คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
ฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ฤดูกาล 2017 ฟาดแข้งกันมาแล้ว 5 นัด ทีมนำอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด มาแบบท็อปฟอร์มขนาดว่าชนะรวด แบบไม่เสียประตูให้ทีมใดเลย แถมยิงไปแล้วถึง 12 ประตู ทั้งที่เสียตัวหลักอย่าง เคลตัน ซิลวา กองหน้าบราซิล, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ ที่เล่นได้ทั้งมิดฟิลด์ และกองหลัง รวมถึง สารัช อยู่เย็น ที่บาดเจ็บยาว คงได้เห็นลงสนามอีกทีก็ปีหน้า แต่ก็แทบไม่ส่งผลอะไรเลย ยิ่งเล่นยิ่งดี น่าสนใจอยู่เหมือนกันว่าพอถึงเลก 2 ที่ต้องเสีย ชนาธิป สรงกระสินธ์ ที่จะไปเล่นกับ คอนซาโดล ซัปโปโร ในเจลีก มีเครื่องหมายคำถามว่า เฮแบร์ตี เฟร์นานเดซ อดีตดาวซัลโวไทยลีก กับทีม ราชบุรี เอฟซี จะมาอุดช่องว่างตรงนี้ได้หรือไม่?
สำหรับไทยลีก ทุกวันนี้การแข่งขันสูงมาก หลายสโมสรต่างยกระดับจากทีมธรรมดาสู่ความสมบูรณ์แบบ และครบเครื่อง ยกตัวอย่าง สิงห์ เชียงราย ยูไนเต็ด ฟอร์มก็สุดสะเด่าเสียเหลือเกิน นอกจากผลงานดีแล้ว ยังไม่แพ้ใครเลย เสียประตูแค่ 2 นัด ล่าสุดยังบุกไปอัด แบงค็อก ยูไนเต็ด รองแชมป์ลีกฤดูกาลที่แล้วคาบ้าน 3-0 ไหนจะ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ เนวิน ชิดชอบ คิดแคมเปญเก๋ๆ "สไตรค์ แบ็ค" ทวงคืนทุกแชมป์ แม้จะยังเหมือนจูนไม่เข้าที่ดี แต่ก็เก็บแต้มเป็นกอบเป็นกำ จากการประสานงานที่เริ่มลงตัวระหว่าง ชาชา กับ ดิโอโก
แม้สถานการณ์ทีมหัวตารางจะน่าจับตา แต่ทีมที่อยู่ท้ายตารางทั้งหลายก็น่าสนใจไม่แพ้กัน เริ่มจาก ศรีสะเกษ เอฟซี เปิดตัวไปเพียง 3 นัดด้วยความพ่ายแพ้รวดเดียว ร้อนใจกันทั้งบอร์ด และแฟนบอล ก่อนจะลงเอยด้วยการแยกทางกับ "โค้ชโอ่ง" ดุสิต เฉลิมแสน ถือว่าน่าเสียดายไม่น้อย เพราะดูเหมือนจะเร็วเกินไปมาก เช่นเดียวกับ ซูเปอร์พาวเวอร์ สมุทรปราการ ที่แข่งไป 5 นัด มี 1 คะแนนรั้งบ๊วย บอร์ดบริหารก็ตัดใจยก "โค้ชหนุ่ย" เฉลิมวุฒิ สง่าพล กุนซือไปนั่งที่ปรึกษา หลังพาทีมบุกแพ้ ชลบุรี เอฟซี 1-3
รายของ "โค้ชหนุ่ย" ถึงผลงานทีมไม่ดี แต่ก็ใช่ว่าบอลของทีม โอสถสภา เดิม จะไม่มีทรง ทว่าดูเหมือนสาเหตุเกิดมาจาก การที่ผู้บริหารทีม ต้องการจะหาผู้สนับสนุนรายใหม่มาควักกระเป๋าแทน แต่เมื่อเปิดฤดูกาลแล้วยังไม่ได้กระเป๋าเงินรายใหม่เสียทีก็ต้องทู่ซี้ฟาดแข้งกันไปด้วยสรรพกำลังที่มีอยู่ ซึ่งเมื่อสู้กับทีมอื่นไม่ได้ อันดับถอยมาอยู่ถึงอันดับสุดท้าย สถานการณ์การหาผู้สนับสนุนรายใหม่ยิ่งยากเข้าไปใหญ่ คงไม่มีใครอยากควักเงินหลายสิบล้านมาลงกับทีมที่กลายเป็นเต็งตกชั้น
ดังนั้นเหตุผลหลักๆ ของการเปลี่ยนตัวกุนซือ ซูเปอร์พาวเวอร์ ครั้งนี้ จึงเป็นเรื่องของการหาทีมบริหารใหม่ล้วนๆ ความซวยเลยมาตกที่ตัวกุนซือในตอนท้าย ถามว่าเปลี่ยนแล้วจะดีขึ้นไหม เรื่องนี้ตอบยาก แต่หากมองไปที่ทรัพยากรที่มีอยู่มีแววสูงที่จะตกชั้น และหากยังหาใครมารับเลี้ยงดูสโมสรเก่าแก่อันเป็นตำนานอันมีพื้นฐานมาจาก โอสถสภา เอฟซี ที่ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี 2520 ไม่ได้ เมื่อต้องลงไปเกลือกกลั้วในลีก "ที 2" เราคงได้บอกลาสโมสรแห่งนี้ เหมือนที่เคยทำกับทีมอย่าง ทีทีเอ็ม หรือ ทีโอที ก็เป็นได้...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *