ศึก MMA บ้านเรา...หรือจะมาเร็วไปเร็ว

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - ย้อนไปปลายปี พ.ศ. 2554 หรือเมื่อ 6 ปีก่อน คนไทยได้รู้จักกับการแข่งขันชกมวยที่มีชื่อว่า “ไทย ไฟต์” จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ ณ ลานพระบรมรูปทรงม้า ซึ่งจริงๆ ก็มีการแลกหมัดเขย่าศอกกันมาก่อนหน้านี้แล้ว ทว่าไม่ได้ถูกยอมรับมากเท่าที่ควร

แต่ตอนนั้นถือว่าบูมสุดๆ ส่วนหนึ่งต้องบอกว่าเป็นเพราะนักชกระดับแม่เหล็กอย่าง บัวขาว ป.ประมุข, เข้ม ศิษย์สองพี่น้อง กับ ไทรโยค พุ่มพันธุ์ม่วง รวมถึงต่างชาติอย่าง ฟาบิโอ ปินกา ทำให้ฮอตฮิตติดลมบน

อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จดังกล่าวอยู่ไม่ยั้งยืนยง ที่เห็นได้ชัดคือผลประโยชน์ในตัวนักมวยทำให้เกิดการทะเลาะเบาะแว้งกันขึ้นภายในค่ายตามข่าววุ่นวายที่ออกมา รวมถึงการเฟ้นนักมวยต่างชาติที่ชื่อชั้นไม่ถึงมาขึ้นเวทีจนถูกเรียกว่า “มาเป็นหมูให้เชือด” นำมาสู่เสียงวิจารณ์ว่าจัดฉากชกอย่างไรคนไทยก็ชนะอยู่วันยังค่ำ

นักมวยอย่าง บัวขาว ที่มีฝีไม้ลายมืออยู่แล้วก็สามารถที่จะหาลู่ทางผลักดันตนเองจนดังเปรี้ยงปร้างทั้งในประเทศและโกอินเตอร์ขึ้นเวทีครั้งใดคนก็ติดตามภายใต้ชื่อค่าย บัญชาเมฆ

แต่ในส่วนของ “ไทย ไฟต์” นั้นก็ค่อยๆ ล้มหายตายจาก แม้ว่าจะมีการปรับรูปแบบการแข่งขัน จนตอนนี้เรียกได้ว่าแทบไม่มีคนสนใจอีกต่อไปแล้ว อีกทั้งยุคทีวีดิจิตอลมีการซื้อลิขสิทธิ์จัดแข่งขันชกมวยถ่ายทอดสดแทบทุกวันมีมากมายหลายทัวร์นาเมนต์จนไม่รู้ว่าอันไหน “ของจริง” กันแน่ รวมถึงเวทีไหนเป็นสถาบันหลักที่ได้รับการยอมรับ

ล่าสุด เมื่อไม่นานมานี้บ้านเรามีแถลงการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสมที่รวมวิชาหลายแขนงเข้าด้วยกันหรือที่เรียกว่า (MMA - Mixed martial art) โดยเป็นการนำเข้ามาของ ONE Championship ปีนี้ใช้ชื่อว่า Warrior Kingdom กำหนดจัดขึ้นวันที่ 11 มีนาคม ณ อิมแพคอารีนา เมืองทองธานี

ที่บอกว่าปีนี้ เพราะจริงๆ แล้วมีการจัดแข่งครั้งแรกไปเมื่อกลางปีที่แล้วใช้ชื่อว่า KINGDOM OF CHAMPIONS โดยมีนักชกไทย คือ เดชดำรงค์ ส. อำนวยศิริโชค แชมป์โลก one รุ่นสตรอว์เวต (Strawweight) เป็นแม่เหล็กเพื่อดูดคนดูเจอกับผู้ท้าชิงชาวญี่ปุ่น โยชิตะกะ นาอิโตะ ดีกรีแชมป์รายการ ชูโอโตะ รุ่นเฟเธอร์เวต

สุกี้ - กมล สุโกศล แคลปป์ ประธานจัดการแข่งขัน ONE Championship ประเทศไทย ยังพยายามดึงดูดคนดูด้วยการพ่วงคอนเสิร์ตวงร็อกแนวหน้าของประเทศ บอดี้สแลม และ บิ๊ก แอส

ส่วนปีนี้การคัมแบ๊กกลับมาของ “มวยกรง” ยังคงได้ “ครูรงค์” เดชดำรงค์ ส.อำนวยศิริโชค อดีตแชมป์สตรอว์เวตที่พลาดท่าเสียเข็มขัดให้นักสู้ญี่ปุ่นไปคาบ้านเมื่อรายการ One FC ในเมืองไทยปีที่แล้ว ขึ้นสังเวียนเรียกฟอร์มอีกครั้ง

ยังมี “ครูตอง” ชนนภัทร วิรัชชัย นักสู้ MMA สายตรงของเมืองไทย ที่กำลังฮอตในสถาบัน One FC ก็ได้โอกาสขึ้นโชว์ฝีมืออีกรอบ แต่ที่น่าสนใจคือมี “นักฆ่าหน้าหวาน” หรือ Smiling Assassin ริกะ อิชิเกะ นักสู้ MMA ลูกครึ่งไทย-ญี่ปุ่น หวานใจของ “ครูตอง” นอกเวที มีคิวขึ้นประเดิมสังเวียน MMA อาชีพในรายการนี้ด้วยในรุ่นอะตอมเวต รวมถึง แองเจลา ลี นักสู้หน้าหวานชแชมป์โลก MMA รุ่นอะตอมเวตหญิง

ส่วนแฟนๆ คอนเสิร์ตปีนี้ทางด้าน เฮียสุกี้ ไม่ลืมที่จะเอาใจเหมือนเดิม แต่เปลี่ยนจากวงร็อคโยกหัวเป็นการโย่ว!! ด้วยศิลปินแร็ปอย่าง ไทเทเนียม รวมถึงอีกวง คือ สลอต แมชีน

เรียกได้ว่า เป็นอีกปีที่น่าสนใจสำหรับศึก MMA แต่ที่น่าเป็นห่วงก็คือกระแสศิลปะการต่อสู้แบบนี้ในบ้านเรานั้นไม่ค่อยเป็นที่นิยมนัก แม้ว่าจริงๆ แล้วจะสู้ได้ดุเดือดไม่แพ้มวยไทยก็ตาม

ซึ่งนับตั้งแต่กลางปีที่แล้วจนถึงตอนนี้ถือว่าข่าวคราวนั้นขาดช่วงจนแฟนๆ ฮาร์ดคอร์ไม่อินกับการแข่งขันอยู่ๆ ก็โผล่มาเป็นปีที่ 2 เลย ถือเป็นการบ้านที่ฝ่ายจ่ายจัดต้องแก้ไขด่วน ส่วนหนึ่งก็อาจจะเพราะว่าไม่มีนักชกระดับแม่เหล็กเหมือนอย่าง “ไทย ไฟต์” ที่มี บัวขาว แม้ว่า “ครูตอง” ชนนภัทร จะหน้าตาหล่อเหลาดึงดูดสาวๆ ได้พอสมควร แต่ก็ดังเฉพาะกลุ่มเท่านั้น

นอกจากนี้ กีฬา MMA คนทั่วไปหรือคนไทยยังเข้าถึงยากรวมถึงเรื่องกฎกติกา นอกจากนี้ไม่สามารถเรียนเพื่อใช้ออกกำลังกายแบบมวยไทยที่มีสถาบันเปิดสอนมากมายในบ้านเราอีกด้วย

ดังนั้น ดูแล้วน่าเป็นห่วงว่า MMA จะมาเร็วไปเร็วยิ่งกว่าศึก “ไทย ไฟต์” หากเป็นเช่นนั้นก็น่าเสียดายอย่างยิ่ง ทั้งที่เปิดตัวกับเปิดหัวได้อย่างน่าสนใจแล้ว แต่ไม่อาจหาวิธีทำให้ติดลมบนได้ ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ยากที่สุด

เรื่อง สรเดช เพชรแสงใสกุล
เพิ่งมีการแถลงก่อนแข่งจริงเดือนมีนาคมนี้