คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
สร้างความประหลาดใจพอสมควรกับการแจ้งจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ว่า จะมีการมอบถ้วยแชมป์ “ไทยลีก” และ “ดิวิชั่น 1” ฤดูกาล 2016 ให้กับสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ไทยฮอนด้า ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ และ 18 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากการแข่งขันจบกันไปตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา จนฤดูกาลใหม่เริ่มต้นกันไปวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งถือว่าเนิ่นนานเกินสมควร ก่อนที่จะมีการออกมาชี้แจงว่าเหตุที่ล่าช้าก็เนื่องจากต้องมีการสั่งทำถ้วยใบใหม่มามอบให้ นั่นก็ยิ่งทำให้แฟนบอลงงกันเข้าไปใหญ่ เหตุใดจึงต้องสร้างถ้วยกันใหม่
ลองย้อนกลับไปเมื่อก่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เอาชนะ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี เจ้าของเก้าอี้หลายสมัย ตอนนั้นก็มีการยืนยันหนักแน่นว่า เมื่อชนะการโหวตจะมีการกราบบังคมทูลผ่านสำนักราชเลขาธิการ เพื่อขอให้แชมป์ไทยลีก ได้รับถ้วยพระราชทาน ก, แชมป์ดิวิชั่น 1 รับถ้วยพระราชทาน ข, แชมป์ ดิวิชั่น 2 รับถ้วยพระราชทาน ค และ ดิวิชั่น 3 รับถ้วยพระราชทาน ง ขณะที่แชมป์ เอฟเอ คัพ รับถ้วยพระราชทาน ควีนคัพ เนื่องจากที่ผ่านมาการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทาน มักเป็นรายการที่ไม่ค่อยมีผลมากนัก จึงอยากให้ความสำคัญกับถ้วยพระราชทานมากขึ้นนั่นเอง
แต่กลับเป็นว่าสิ่งที่เคยพูดไว้กลับไม่มีการสานต่อ เหล่าบรรดาคนที่รอคอยสัญญาว่าจะได้เห็นแชมป์ไทยลีก ก้าวขึ้นมารับถ้วยรางวัลเก่าแก่ที่ได้รับพระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2459 ก็มีอันต้องฝันสลาย สำหรับถ้วยเก่าแก่ใบนี้ แต่เดิมฟุตบอลลีกบ้านเราก็ใช้ถ้วยนี้สำหรับมอบให้ทีมแชมป์ แต่เมื่อ พ.ศ. 2539 เพิ่งจะมีการเปลี่ยนระบบฟุตบอลอาชีพเรียกชื่อเสียใหม่ว่า “ไทยลีก” ตอนนั้นเองที่ถ้วยพระราชทาน ก ถูกยกไปเป็นรางวัลสำหรับทีมชนะระหว่างแชมป์ไทยลีก กับ เอฟเอ คัพ
เท่าที่ทราบตอนนี้ใครบางคนโดนตำหนิจากเรื่องนี้มากเหมือนกัน โดยมีการออกมาชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องทำถ้วยแชมป์ ไทยลีก และ ดิวิชั่น 1 ใหม่ ก็เพราะไม่สามารถนำถ้วยแชมป์ใบเก่า อันเป็นสมบัติของ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก เดิมที่จัดการแข่งขันรายการนี้มามอบให้ได้ เพราะมีการตั้งบริษัทใหม่มาดูแลแล้ว และถือเป็นถ้วยเฉพาะกิจที่สั่งทำมาจากโรงงานผลิตถ้วยแชมป์ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลิตถ้วยแชมป์ "เจลีก" ด้วยเช่นกัน อีกทั้งแชมป์ไทยลีก 2017 นั้นก็จะผลิตถ้วยใบใหม่มาอีก
กลายเป็นว่า ฟุตบอลลีกของประเทศไทย ถอดแบบแทบทุกอย่างมาจาก “เจลีก” ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อลีกทุกระดับ, โลโก้ลีก, ศูนย์ฝึกฟุตบอลที่ไปดูงานกัน ล่าสุด ขนาดมีถ้วยใบเก่าแก่อายุร่วม 100 ปี ก็ยังถูกทดแทนด้วยถ้วยใหม่ใสวิ้งจากญี่ปุ่น จะว่าไปตามรอยประเทศที่พัฒนาแล้วในเรื่องฟุตบอลมันก็เป็นเรื่องดี
แต่อะไรที่เรามี และเป็นเอกลักษณ์ของเราอยู่ก็ไม่เห็นต้องเอาไปเก็บเข้าตู้เลย ยกตัวอย่างถ้วยถ้วยแชมป์กัลโช เซเรีย เอ อิตาลี ก็ใช้มา 119 ปี ซึ่งด้วยความเก่าแก่ก็ต้องมีการเปลี่ยนถ้วย แต่ก็ยังคงรูปแบบเดิม หรือถาดแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ก็อายุ 55 ปี ถ้าชอบถ้ารักจะเดินตามญี่ปุ่นขนาดนี้ เที่ยวหน้าเชิญโดราเอม่อนมาช่วยบริหารด้วยก็คงดีนะ...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
สร้างความประหลาดใจพอสมควรกับการแจ้งจากสมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ว่า จะมีการมอบถ้วยแชมป์ “ไทยลีก” และ “ดิวิชั่น 1” ฤดูกาล 2016 ให้กับสโมสร เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ ไทยฮอนด้า ในวันที่ 17 กุมภาพันธ์ และ 18 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากการแข่งขันจบกันไปตั้งแต่เดือนตุลาคมปีที่ผ่านมา จนฤดูกาลใหม่เริ่มต้นกันไปวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2560 ซึ่งถือว่าเนิ่นนานเกินสมควร ก่อนที่จะมีการออกมาชี้แจงว่าเหตุที่ล่าช้าก็เนื่องจากต้องมีการสั่งทำถ้วยใบใหม่มามอบให้ นั่นก็ยิ่งทำให้แฟนบอลงงกันเข้าไปใหญ่ เหตุใดจึงต้องสร้างถ้วยกันใหม่
ลองย้อนกลับไปเมื่อก่อนการเลือกตั้งนายกสมาคมฟุตบอลฯ ครั้งประวัติศาสตร์ ที่ “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง เอาชนะ “บังยี” วรวีร์ มะกูดี เจ้าของเก้าอี้หลายสมัย ตอนนั้นก็มีการยืนยันหนักแน่นว่า เมื่อชนะการโหวตจะมีการกราบบังคมทูลผ่านสำนักราชเลขาธิการ เพื่อขอให้แชมป์ไทยลีก ได้รับถ้วยพระราชทาน ก, แชมป์ดิวิชั่น 1 รับถ้วยพระราชทาน ข, แชมป์ ดิวิชั่น 2 รับถ้วยพระราชทาน ค และ ดิวิชั่น 3 รับถ้วยพระราชทาน ง ขณะที่แชมป์ เอฟเอ คัพ รับถ้วยพระราชทาน ควีนคัพ เนื่องจากที่ผ่านมาการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทาน มักเป็นรายการที่ไม่ค่อยมีผลมากนัก จึงอยากให้ความสำคัญกับถ้วยพระราชทานมากขึ้นนั่นเอง
แต่กลับเป็นว่าสิ่งที่เคยพูดไว้กลับไม่มีการสานต่อ เหล่าบรรดาคนที่รอคอยสัญญาว่าจะได้เห็นแชมป์ไทยลีก ก้าวขึ้นมารับถ้วยรางวัลเก่าแก่ที่ได้รับพระราชทานจากพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 6 เมื่อ พ.ศ. 2459 ก็มีอันต้องฝันสลาย สำหรับถ้วยเก่าแก่ใบนี้ แต่เดิมฟุตบอลลีกบ้านเราก็ใช้ถ้วยนี้สำหรับมอบให้ทีมแชมป์ แต่เมื่อ พ.ศ. 2539 เพิ่งจะมีการเปลี่ยนระบบฟุตบอลอาชีพเรียกชื่อเสียใหม่ว่า “ไทยลีก” ตอนนั้นเองที่ถ้วยพระราชทาน ก ถูกยกไปเป็นรางวัลสำหรับทีมชนะระหว่างแชมป์ไทยลีก กับ เอฟเอ คัพ
เท่าที่ทราบตอนนี้ใครบางคนโดนตำหนิจากเรื่องนี้มากเหมือนกัน โดยมีการออกมาชี้แจงว่า สาเหตุที่ต้องทำถ้วยแชมป์ ไทยลีก และ ดิวิชั่น 1 ใหม่ ก็เพราะไม่สามารถนำถ้วยแชมป์ใบเก่า อันเป็นสมบัติของ บริษัท ไทยพรีเมียร์ลีก เดิมที่จัดการแข่งขันรายการนี้มามอบให้ได้ เพราะมีการตั้งบริษัทใหม่มาดูแลแล้ว และถือเป็นถ้วยเฉพาะกิจที่สั่งทำมาจากโรงงานผลิตถ้วยแชมป์ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งผลิตถ้วยแชมป์ "เจลีก" ด้วยเช่นกัน อีกทั้งแชมป์ไทยลีก 2017 นั้นก็จะผลิตถ้วยใบใหม่มาอีก
กลายเป็นว่า ฟุตบอลลีกของประเทศไทย ถอดแบบแทบทุกอย่างมาจาก “เจลีก” ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนชื่อลีกทุกระดับ, โลโก้ลีก, ศูนย์ฝึกฟุตบอลที่ไปดูงานกัน ล่าสุด ขนาดมีถ้วยใบเก่าแก่อายุร่วม 100 ปี ก็ยังถูกทดแทนด้วยถ้วยใหม่ใสวิ้งจากญี่ปุ่น จะว่าไปตามรอยประเทศที่พัฒนาแล้วในเรื่องฟุตบอลมันก็เป็นเรื่องดี
แต่อะไรที่เรามี และเป็นเอกลักษณ์ของเราอยู่ก็ไม่เห็นต้องเอาไปเก็บเข้าตู้เลย ยกตัวอย่างถ้วยถ้วยแชมป์กัลโช เซเรีย เอ อิตาลี ก็ใช้มา 119 ปี ซึ่งด้วยความเก่าแก่ก็ต้องมีการเปลี่ยนถ้วย แต่ก็ยังคงรูปแบบเดิม หรือถาดแชมป์บุนเดสลีกา เยอรมนี ก็อายุ 55 ปี ถ้าชอบถ้ารักจะเดินตามญี่ปุ่นขนาดนี้ เที่ยวหน้าเชิญโดราเอม่อนมาช่วยบริหารด้วยก็คงดีนะ...
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *