“ชาเปโคเอนเซ” ทีมใหม่ สร้างจากกำลังใจและร่างกายที่แหลกสลาย

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - ว่ากันว่า มนุษย์เรามักยึดถือช่วงเวลาแรกของศักราชใหม่ ปรับปรุงแก้ไขตัวเองให้ดีขึ้นกว่าปีก่อน ซึ่งไม่ต่างอะไรกับทีมงานและนักฟุตบอลของ ชาเปโคเอนเซ สโมสรฟุตบอลของลีกบราซิล ที่ต้องเผชิญกับโศกนาฏกรรมอันแสนเลวร้ายในช่วงปลายปีที่แล้ว แต่บัดนี้เหล่าผู้รอดชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าวได้กลับมาลุกขึ้นและเริ่มต้นใหม่อีกครั้ง โดยมีกำลังใจมากมายจากแฟนบอลทั่วทุกมุมโลก คอยผลักดันให้เดินต่อไป

ย้อนความไปเมื่อวันที่ 28 พฤศจิกายน ปี 2016 เครื่องบินโดยสารของ ลาเมีย ไฟลต์ 2933 ที่บรรทุกผู้โดยสาร 77 คน ประกอบด้วย ผู้เล่นและสตาฟฟ์ของทีม ชาเปโคเอนเซ รวมถึงนักข่าวที่ติดสอยห้อยตาม ประสบอุบัติเหตุตกที่เมืองเมดลิน ประเทศโคลอมเบีย ระหว่างเดินทางไปลุยศึก โคปา ซูดาเมริกานา รอบชิงชนะเลิศกับ แอตเลติโก นาซิอองนาล ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตทั้งสิ้น 71 ราย ขณะที่นักเตะผู้รอดชีวิตมีเพียง 3 คน คือ อลัน รูเชล (แบ็กซ้าย), แจ๊คสัน โฟลมานน์ (ผู้รักษาประตูสำรอง) กับ เนโต (เซ็นเตอร์แบ็ก)

ผลการสอบสวนพบว่า สาเหตุที่เครื่องบินตกนั้นเกิดจากความขัดข้องทางเทคนิค รวมถึงมีเชื้อเพลิงไม่เพียงพอสำหรับการเดินทาง แน่นอนว่า สายการบินต้องรับผิดชอบเรื่องนี้ ทว่า คงไม่อาจเยียวยาจิตใจของครอบครัวผู้สูญเสียหัวหน้าครอบครัว, คนรัก และลูกชายของพวกเขาแบบไม่มีวันกลับ เช่นเดียวกับ แจ๊คสัน โฟลมานน์ นายประตูมือสำรองที่ต้องสูญเสียอวัยวะสำคัญ คือ ขาขวาที่ใช้ทำมาหากิน แม้จะรอดชีวิตมาได้ก็ไม่ต่างอะไรเหมือนตายทั้งเป็น

สโมสรเองก็เสียหายไม่แพ้กัน แม้พวกเขาจะได้ตำแหน่งแชมป์ โคปา ซูดาเมริกานา ตามคำขอร้องของทีมงาน แอตเลติโก นาซิอองนาล ที่ต้องการให้อีกฝ่ายเป็นผู้ชนะ แต่ก็เทียบไม่ได้เลยกับการที่ต้องสูญเสียนักเตะและทีมงานเกือบยกทีม ทำให้ทีมต้องควานหาผู้เล่นใหม่รวมถึงทีมงานมาทดแทน ซึ่งก็คงต้องใช้เวลาสักระยะหนึ่งในการก่อร่างสร้างทีมใหม่ แต่พวกเขาตั้งตัวได้เร็วกว่าที่คิดเมื่อได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมลีกปล่อยนักเตะให้ยืมตัวแบบไม่มีข้อแม้ ส่วนกุนซือก็ได้ วากเนอร์ มันชินี มากุมบังเหียน

ก้าวผ่านความเศร้าเข้าสู่ปี 2017 ชาเปโคเอนเซ ยุคใหม่ที่มีนักเตะจากหลากสโมสร, แข้งเยาวชนของทีม และกุนซือใหม่ ประเดิมสนามเกมอุ่นเครื่องกับ พาลไมรัส แชมป์ลีกแซมบ้าฤดูกาลล่าสุดที่ อาเรนา คอนดา วันที่ 22 มกราคม ที่ผ่านมา ท่ามกลางแฟนบอลเรือนหมื่นที่ต้อนรับการกลับมาของพวกเขาแบบอบอุ่น ขณะที่นักเตะผู้รอดชีวิตทั้งหมด 3 ราย โฟลมานน์, เนโต และ รูเชล ก็มาปรากฏตัวก่อนเกม โดยเฉพาะรายแรกนั่งวีลแชร์ อุ้มถ้วยแชมป์ โคปา ซูดาเมริกานา เข้าสนาม เปิดเผยให้เห็นขาที่ถูกตัดออกจากเหตุการณ์นั้น

เกมดังกล่าวจบลงด้วยการเสมอกัน 2-2 แต่ไม่มีอะไรน่าจดจำไปกว่าคำพูดของ 3 นักเตะผู้รอดชีวิต ที่แสดงให้เห็นว่าพวกเขายังคงมุ่งมั่นที่จะกลับมาสวมสตั๊ดไล่หวดลูกหนังอีกครั้ง เริ่มที่ เนโต แม้ยังไม่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่ก็สัญญากับทุกคนว่าจะเรียกความฟิตกลับมาให้เร็วที่สุด เช่นเดียวกับ รูเชล ขอใช้เวลา 6 เดือนรักษาอาการบาดเจ็บที่กระดูกสันหลัง เพื่อกลับมาสวมยูนิฟอร์มลงเตะต่อหน้าแฟนบอล พร้อมกล่าวขอบคุณทุกคนที่ให้การสนับสนุน ให้กำลังใจต่อสู้ไปด้วยกัน

ส่วนรายหนักที่สุดคือ โฟลมานน์ แม้จะไม่สามารถสวมถุงมือยืนเฝ้าประตูได้อีกแล้ว แต่ก็ให้สัมภาษณ์กับสื่อท้องถิ่น ว่า ยังคงมีความหวังจะกลับมาใช้ชีวิตเหมือนคนปกติทั่วไป ต่อให้ต้องใช้เวลาเยียวยาจิตใจนานเพียงใดก็ตาม “ตอนที่อยู่บนเครื่องบิน ผมเห็นบางสิ่งผิดปกติ เครื่องมันร่อนลงอย่างช้าๆ หลังจากที่ไฟติดๆ ดับๆ มาตลอด หลังจากนั้น ทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมากจนจำอะไรไม่ได้ ผมตื่นขึ้นมาก่อนที่จะมีคนเข้ามาช่วยเหลือ ทุกอย่างดำมืด หนาวเย็น จนต้องตะโกนว่า ช่วยด้วย!! ผมยังไม่อยากตาย”

“คุณแม่มาเยี่ยมผมที่โรงพยาบาลและพูดคุยกัน เป็นช่วงเวลาที่สาหัสยิ่งตอนที่ลืมตาขึ้นมา ผมร้องไห้ไม่หยุด อย่างไรก็ตาม ผมกำลังจะแต่งงานแล้ว และตั้งใจจะกลับมาใช้ชีวิตอย่างปกติให้ได้” นายด่านวัย 24 ปี ที่ต้องจบอาชีพก่อนเวลาอันควร กล่าวทั้งน้ำตา

สำหรับ ชาเปโคเอนเซ จากนี้จะมีโปรแกรมอุ่นเครื่องและรายการในประเทศอย่างต่อเนื่อง เพื่อปรับสภาพทีมให้พร้อมก่อนลุยศึกฤดูกาลใหม่แบบเต็มตัว ซึ่งความพยายามของทีมผู้บริหาร, นักเตะ และสตาฟฟ์โค้ชทุกคน คือตัวอย่างที่ดีสำหรับคนที่ผิดหวังหรือท้อแท้กับชีวิตว่า ต่อให้อุปสรรคที่ประสบพบพานจะเลวร้ายสักเพียงใด ทุกอย่างจะผ่านพ้นไปได้ตราบใดที่ยังไม่สูญสิ้น “ศรัทธา” และ “ความหวัง”

เรื่องโดย - วัลลภ สวัสดี
เนโต, โฟลมานน์ และ รูเชล 3 ผู้รอดชีวิต