เอเยนซี - เว็บไซต์ “อีเอสพีเอ็น” สื่อค่ายยักษ์ของ สหรัฐอเมริกา วิเคราะห์ปัจจัยของทั้ง 4 ทีม รอบชิงแชมป์สาย เอ็นเอฟซี (NFC) และเอเอฟซี (AFC) ซึ่งจะเปิดฉากขึ้นคืนวันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม ตามเวลาไทย สุดท้ายคาดว่า นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ น่าจะตีตั๋วสู่ “ซูเปอร์โบว์ล 51” ที่เมืองฮูสตัน รัฐเทกซัส แบบไร้ปัญหา รอเพียงผู้ชนะระหว่าง กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส กับ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ที่ต้องขับเคี่ยวกันอย่างสูสี
สาย เอ็นเอฟซี (NFC) : กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส เยือน แอตแลนตา ฟอลคอนส์
แพ็คเกอร์ส : คึกคักสุดขีด หลังชนะมา 8 เกมรวด รวม เรกูลาร์ ซีซัน ภายใต้การนำของ 2 ขุนพลลำคัญ คือ แอรอน ร็อดเจอร์ส ควอเตอร์แบ็ก ขว้าง 24 ทัชดาวน์ เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์ จากการเล่นตัวจริง 9 เกมล่าสุด และ 10 ทัชดาวน์ ไม่เสียอินเทอร์เซ็ปต์ ตลอด 4 เกม ที่จอร์เจียโดม ขณะที่ เมสัน ครอสบี ตัวเตะ หวดฟิลด์โกล 21 ครั้งติดต่อกัน นับเฉพาะเพลย์ออฟ โดยพลาดหนล่าสุด เมื่อปี 2010
ฟอลคอนส์ : แม็ตต์ ไรอัน ควอเตอร์แบ็ก จัดว่าเป็นตัวเต็งผู้เล่นทรงคุณค่า (MVP) ปี 2016 ผลงานไม่ด้อยกว่า ร็อดเจอร์ส ปิดสกอร์ 22 ทัชดาวน์ เสีย 3 อินเทอร์เซ็ปต์ ตลอด 9 เกม การขว้างจัดเป็นอาวุธที่น่ากลัว เนื่องจาก แพ็คเกอร์ส ไม่มีคอร์เนอร์แบ็กฝีมือดี ประกบ จูลิโอ โจนส์ ดังนั้นจึงต้องระวังหลังบ้าน หากคิดใช้แผน “บลิตซ์” ซึ่งเล่นงาน ดัก เพรสคอตต์ จอมทัพรุกกี คาวบอยส์ ไม่อยู่ กอปรกับ ไรอัน วัย 31 ปี รับมือความกดดันได้ดี เกมพบ ซีแอตเทิล ซีฮอว์กส คอมพลีต 10 จาก 13 ครั้ง ระยะ 154 หลา
ตัวแปรตัดสินเกม : จาเรด คุก ไทต์เอนด์ แพ็คเกอร์ส สวมบทฮีโร รับบอลเพลย์มหัศจรรย์ ตั้งระยะเตะฟิลด์โกลวินาทีสุดท้าย เขี่ย ดัลลัส คาวบอยส์ ตกรอบ ดิวิชันแนล เพลย์ออฟ หลังหายเจ็บข้อเท้า ก็ช่วยให้ แอรอน ร็อดเจอร์ส ขว้างทัชดาวน์เพิ่มขึ้นราว 2 เท่าของเดิม หากไม่ได้ลงเล่น แถม ฟอลคอนส์ มีปัญหาการหยุดตำแหน่งปีกใน ปล่อยให้รับบอล 86 ครั้ง เสียระยะ 988 หลา 8 ทัชดาวน์
ทำนายผล : เชื่อว่าน่าจะเป็นเกมที่แต่ละทีมทำคะแนนกันอย่างสนุกสูสี บริษัทรับพนันของ ลาส เวกัส ออกสกอร์รวมสูง-ต่ำ 60 แต้ม ฟอลคอนส์ อาจเหนือกว่าเล็กน้อย แต่หากเทียบฟอร์ม ร็อดเจอร์ส ชั่วโมงนี้ พลพรรค “หัวเนยแข็ง” ก็ยังพอมีหวัง
สาย เอเอฟซี (AFC) : พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส เยือน นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์
สตีลเลอร์ส : ความหวังค่อนข้างเลือนลาง พ่ายแก่ แพทริออตส์ ยุคของ บิลล์ เบลิชิก เฮดโค้ช กับ ทอม เบรดี ควอเตอร์แบ็ก มา 9 จากการพบกัน 12 ครั้งล่าสุด และบุกชนะถึงถิ่น ยิลเลตต์ สเตเดียม แค่ 1 ครั้งรอบ 18 ปี เมื่อปี 2008 ซึ่ง แม็ตต์ แคสเซล ลงเล่นแทน เบรดี ที่เจ็บเอ็นไหว้หน้าเข่า (ACL) แต่ล่าสุด จอมทัพวัย 39 ปี เสีย 2 อินเทอร์เซ็ปต์ เผชิญหน้าทีมรับ เท็กแซนส์ จึงพอฝากความหวังกับการกดดันเกมขว้างของ สตีลเลอร์ส ที่มีผลงาน 30 แซ็ก ตลอดครึ่งซีซันหลัง โดยเป็นสาเหตุว่าทำไม “คนเหล็ก” ชนะมา 9 เกมรวด
แพทริออตส์ : เริ่มต้นยุค เบลิชิก กับ เบรดี ฤดูกาล 2001 “นักรบกู้ชาติ” กุมสถิติเกมเหย้า 16-3 รวม ชนะ 4 แพ้ 1 รอบชิงแชมป์สาย แถม สตีลเลอร์ส ยังไม่สามารถเจาะเกมรับ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ รอบดิวิชันแนล เพลย์ออฟ น่าจะเข้าทาง แพทริออตส์ ที่มีเกมป้องกันเหนียวแน่นขึ้น หลังผ่านครึ่งทางของซีซัน เสียแต้มเฉลี่ยน้อยสุด 14.8 แต้ม
ตัวแปรตัดสินเกม : ดิออน ลูอิส รันนิงแบ็ก เพิ่งทำทัชดาวน์จากการวิ่ง, รับบอล และวิ่งย้อนคิกออฟ คนที่ 2 ต่อจาก ไทรีก ฮิลล์ ของ แคนซัส ซิตี ชีฟส์ ที่ทำได้ ตั้งแต่ เกย์ล เซเยอร์ส เมื่อปี 1965 ความสารพัดประโยชน์ของ ลูอิส คือ สิ่งที่กองกลาง (ไลน์แบ็กเกอร์) ของ สตีลเลอร์ส ต้องคอยระวัง
ทำนายผล : สตีลเลอร์ส สะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น ตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน 2016 และเป็นทีมที่อันตรายหากมี 3 ประสาน เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ควอเตอร์แบ็ก, เลอวอน เบลล์ รันนิงแบ็ก และ อันโตนิโอ บราวน์ ปีกนอก พร้อมหน้าพร้อมตา แต่คงน่าประหลาดใจสุดๆ หาก แพทริออตส์ ชวดทริปสู่ “ซูเปอร์โบว์ล 51”
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *