ขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรฟุตบอล แบงค็อก ยูไนเต็ด ลงนามบันทึกความร่วมมือเป็นพันธมิตรกับสโมสร เอฟซี โตเกียว เพื่อยกระดับนักเตะสู่มาตรฐานสากล แลกเปลี่ยนข้อมูลศาสตร์ความรู้ในวงการฟุตบอล พร้อมร่วมผลักดันนักเตะ "แข้งเทพ" ให้มีโอกาสไปค้าแข้งในระดับเจลีก ภายใต้คอนเซปต์ “TWO CAPITAL ONE GOAL” สร้างรากฐานการเติบโตของวงการฟุตบอลให้ก้าวเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมรุกสู่ภูมิภาคเอเชีย และยุโรป โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ ให้เกียรติเป็นประธานในพิธีลงนามความร่วมมือครั้งประวัติศาสตร์นี้
การเป็นพันธมิตรในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนานักเตะเยาวชน แลกเปลี่ยนประสบการณ์วัฒนธรรมฟุตบอลระหว่างสองประเทศ และที่สำคัญให้นักเตะมีประสบการณ์การเล่นฟุตบอลในต่างประเทศ เพื่อพัฒนาฝีเท้าไปสู่ระดับสากล โดยพันธมิตรทั้งสองทีมจะมีโอกาสยืมนักเตะของกันและกัน นอกจากนี้ จะมีการจัดการแข่งขันฟุตบอลนัดอุ่นเครื่องของทีมชุดใหญ่รวมถึงทีมเยาวชน เอฟซี โตเกียวที่จะมาเยือนประเทศไทย และแบงค็อก ยูไนเต็ด ไปเยือนประเทศญี่ปุ่น พร้อมร่วมมือกันจัด THE CAPITAL CUP ซึ่งเป็นทัวร์นาเมนต์อุ่นเครื่องที่นำทีมเมืองหลวงของแต่ละประเทศมาแข่งขันกันในอนาคต นอกจากการร่วมมือพัฒนาด้านฟุตบอลแล้ว ทั้งสองสโมสรจะจับมือกันต่อยอดทำธุรกิจด้านอื่นๆ เนื่องจากทั้ง เอฟซี โตเกียว และ แบงค็อก ยูไนเต็ด มีบริษัทเอกชนร่วมสนับสนุนและบริหาร จึงมีโครงสร้างการดำเนินงานที่คล้ายกัน ดังนั้นจะมีการหารือถึงความเป็นไปได้ในเรื่องนี้ต่อไป
พล.ต.อ สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ไทยลีก ของสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ เจลีก ของสมาคมฟุตบอลญี่ปุ่น ได้ร่วมมือกันเป็นพันธมิตรด้านฟุตบอลมาตั้งแต่ปี 2012 ซึ่งได้มีการแลกเปลี่ยนความรู้และโครงการพัฒนาเกี่ยวกับฟุตบอลของทั้ง 2 ชาติ อีกทั้งในปีนี้ยังถือเป็นการครบรอบปีที่ 130 ความสัมพันธ์ทางการฑูตระหว่างไทยและญี่ปุ่นอีกด้วย
“ช่วงต้นปีที่ผ่านมา เจลีกได้เลือกประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการแข่งขัน "เจลีก เอเชีย ชาเลนเจอร์ อิน ไทยแลนด์" ซึ่งเป็นทัวร์นาเม้นต์อุ่นเครื่องด้วยการนำ 2 ทีมชั้นนำจากเจลีก และ 2 ทีมชั้นนำจากไทยลีกมาแข่งขันกัน ประกอบไปด้วย คาชิม่า แอนเลอร์ส ทีมแชมป์เจลีกฤดูกาล 2016, โยโกฮาม่า เอฟ มารินอส, แบงค็อก ยูไนเต็ด ทีมรองแชมป์ไทยลีกฤดูกาล 2016 และ สุพรรณบุรี เอฟซี ซึ่งนับได้ว่าเป็นการเริ่มต้นในการร่วมมือกันพัฒนาฟุตบอลอาเซียนให้ก้าวหน้าเทียบชั้นเอเชียในอนาคต การจับมือร่วมกันเป็นพันธมิตรกันระหว่าง เอฟซี โตเกียว และ แบงค็อก ยูไนเต็ด ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดี เพราะทั้งสองสโมสรต่างเป็นทีมชั้นนำของแต่ละประเทศ ทั้งสองสโมสรจะได้มีการแลกเปลี่ยนศาสตร์ความรู้ทางด้านฟุตบอล เพื่อนำมาปรับใช้ในสโมสรของตนเอง และถือเป็นต่อยอดความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศญี่ปุ่นและประเทศไทยอีกด้วย”
Mr. Naoki Ogane ประธานสโมสรฟุตบอล เอฟซี โตเกียว กล่าวว่า” นับเป็นครั้งแรกที่ เอฟซี โตเกียว ได้จับมือร่วมเป็นพันธมิตรกับสโมสรในประเทศไทย ซึ่งแบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นสโมสรชั้นนำของไทยลีก และมีแนวทางในการบริหารใกล้เคียงกับ เอฟซี โตเกียว จึงทำให้การเจรจาเป็นไปได้ด้วยดี โดย เอฟซี โตเกียว มีโครงสร้างในการพัฒนานักเตะเยาวชน หรือ Acacemy อันดับต้นๆของเอเชีย ซึ่งจะสามารถช่วยพัฒนานักเตะเยาวชนของทีมแบงค็อก ยูไนเต็ดได้ เราจะทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิด เพื่อร่วมกันหาแนวทางในแลกเปลี่ยนความรู้ทางด้านฟุตบอลต่อไปเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนของทั้งสองทีม”
ขจร เจียรวนนท์ ประธานสโมสรฟุตบอล แบงค็อก ยูไนเต็ด กล่าวว่า การจับมือกันครั้งนี้ถือเป็นก้าวสำคัญเพราะเป็นครั้งแรกที่แบงค็อก ยูไนเต็ด เซ็นสัญญาเป็นพันธมิตรร่วมกับสโมสรชั้นนำจากต่างประเทศ โดยมีจุดเริ่มต้นจากที่ เอฟซี โตเกียว ต้องการที่จะขยายตลาดในประเทศไทย จึงได้ติดต่อผ่านมายังสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และ ไทยลีก เพื่อพูดคุยหารือถึงสโมสรที่มีแนวทางเดียวกัน ซึ่ง แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ได้รับความสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจาก แบงค็อก ยูไนเต็ด เป็นทีมที่ยกระดับตัวเองขึ้นมาเป็นทีมชั้นนำของประเทศ และสามารถคว้าตำแหน่งรองแชมป์ไทยลีกในฤดูกาลที่แล้วได้ ที่สำคัญ ทั้งสองสโมสรมีทิศทางในการบริหารสโมสร และนโยบายในการปั้นนักเตะเยาวชนที่คล้ายกัน และทั้ง 2 ทีมต่างก็เป็นทีมเมืองหลวงของแต่ละประเทศ จึงเป็นที่มาของแนวคิด “TWO CAPITAL ONE GOAL “ ซึ่งจะมีการร่วมกันวาง Roadmap ในการทำงานอย่างชัดเจนต่อไป
“ความร่วมมือครั้งนี้ จะนำไปสู่ผลลัพธ์ของการพัฒนาร่วมกันอย่างจริงจัง สิ่งที่ผมอยากเห็นในอนาคตคือการที่นักเตะของ แบงค็อก ยูไนเต็ด มีโอกาสย้ายไปค้าแข้งในเจลีกกับทีมเอฟซี โตเกียว เพราะตอนนี้เจลีกได้มีการปรับโครงสร้างนักเตะต่างชาติ ซึ่งนักเตะไทยสามารถลงเล่นในเจลีกได้อย่างไม่จำกัดจำนวน เพิ่มโอกาสให้นักเตะไทยได้ไปค้าแข้งที่ประเทศญี่ปุ่นมากขึ้น อย่างเมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ได้มีการส่งสองนักเตะทีมชาติไทยรุ่นอายุไม่เกิน 23 ปี อย่าง “พี” ศศลักษณ์ ไหประโคน และ “ไอซ์” จักรกฤษณ์ เวชภิรมย์ ไปทดสอบฝีเท้ากับ เอฟซี โตเกียว เป็นเวลา 10 วัน จึงถือเป็นจุดเริ่มต้นในความร่วมมือกันของทั้งสองสโมสร และฟีดแบ็คที่ได้รับคือทาง เอฟซี โตเกียว ชื่นชมในฝีเท้าของนักเตะทั้งสองคน ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ายินดีอย่างยิ่ง”