรเลีย แต่ก็ไม่อาจฉายแววเมื่อเจอทีมเศรษฐีน้ำมัน

นอกจากนี้ ยังมีนักเตะหลายรายที่ถูกตั้งคำถาม ไม่ว่าจะเป็น ปกเกล้า อนันต์ กับ จักรพันธ์ แก้วพรม ที่ดูเหมือนจะพอประคองตัวไป แต่ก็ยากที่จะเบียดบดกับแข้ง ซาอุฯ ที่ล้วนแข็งแกร่ง สูงใหญ่ แถมยังไม่เปิดโอกาสให้ได้เล่นมากนัก คนที่ได้รับคำชมมากที่สุดเห็นจะเป็น อดิศร พรหมรักษ์ กองหลังที่ทุ่มเท และสกัดบอลรอดพ้นอันตรายหลายครั้ง ผิดกับ ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่เกมนี้เหมือนจะฟอร์มแผ่วลงไป ซึ่งผลการแข่งขันนัดนี้ แสดงให้เห็นแล้วว่า การยกระดับฝีเท้าผู้เล่นในลีกเป็นสิ่งสำคัญ และยังต้องทำกันต่อไป หากต้องการก้าวขึ้นไปต่อกรกับทีมชั้นนำของทวีปเอเชีย
กำลังโหลดความคิดเห็น