EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน
เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา บิ๊กอ๊อด พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทย เพิ่งเซ็นสัญญาจ้าง 3 ผู้ตัดสินฟุตบอลอาชีพ เป็นผู้ตัดสินประจำสมาคมฯ นับเป็นงานอีกก้าวหนึ่งที่จะช่วยพัฒนาวงการฟุตบอลไทย และแก้ปัญหาเกี่ยวกับผู้ตัดสินที่มีมาอย่างยาวนานและยิ่งหนักขึ้นมากในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมาได้เสียที
ผู้ตัดสินทั้ง 3 คนที่จะมาทำงานประจำเต็มเวลาดังกล่าวคือ ชัยฤกษ์ งามสม ฑีธิชัย นวลจันทร์ และ ภูมรินทร์ คำรื่น ต่างก็มีคุณสมบัติตามข้อกำหนดของสมาคมฯ คือ เป็นผู้ตัดสินในระดับนานาชาติ (FIFA) ผ่านการสอบภาคทฤษฎีเกี่ยวกับกติกาการแข่งขันฟุตบอล และผ่านการทดสอบสมรรถภาพทางด้านร่างกายตามกฎของฟีฟ่า ซี่งแน่นอนว่าเคยผ่านการทำหน้าที่ในลีกสูงสุดของไทยเป็นระยะเวลา 2 ปี และมีคุณสมบัติอื่นๆ ตามที่สมาคมฯ กำหนดครบถ้วน
พวกเขามีหน้าที่พัฒนาผู้ตัดสินไทยให้มีความรู้ความสามารถทัดเทียมกับผู้ตัดสินของต่างประเทศ พวกกติกาใหม่ๆที่ฟีฟ่าปรับปรุงเปลี่ยนแปลงก็ต้องทำความเข้าใจให้ดีและถ่ายทอดให้กับผู้ตัดสินคนอื่นๆ และรองรับแมตช์การแข่งขันที่สมาคมฯ จัดขึ้น คือทำหน้าที่ในส่วนงานของผู้ตัดสินต่างๆ ตามที่สมาคมฯ มอบหมาย
แต่ก่อนนั้น ปัญหาของฟุตบอลไทยที่เกิดขึ้น มักมีสาเหตุมาจากการตัดสินที่ผิดพลาดทั้งแบบไม่ได้ตั้งใจ เนื่องจากผู้ตัดสินแรงไม่ถึง วิ่งไม่ทัน สมองสั่งการช้า ปฏิกริยาไม่ทันเกม ไม่แม่นกฎ กติกา ตาถั่ว และอีกสาเหตุก็คือการตัดสินที่ผิดพลาดอย่างตั้งใจ นั่นก็เพราะผู้ตัดสินดันไปรับงาน รับคำสั่งมาจากผู้บงการให้ทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทีมใดชนะการแข่งขัน หรือมีผลการแข่งขันตามที่ผู้บงการต้องการ
มันมีทั้งกลุ่มแก๊งค์ผู้ตัดสินที่เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องกับโต๊ะพนันบอล บางคนเปิดโต๊ะเอง บางคนถูกสั่งมา หรือบางกรณีเป็นการรับจ้างให้ดูแลบางทีมที่เป็นพรรคพวกกันอย่างสุดฝีมือ ถึงขนาดคนระดับประธานภาคดันลงมือเจรจากับผู้ตัดสินเองเลยเพื่อกำหนดผลการแข่งขันให้ทีมหนึ่งได้ขึ้นชั้น
ผมเชื่อว่าข้อครหาเรื่องการกำหนดผลการแข่งขันที่มีการกระทำกันเป็นล่ำเป็นสัน แทบจะเรียกได้ว่า กำกับดูแลโดยระดับบริหารขององค์กรเอง ในยุคนี้มันคงไม่ใช่ปัญหา คราวนี้ก็เหลือเรื่องการฝึกอบรม พัฒนาผู้ตัดสินให้แม่นกฎ ทันเกม การตัดสินที่ถูกต้องแม่นยำ ยุติธรรม ย่อมทำให้เกมฟุตบอลสนุก วัดกันด้วยฝีมือ ผลการแข่งขันเป็นไปตามธรรมชาติ ส่งผลถึงการแข่งขันระดับชาติที่จะได้นักเตะของจริง ไม่ใช่เจ้าของทีมซื้อถ้วยซื้อสิทธิ์เลื่อนชั้นขึ้นมา
อีกสิ่งหนึ่งที่ผมอยากจะบอกก็คือ เรื่องอะไรในโลกนี้ที่มันมีกลิ่นไม่ปกตินั้น ในสังคมจะมี สื่อ ที่นำมาเปิดเผย นำมาแฉ อย่างเรื่องการตัดสินเกมฟุตบอลที่มีการรับงาน หรือเรื่องทุจริตอื่นๆ ยิ่งบางเรื่องหากเราไม่ได้เป็นผู้บริหาร กรรมการ หรือเป็นผู้ที่มีอำนาจหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้อง ก็เป็นการยากที่จะนำเอกสารหลักฐานเรื่องฉาวออกมาแสดง คงทำได้เพียงแค่ป่าวประกาศ กล่าวพาดพิง หรืออย่างแย่ๆไปเลยก็แค่วาดการ์ตูนล้อเลียน อย่างน้อยมันก็ยังเป็นการนำทางให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่พิทักษ์ความถูกต้องเข้ามาดำเนินการ ทั้งนี้ ก็เพื่อให้สังคมจัดเรียงตัวในทางที่ถูกต้อง
ผมเชื่อว่า เรื่องความถูกต้องยุติธรรม มันอยู่ที่เปา ผู้ตัดสิน กรรมการ ศาล ผู้พิพากษา ที่มีกฎหมาย กฎเกณฑ์ กติกา อยู่ในมือ แต่ถ้ามันยังมีการรับงาน อันนี้ก็ต้องพึ่งคนที่ทำหน้าที่ขุดคุ้ยเรื่องฉาวขึ้นมาแฉ นั่นคือ สื่อ ถือเป็นดาบสอง ซึ่งในช่วง 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมา ผมยังเห็นมีกลุ่มกร๊วกที่พยายามปิดประเทศ ปิดหู ปิดตา ประชาชน ด้วยการออกกฎหมายควบคุมสื่อ ปิดกั้นสิทธิเสรีภาพในการเปิดโปงเรื่องทุจริต บงการให้เป็นไปตามแนวทางที่สอดคล้องกับความต้องการตนและพวกพ้อง แล้วสังคมมันจะจัดเรียงตัวในทางที่ดีได้อย่างไรครับ
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *