xs
xsm
sm
md
lg

“ปอดเหล็กอดีตทีมชาติไทย” ครองถ้วยพระราชทาน “สสส.จอมบึงมาราธอน 2017” งานวิ่งระดับตำนาน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

สุทัศน์ กัลยาณกิตติ (ขวา) แชมป์โอเวอร์ออลมาราธอนชาย และ พิชชานันท์ มหาโชติ แชมป์โอเวอร์ออลมาราธอนหญิงถ่ายภาพคู่กัน หลังคว้าถ้วยพระราชทานสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปครองได้สำเร็จ ในการแข่งขัน สสส จอมบึงมาราธอน 2017 ครั้งที่ 32 ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี
“สสส. จอมบึงมาราธอน 2017” งานวิ่งระดับตำนาน มาตรฐานสากล สร้างประวัติศาสตร์รวมพลน่องเหล็กมากที่สุดในประเทศไทย 13,040 คน แชมป์โอเวอร์ออลมาราธอน ตกเป็นของ “สุทัศน์ กัลป์ยาณกิตติ” ปอดเหล็กอดีตทีมชาติไทย ครองถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง ร่วมกับ สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.), สมาคมกรีฑาแห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ และ บริษัท ซีพี-เมจิ จำกัด จัดการแข่งขันวิ่งประเพณีระดับตำนาน มาตรฐานสากล “สสส. จอมบึงมาราธอน 2017” ภายใต้แนวคิด “My Marathon Life : วิ่งกันทั้งชีวิต” ณ มหาวิทยาลัยราชภัฏหมู่บ้านจอมบึง อ.จอมบึง จ.ราชบุรี เมื่อวันที่ 15 ม.ค. 2560 ที่ผ่านมา

ผลการแข่งขันปรากฏว่า แชมป์โอเวอร์ออลชาย ได้แก่ สุทัศน์ กัลยาณกิตติ ปอดเหล็กอดีตทีมชาติไทย จาก สถาวรรันนิ่งคลับ เข้าเส้นชัยเป็นคนแรกด้วยเวลา 2.37.36 ชม. ส่วนแชมป์โอเวอร์ออลหญิง ตกเป็นของ พิชชานันท์ มหาโชติ ปอดเหล็กสาวเจ้าถิ่น แชมป์เก่าปีที่แล้ว ยังคงฟอร์มดี วิ่งเข้าเส้นชัยเป็นคนแรกของผู้หญิง คว้ารางวัลโอเวอออล์มาราธอนหญิงไปครอง ด้วยเวลา 3.15.00 ชม.
แชมป์โอเวอร์ออลชาย ประเภทฮาล์ฟ มาราธอน ได้แก่ เสถียร ตรีทิพย์วานิชย์ ด้วยเวลา 1.19.56 ชม. และแชมป์โอเวอร์ออลหญิง รุ่นฮาล์ฟ มาราธอน ได้แก่ แคร์ แอทกินซัน เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 1.34.20 ชม.

แชมป์โอเวอร์ออลชาย ประเภทมินิมาราธอน ได้แก่ อุ้มยศ กิจอุดม เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 0.35.39 นาที และ แชมป์โอเวอร์ออลหญิง มินิมาราธอน ได้แก่ สมฤทัย เห่วศิริ เข้าเส้นชัยด้วยเวลา 46.31 นาที ทุกระยะได้รับถ้วยพระราชทาน สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี

สำหรับการจัดแข่งขันวิ่งประเพณี สสส. จอมบึงมาราธอน เริ่มครั้งแรกตั้งแต่เมื่อ พ.ศ. 2529 ซึ่งการแข่งขันในปีนี้ถือได้ว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันรวมทั้งสิ้น 13,040 คน ซึ่งเป็นจำนวนที่มากที่สุดตั้งแต่จัดการแข่งขันมา และมากขึ้นกว่าปีที่ผ่านมาถึง 5,000 คน โดยมีนักวิ่งไทยเข้าร่วมครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ มีนักวิ่งต่างชาติ 100 คน จาก 22 ประเทศ ไม่ว่าจะเป็น ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา และจีน ที่สำคัญที่สุด คือ เป็นรายการที่มีนักวิ่งประเภทมาราธอนเข้าร่วมมากที่สุดในประเทศไทย รวม 5,400 คน อีกทั้งแต่ละคนยังมีครอบครัว หรือผู้ติดตามร่วมเดินทางมาด้วย รวมเบ็ดเสร็จแล้วไม่ต่ำกว่า 20,000 คน ทั้งหมดนี้จึงนำมาซึ่งรายได้และเม็ดเงินหมุนเวียนในจังหวัดรวมแล้วไม่ต่ำกว่า 60 ล้านบาท ทำให้ก่อเกิดรายได้แก่ประชาชนในท้องถิ่นทั้ง พ่อค้าแม่ค้า โรงแรมที่พัก ตลอดจนสถานที่ท่องเที่ยว และการบริการต่างๆ และที่สำคัญประชาชนให้ความสนในการออกกำลังกายเพิ่มมากขึ้น”

“สิ่งที่ทำให้การแข่งขันวิ่งประเพณี สสส. จอมบึงมาราธอน ประสบความสำเร็จมาอย่างต่อเนื่องเป็นปีที่ 32 มาจากกลิ่นไอของความเป็นจอมบึง ความเป็นวิถีชาวบ้าน ความน่ารักที่ไม่ได้แต่งเติม ทำให้นักวิ่งและประชาชนที่มาร่วมงานได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากชาวบ้านจอมบึงตลอดสองข้างทาง ไม่ว่าจะเป็นการร่วมส่งเสียงเชียร์ให้กำลังใจ คอยให้บริการน้ำดื่ม และช่วยเหลือดูแลอำนวยความสะดวกให้กับทุกคนตลอดเส้นทางการแข่งขัน เหนือสิ่งอื่นใดคือเราพยายามยกระดับการแข่งขันให้เป็นไปตามมาตรฐานสากลมากขึ้นทุกๆ ปี เราได้ศึกษาการจัดงานงานจากรายการวิ่งชื่อดังระดับโลกต่างๆเพื่อให้ออกมาดีที่สุด โดยในปีนี้ยังคงได้รับการรับรองจาก สมาคมมาราธอนนานาชาติ (AIMS-Association of International Marathons and Road Races) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่รับรองมาตรฐานเส้นทางวิ่งมาราธอนระดับสากล รวมถึงเป็นสนามที่ได้รับอนุญาตจัดการแข่งขันตามกติกาของสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) และสหพันธ์กรีฑาแห่งเอเซีย (AAA) ภายใต้การกำกับดูแลของสมาคมกีฬากรีฑาแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ซึ่งดำเนินงานภายใต้คำแนะนำของคณะทำงานมาตรฐานการจัดงานวิ่งในประเทศไทย”

“เส้นทางการวิ่งของระยะมาราธอนและฮาล์ฟมาราธอนใช้เส้นทางที่ได้รับการวัดอย่างเป็นทางการจากผู้เชี่ยวชาญจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติเมื่อเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2558 พร้อมนำเทคโนโลยีชิพจากต่างประเทศ มาใช้ตรวจจับตำแหน่งของนักวิ่งแต่ละคนว่าอยู่จุดไหนในสนามวิ่ง และแจ้งว่าคนที่กำลังจะวิ่งเข้าเส้นชัยมาเป็นใคร รวมถึงมีนักศึกษาสาขาพลศึกษาอีกกว่า 300 คน ที่ประจำการตามจุดต่างๆ เพื่อดูการวิ่งให้เป็นไปตามกติกาตลอดเส้นทางจนถึงเข้าเส้นชัย อีกทั้งยังประสานกับโรงพยาบาลต่างๆ 10 แห่งใน จ.ราชบุรี และมีโรงพยาบาลสนามตั้งอยู่ที่บริเวณเส้นชัย รวมถึงมีทีมอาสาแพทย์และพยาบาลอีกกว่า 70 ชีวิต ที่กระจายตามจุดต่างๆเพื่อร่วมดูแลความปลอดภัยและคอยปฐมพยาบาลให้กับนักวิ่งถ้าได้รับบาดเจ็บ มีนักกายภาพที่คอยบริการนวดคลายกล้ามเนื้อ ตลอดจนทีมอาสาเพซเซอร์ (Pacer) กลุ่มนักวิ่งนำเวลา ทีมอาสาสวีปเปอร์ (Sweeper) กลุ่มนักวิ่งรั้งท้ายที่คอยช่วยให้กำลังใจและดูแลนักวิ่งทุกคน จนนักวิ่งคนสุดท้ายเข้าสู่เส้นชัย”

สำหรับแนวคิดหลักของ สสส. จอมบึงมาราธอน 2017 ครั้งที่ 32 คือ “My Marathon Life : วิ่งกันทั้งชีวิต” เป็นการสะท้อนความผูกพันของนักวิ่งและผู้เกี่ยวข้อง เช่น ชาวบ้าน นักศึกษา อาจารย์ ที่ผูกพันกับจอมบึงมาราธอนมาตลอด 32 ปี ซึ่งดำเนินต่อไปอย่างไม่สิ้นสุด จากรุ่นสู่รุ่น จากเด็กสู่ผู้ใหญ่ จากพ่อสู่ลูก เปรียบเสมือนเป็นการ “วิ่งกันทั้งชีวิต” อีกทั้งยังเป็นการสะท้อนเสียงเรียกร้องจาก “หมู่บ้านจอมบึง” ไปสู่อีกกว่า 8 หมื่นหมู่บ้านทั่วประเทศ ให้เห็นคุณค่าของการวิ่งและการออกกาลังกายด้วยวิธีการต่างๆเพื่อให้พี่น้องชาวไทยมีการออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ นำไปสู่การลดภาวะโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ได้แก่ โรคหัวใจ โรคเบาหวาน ความดันโลหิต โรคอ้วน อัมพาตและอัมพฤกษ์ ภายใต้คำขวัญ “งานประเพณีของชาวบ้าน ที่มีมาตรฐานสากล” โดยนำรายได้หลังหักค่าใช้จ่ายเป็นทุนการศึกษาให้กับนักเรียน - นักศึกษาที่ขาดแคลน สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.chombuengmarathon.com







* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น