"โบลต์" ผิดหวังเพื่อนทำเสียเหรียญทอง แต่ชีวิตต้องไปต่อ

อูเซน โบลต์ มนุษย์ที่วิ่งเร็วที่สุดในโลก กล่าวรู้สึกเสียใจที่ต้องสูญเสียเหรียญทองที่ได้มาจากความยากลำบากเมื่อปี 2008 ส่งคืนให้คณะกรรมการโอลิมปิกสากล (ไอโอซี) หลังเพื่อนร่วมทีมฝ่าฝืนกฏใช้สารกระตุ้น แต่ยืนยันไม่เสียเวลาคร่ำครวญ และเดินหน้าล่าความสำเร็จรายการอื่นต่อไป

นักกรีฑาวัย 30 ปี ได้รับสมญานามให้เป็น "treble treble" เพราะกวาดเหรียญทองได้ถึง 3 รายการใน โอลิมปิก ทั้ง 3 ครั้งติดต่อกันที่ ปักกิ่ง, ลอนดอน และ ริโอ เดอ จาเนโร ถูกริบเหรียญทองประเภทผลัด 4x100 ม.ชาย ปี 2008 เพราะ เนสตา คาร์เตอร์ เพื่อนร่วมทีมถูกตรวจพบสารกระตุ้น ส่งให้เพื่อนๆทั้งหมดโดนหางเลขด้วย

ทีมนักวิ่งครั้งนั้นนอกจาก โบลต์ กับ คาร์เตอร์ ยังมี อาซาฟา พาวล์ กับ ไมเคิล เฟรเตอร์ ซึ่งก็โดนริบเหรียญทั้งหมด ส่งให้ "ธันเดอร์โบลต์" ตอนนี้มีเหรียญทองโอลิมปิกเพียงแค่ 8 เหรียญเท่านั้น ซึ่งเจ้าตัวก็เปิดเผยระหว่างเดินทางมา ออสเตรเลีย ว่าผิดหวังยิ่งแต่ก็ต้องลบลืมไปให้ได้

"แน่นอนที่สุดว่าผมผิดหวังมากเพียงใด แต่ชีวิตเรา เมื่อมันเกิดขึ้นก็จะไม่เสียใจ แค่รอดูว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นอีกบ้าง แต่ทั้งนี้ผมเสียเหรียญของตัวเองไปแล้ว" นักวิ่งสายฟ้าฟาด กล่าว

ส่วน พาวล์ ที่โดนริบเหรียญจนเหลือแค่เหรียญทองวิ่ง 4x100 ม. ที่ "ริโอ เกมส์" ประดับเกียรติยศ และเคยถูกแบนเพราะใช้สารกระตุ้นเมื่อปี 2013 กล่าบ้างว่า "มันคือความโชคร้าย แต่เราก็ต้องมองถึงอนาคตภายภาคหน้า ผมไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะพูดเรื่องนี้ แต่ก็ต้องมองในแง่ดีเข้าไว้"