กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส เข้าสู่รอบชิงแชมป์สาย เอ็นเอฟซี (NFC) ของศึก อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) เบียดชนะ ดัลลัส คาวบอยส์ แบบหวุดหวิด 34-31 ที่สนาม เอที แอนด์ ที สเตเดียม เช้าวันจันทร์ที่ 16 มกราคม ตามเวลาไทย
ที่ดัลลัส : แอรอน ร็อดเจอร์ส ควอเตอร์แบ็ก แพ็คเกอร์ส สร้าง “บิ๊กเพลย์” วินาทีสำคัญ ปาบอลระยะ 36 หลา ให้ จาเหร็ด คุก ปีกนอก รับบอลตรงด้านข้างชนิดยังดึงเท้าทั้ง 2 ข้างอยู่ในสนาม ก่อนกรรมการตรวจสอบภาพรีเพลย์ ยืนยันเป็นการขว้างคอมพลีต และเปลี่ยน เมสัน ครอสบี ลงมาเตะฟิลด์โกลระยะ 51 หลา เบียดเสาซ้ายมือวินาทีสุดท้าย ย้ำแค้น “อเมริกา ทีม” จากการพบกันครั้งล่าสุด รอบเพลย์ออฟ ปี 2015 รอพบ แอตแลนตา ฟอลคอนส์ ต่อไป
คาวบอยส์ เกือบเป็นทีมที่ 3 ของยุค ซูเปอร์โบว์ล ที่โกงความตายจากตามหลัง 15 แต้ม (13-28) ก่อนเริ่มควอเตอร์ที่ 4 และครั้งที่ 2 ในประวัติศาสตร์แฟรนไชส์ นับตั้งแต่ โรเจอร์ สเตาแบช จอมทัพระดับตำนาน ทำไว้ปี 1972 เอาชนะ ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส 30-28 ถึงแม้ตามตีเสมอ 2 ครั้ง ช่วง 5 นาทีสุดท้าย 28-28 และ 31-31 จาก เดซ ไบรอันท์ ปีกนอก รับทัชดาวน์ ระยะ 7 หลา และ แดน ไบลีย์ เตะฟิลด์โกล 52 หลา ตามลำดับ
เกมนี้ ดัก เพรสคอตต์ ควอเตอร์แบ็กรุกกี ขว้างคอมพลีต 24 จาก 38 ครั้ง ระยะ 302 หลา 3 ทัชดาวน์ ให้ ไบรอันท์ (2) กับ เจสัน วิตเทน ไทต์เอนด์จอมเก๋า ตีตื้นเหลือ 20-28 เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์ และ เอเซกิเอล เอลเลียตต์ รันนิงแบ็ก ถือบอล 22 ครั้ง ตะลุย 125 หลา แต่ไม่เพียงพอรอดพ้นความปราชัย 5 ครั้งติดต่อกัน รอบดิวิชันแนล เพลย์ออฟ ยืดเวลารอคอยเข้ารอบชิงแชมป์สายเป็น 21 ปี
ขณะที่ ร็อดเจอร์ส วัย 33 ปี ปาบอลเข้าเป้า 28 จาก 43 ครั้ง ระยะ 356 หลา 2 ทัชดาวน์ ให้ คุก กับ ริชาร์ด ร็อดเจอร์ส ยัดบอลใส่มือ ไท มอนต์โกเมอรี รันนิงแบ็ก 11 ครั้ง โกยไป 47 หลา 2 ทัชดาวน์ ตีตั๋วสู่คอนเฟอเรนซ์ ไฟนอล ครั้งที่ 3 ตลอดอาชีพ ในฐานะทีมเยือน
ส่วนผลอีกคู่หนึ่งสาย เอเอฟซี (AFC) พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส กลายเป็นทีมแรกที่ชนะเกมเพลย์ออฟ แบบไม่มีทัชดาวน์ นับตั้งแต่ อินเดียนาโปลิส โคลท์ส พิชิต บัลติมอร์ เรฟเวนส์ รอบดิวิชันแนล เมื่อปี 2006 คริส บอสเวลล์ ตัวเตะ ตะบัน 6 ฟิลด์โกล สูงสุดของ NFL เชือด แคนซัส ซิตี ชีฟส์ 18-16 ขณะที่ เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ควอเตอร์แบ็ก “คนเหล็ก” ขว้าง 224 หลา เสีย 1 อินเทอร์เซ็ปต์ รอดวลกับ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *