ไทเกอร์ วูดส์ อดีตโปรหมายเลข 1 ของโลก ขอสร้างปรากฏการณ์ดังเช่น โรเจอร์ เฟเดอเรอร์ นักเทนนิสจอมเก๋าชาวสวิส กลับมาคว้าแชมป์ระดับเมเจอร์ หลังพักรักษาอาการบาดเจ็บไปนาน
เฟเดอเรอร์ วัย 35 ปี ยืดสถิติครองโทรฟีระดับ แกรนด์ สแลม สูงสุด เป็น 18 สมัย เอาชนะ ราฟาเอล นาดาล คู่ปรับตัวฉกาจจาก สเปน แบบดุเดือด 3-2 เซต รอบชิงชนะเลิศ ออสเตรเลียน โอเพน ที่กรุงเมลเบิร์น วันอาทิตย์ที่ 29 มกราคมที่ผ่านมา
ชัยชนะดังกล่าวถือว่าเหนือความคาดหมาย เนื่องจาก “เฟดเอ็กซ์” กลับมาลงเล่นทัวร์นาเมนต์แรก หลังบาดเจ็บเข่า 6 เดือน แถมยังเป็นแชมป์ แกรนด์ สแลม ใบแรก รอบเกือบ 5 ปี ตั้งแต่รายการ วิมเบิลดัน เมื่อปี 2012
ด้าน “พญาเสือ” ถือว่าไม่แตกต่าง เพิ่งหายจากการบาดเจ็บหลัง พักนาน 15 เดือน และหยุดสถิติแชมป์เมเจอร์ 14 สมัย เป็นรองเพียง แจ็ค นิคคลอส ที่ทำไว้ 18 สมัย อยู่นาน ครั้งสุดท้าย คือ ยูเอส โอเพน ปี 2008
ก้านเหล็กวัย 41 ปี หวังสร้างแรงบันดาลใจจาก นักหวดมือ 10 ของโลก ก่อนลงแข่ง รายการ “โอเมกา ดูไบ ดีเสิร์ต คลาสสิก” ที่สนาม เอมิเรตส์ กอล์ฟ คลับ วันที่ 2-5 กุมภาพันธ์ เตรียมตัวลุยเมเจอร์แรกของปี "เดอะ มาสเตอร์ส 2017" ที่สนาม ออกัสตา เดือนเมษายน
โปรลูกครึ่งไทย-อเมริกัน กล่าว “ไม่มีใครเป็นแชมป์ แกรนด์ สแลม ตอนอายุเท่ากับเขา สำหรับเขาการกลับมาหลังพักไปนาน เป็นสิ่งที่ยากสุด เพราะบนคอร์ตแห่งนั้นเป็นการเล่นที่รวดเร็ว”
“เขาฟื้นฟูร่างกายอย่างเต็มที่ และคุณสามารถบอกได้ว่า เขารวดเร็วขนาดไหน เขาเล่นทุกคะแนนให้สั้นลง เปลี่ยนกลยุทธ์เล็กน้อย ไม่ได้ปักหลักตรงท้ายคอร์ตนานนัก ผมหมายถึงเวลาคุณอายุมากขึ้น คุณก็ต้องปรับสไตล์การเล่น”
“แน่นอน ผมคงจะไม่ตีลูกไกลๆ เหมือนบางคนที่ทำได้ 340 หลา ผมติดตาม ดัสติน จอห์นสัน สัปดาห์ที่แล้ว เขาทำได้ 335 หลา หากคุณดูคนอื่นๆ ที่เคยทำสกอร์ต่ำกว่า 60 จิม ฟูริก ที-ออฟระยะเฉลี่ย 270 หลา" วูดส์ ที่มีค่าเฉลี่ยการไดรฟ์ 275 หลา เฉพาะฤดูกาลนี้ ทิ้งท้าย
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *