คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
โดยทั่วๆ ไป กีฬาไม่ว่าจะประเภทอะไร ก็มักแบ่งการแข่งขันออกเป็นประเภทชายและประเภทหญิง ซึ่งก่อนหน้านี้ ก็เคยมีข่าวลือเป็นที่ฮือฮาว่ามีการตรวจเพศนักกีฬาหญิงด้วยการให้ถอดเสื้อผ้าดู ทั้งๆ ที่วิทยาการก้าวหน้าสามารถตรวจดีเอ็นเอได้แน่ๆ อยู่แล้ว แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ก็เป็นแค่ข่าวลือ ในกีฬาการต่อสู้ทั้งหลายก็มีรายการแข่งขันทั้งประเภทชายและหญิง แม้ว่าจะมีหลายเสียงบอกว่าสรีระผู้หญิงไม่น่ามาเล่นกีฬาต่อสู้ แต่นักสู้สาวหลายรายก็สร้างผลงานยอดเยี่ยม สร้างชื่อเสียงโด่งดังทั้งในมวยสากล มวยไทย เทควันโด คาราเต ยูโด จนถึงรายการศิลปะการต่อสู้แบบผสมต่างๆ มาตอนนี้ วิทยาการก้าวหน้าขึ้นไปอีก แถมโอกาสที่นักสู้ทั้งหลายจะมีโอกาสเข้าใจความรู้สึกของตัวเองในด้านการเลือกเพศก็มากขึ้น จนเริ่มเป็นเรื่องชวนปวดหัวแล้วสำหรับกีฬาที่ต้องมีการปะทะกันและใช้สรีระเป็นหลักอย่าง “ไฟต์คลับ” ของชาวเรา
ก่อนหน้านี้ เคยเขียนถึงนักสู้แปลงเพศมาแล้วรายหนึ่ง คือ ฟัลลอน ฟอกซ์ นักสู้ MMA หญิงที่จริงๆ แล้วเกิดมาเป็นชาย โตขึ้นมาแต่งงานมีลูกเรียบร้อย เข้ารับราชการในกองทัพเรือสหรัฐฯ จนอายุ 31 ถึงค้นพบตัวเองและทำการผ่าตัดแปลงเพศเป็นหญิง โดยมาผ่าตัดที่เมืองไทยนี่เอง แถมยังมี “น้องตุ้ม” ปริญญา เกียรติบุษบา เป็นนักสู้ในดวงใจอีกต่างหาก ฟอกซ์ ขึ้นสู้ในรายการ MMA หญิงระดับรองๆ 6 ไฟต์ ชนะ 5 แพ้ 1 โดยไฟต์หลังสุดเกิดขึ้นในปี 2014 แล้วจากนั้นก็ไม่ได้ขึ้นสู้อีก
ตลอดช่วงเวลาที่ฟอกซ์ขึ้นสังเวียนในรายการ MMA หญิงนั้น ก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์โดยตลอดว่าการที่เกิดเป็นชายนั้น ทำให้ได้เปรียบนักสู้หญิงคนอื่นๆ ทางสรีระอย่างมาก แม้จะดำเนินการทุกอย่างผ่านตามเกณฑ์ที่ยอมรับกันทั่วไปแล้วก็ตาม คือ มีการผ่าตัดแปลงเพศเรียบร้อย มีการกินฮอร์โมนเพศตรงข้ามแล้วเป็นระยะเวลา 2 ปีขึ้นไป แต่ความรู้สึกของคนทั่วๆ ไปก็อดคิดไม่ได้ว่าคนที่เกิดมาเป็นผู้ชาย ก็ต้องมีความแข็งแรงกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว กระดูกแข็งกว่า หนากว่า กล้ามเนื้อใหญ่กว่า และการผ่าตัดแปลงเพศ รวมทั้งการกินฮอร์โมน มากระทำตอนผ่านวัยเจริญพันธุ์เต็มที่แล้ว ร่างกายเติบโตเต็มที่แล้ว
ล่าสุด ในช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ในการแข่งขันมวยปล้ำระดับมัธยมของโรงเรียนในรัฐเทกซัส ปรากฏว่า แม็ค เบ็กก์ นักเรียนสาววัย 17 ที่ได้รับการผ่าตัดแปลงเพศเป็นชาย และได้กินฮอร์โมนเพศชาย (เทสโทสเทอโรน) มาร่วม 2 ปีแล้ว ได้เข้าแข่งขันในประเภทหญิง เนื่องจากระเบียบการแข่งขันนั้นแยกเพศนักสู้โดยดูจากสูติบัตร สุดท้ายแม็ก เบ็กก์ ก็ชนะการแข่งขันของตัวเองทุกไฟต์ ช่วยให้ทีมโรงเรียนของเขา (เธอ) ได้คะแนนรวมเป็นอันดับ 2 ได้รางวัลรองชนะเลิศ
งานนี้เสียงวิจารณ์กระหึ่ม โดยส่วนใหญ่เห็นว่าไม่แฟร์เลย เนื่องจากการกินฮอร์โมนเพศชาย ย่อมทำให้ร่างกายกล้ามเนื้อต่างๆ มีความแข็งแรงมากกว่าเด็กสาวทั่วๆ ไปแน่นอน ต่างจากกรณีของฟัลลอน ฟอกซ์ ที่เกิดเป็นชาย แต่มีการผ่าตัดแปลงเพศเป็นหญิง และมีการกินฮอร์โมนเพศหญิง ซึ่งทำให้ร่างกายมีไขมันมากขึ้น ลดความแข็งแกร่งลง กรณีของฟอกซ์ จึงพออ้างได้ว่าไม่ได้ได้เปรียบคู่ต่อสู้ แต่กรณีของแม็ค เบกก์ นี้เถียงยาก ว่าไปก็เหมือนกับกินยาโด๊ปเลยทีเดียว แถมกินต่อเนื่องมาร่วม 2 ปีแล้วด้วย งานนี้จริงๆ ทางนักสู้วัยรุ่นรายนี้ไม่ได้ทำอะไรผิด และเจ้าตัวพร้อมพ่อแม่ ก็ยืนยันว่าอยากลงแข่งในประเภทชายมากกว่า แต่ระเบียบการแข่งขันว่าไว้อย่างนั้น ก็ต้องทำตาม เลยกลายเป็นแพะไป
โลกตอนนี้เปลี่ยนแปลงรวดเร็วทุกวัน ทำให้การตัดสิน หรือวินิจฉัยว่าอะไรถูกอะไรผิด อะไรเหมาะสมอะไรไม่เหมาะสม ก็ต้องเปลี่ยนไปด้วย สำหรับบรรดานักสู้ข้ามเพศเหล่านี้ก็ต้องฝ่าฟันไปในช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงนี้ ส่วนผู้มีหน้าที่ก็คงต้องหาทางจัดการระเบียบต่างๆ เพื่อให้เกิดความปลอดภัย และความยุติธรรมกับนักสู้ทุกคนที่สุด
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *