xs
xsm
sm
md
lg

บันได 4 ขั้น “บุรีรัมย์ Strike Back 2017” ฤดูกาลทวงแชมป์

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ปราสาทสายฟ้า
ผู้จัดการรายวัน 360 - “ปราสาทสายฟ้า” บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จบฤดูการ 2016 ได้อย่างน่าผิดหวัง คว้ามาได้เพียแชมป์ “โตโยต้า ลีก คัพ” ร่วมกับ เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ต่างจากฤดูกาล 2015 ที่กวาดมาได้ถึง 5 แชมป์ ส่งผลให้ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร ประกาศแคมเปญ “Strike Back” ทวงคืนทุกแชมป์กลับสู่ ไอโมบาย สเตเดียม ภายใต้งบประมาณมหาศาล 350 ล้านบาท โดยมีแผนสนับสนุนเป็นบันได 4 ขั้น

1. เสริมตัวสุดโหด - บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด จัดว่าขึ้นชื่อเรื่องการคว้าตัวดาวเตะต่างแดนมาสร้างชื่อในไทยลีก ได้อย่างสม่ำเสมอ โดยเฉพาะฤดูกาลนี้สามารถดึงตัว โรเจอริโอ คูตินโญ ที่มีดีกรีเป็นอดีตผู้เล่นต่างชาติยอดเยี่ยมของ “เอเอฟซี” ฤดูกาล 2012 ซึ่งการได้ลงสนามนำทีม “ปราสาทสายฟ้า” สอยแชมป์ “โตโยต้า แม่โขง คลับแชมเปียนชิป 2016” ด้วยการเอาชนะ ล้านช้าง ยูไนเต็ด สกอร์รวม 2 นัด 2-1 สร้างความฮือฮาให้กับแฟนบอลถึงทักษะอันเอกอุของมิดฟิลด์ชาวบราซิลรายนี้ ซึ่ง เนวิน กล่าวถึงการมาร่วมทีมของอดีตนักเตะ อัล คูเวต รายนี้ ว่า “การที่ดึง คูตินโญ เข้ามา จะเป็นการสร้างคู่หูกองหน้าบราซิเลียนคู่ใหม่แห่งไทยลีก จะเป็นการเติมเต็มและสนับสนุนการเล่นของ ดิโอโก ซานโต ที่จะต้องขอใช้เวลาการปรับตัวอีกสักพัก และจะได้เห็นฟอร์มที่เขาเคยเล่นในลีกตุรกีอย่างแน่นอน”

นอกจาก คูตินโญ แล้ว ยังมีผู้เล่นน่าจับตามองอย่าง “อาร์ม” ศุภชัย ใจเด็ด กองหน้าที่ย้ายจาก ซุปเปอร์ พาวเวอร์ ว่ากันว่า จะเป็นดาวเด่นของทีมชาติไทยในอนาคต อีกทั้งยังมี แจ็คสัน อเวลิโน โคเอลโญ หรือ “ชาชา” ดาวยิงเจ้าของส่วนสูง 190 เซนติเมตร วัย 30 ปี ที่มีทีเด็ดจากลูกยิงไกล

2. แข้งหลักสลัดเดี้ยง - ส่วนหนึ่งของผลงานที่ตกต่ำในฤดูกาลที่ผ่านมา คือ การขาดหายไปของนักเตะตัวหลัก ที่ถูกลักพาออกจากสนามด้วยอาการบาดเจ็บถึง 9 ราย อาทิ สุเชาว์ นุชนุ่ม กัปตันทีม, จักรพันธ์ แก้วพรม รวมถึง โก ซุล กี มิดฟิลด์พลังโสม ไม่เว้นแม้กระทั่ง ดิโอโก ซานโต ดาวยิงชาวแซมบ้า อย่างไรก็ตามเหมือนว่าโชคร้ายจะพัดผ่านสนามไอโมบาย สเตเดียม ไปแล้ว เมื่อผู้เล่นคนสำคัญต่างหายจากอาการบาดเจ็บกลับมาได้ โดยเฉพาะในรายของ ดิโอโก นั้น เนวิน ถึงกับยอมรับว่าจะช่วยให้ทีมกลับมาน่ากลัวขึ้น “ที่ผ่านมา เราเสียตัวหลัก 9 คน เนื่องจากอาการบาดเจ็บ แม้จะประคองทีมมาได้ด้วยหัวใจ แต่ตอนนี้เราจะได้ผู้เล่นที่บาดเจ็บกลับสู่ทีมอีกครั้ง โดยเฉพาะ ดิโอโก เราทราบดีถึงคุณภาพฝีเท้าของเขา”

3. ดันดาวรุ่ง - แม้จะได้ชื่อว่าเป็นทีมเงินหนา จับจ่ายใช้สอยได้อย่างไม่ต้องกังวลกับสถานะทางการเงิน ทว่า การปล่อยดาวเตะตัวเก๋าออกจากทีมไปหลายราย ไม่ว่าจะเป็น สุรีย์ - สุรัตน์ สุขะ ให้กับ อุบล ยูเอ็มที ยูไนเต็ด หรือ อดุล หละโสะ ให้กับ สุพรรณบุรี เอฟซี ย่อมเปิดการเปิดทางให้เหล่าบรรดาแข้งอายุน้อยได้สำแดงเดชแจ้งเกิด โดยมี 3 รายที่แฟนบอลต่างจับตามอง อย่าง “ไอซ์” สิทธิโชค กันหนู กองหน้าที่คาดกันว่าจะโชว์ฟอร์มเปรี้ยงปร้างตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้ว เนื่องจาก ดิโอโก บาดเจ็บ ทว่า ดาวยิงวัยฮอร์โมน ได้รับบาดเจ็บหนักกระดูกเท้าขวาหัก ต้องพักยาวกระทั่งจบฤดูกาล ล่าสุด หายเจ็บกลับมาเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง รวมถึงยังมี อานนท์ อมรเลิศศักดิ์ มิดฟิลด์ฉายา “เมสซีแม่ริม” ที่คาดว่าน่าจะได้โอกาสลงสนามมากขึ้น เช่นเดียวกับ ศุภโชค สารชาติ กองกลางพร้อมลงมาวาดลวดลายเรียกเสียงฮือฮาจากแฟนคลับ “GU 12”

ขณะที่ประธานทีม “ปราสาทสายฟ้า” กล่าวถึงแผนดันแข้งดาวรุ่งสู่ทีมชุดใหญ่ ว่า “เราเตรียมการใหญ่ในการวางแผนไปถึง 5 - 10 ปีข้างหน้า โดยการพยายามหานักเตะดาวรุ่งที่กระหายในชัยชนะมาเสริมทัพกับทีม และดันจากอะคาเดมีขึ้นมาเล่นในชุดใหญ่ มีทั้งสิ้น 7 - 8 คน สมัยนี้การแข่งขันเกิดขึ้นตลอดเวลา เราต้องพยายามหานักเตะที่เข้าใจสไตล์โมเดิร์นฟุตบอล เพื่อนำมาถ่ายเลือดเปลี่ยนภายในสโมสร ซึ่งนักเตะดาวรุ่งเหล่านี้จะถูกเป็นกำลังหลักสำคัญในอนาคตอย่างแน่นอน”

4. พิสูจน์ฝีมือโค้ชใหม่ - ในฤดูกาลที่ผ่านมา บุรีรัมย์มีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการแยกทางกับ อเล็กซานเดร กามา กุนซือผู้นำทีมคว้าแชมป์ 5 รายการในปี 2014 ก่อนตำแหน่งเปลี่ยนมือมาเป็นของ อัฟชิน ก็อตบิ โค้ชชาวอิหร่าน ที่เข้ามาทำงานในระยะสั้น จนท้ายที่สุดมาได้ “โปโป้” รันโก โปโปวิช กุนซือชาวเซอร์เบีย อดีตผู้เล่นตำแหน่งกองหลังที่เคยผ่านเวทีค้าแข้งในยุโรปมากมาย มารับช่วงต่อคุมทัพยันจบฤดูกาล ซึ่งในฤดูกาล 2017 น่าจะเป็นปีที่จะได้โชว์ความสามารถในการวางแผนคุมทีมได้อย่างเต็มที่ จากดีกรีที่ไม่ธรรมดาของเฮดโค้ชรายนี้ ที่เคยทำทีม เซเรโซ โอซากา เข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายในศึกเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก รวมไปถึงการกลับมาของ โบซิดาร์ บันโดวิช อดีตเฮดโค้ชทีม บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ปี 2014 ที่กลับมานั่งแท่นที่ปรึกษาด้านเทคนิคของสโมสร ถือเป็นการผนึกกำลังคุมทัพ

ทั้งหมดทั้งมวลที่กล่าวมา ก็เพียงเพื่อเป้าหมายอย่างเดียวของ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คือ การประกาศขอนำทีมกลับสู่จุดเดิม ด้วยการคว้าถ้วยแชมป์ทุกรายการ พร้อมกลับสู่เวทีเอเอฟซี แชมเปียนส์ลีก 2018 และกลับสู่ระดับท็อป 5 ของเอเชียอีกครั้ง
ดิโอโก ซานโต กลับมาฟิตพร้อมล่าประตูอีกครั้ง
โรเจอริโอ คูตินโญ ดาวเตะดีกรีนักฟุตบอลยอดเยี่ยมของเอเอฟซี
รันโก โปโปวิช กุนซือชาว เซอร์เบีย
บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด หมายทวงทุกแชมป์
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น