“บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมลูกหนังไทย ยอมรับมีหนี้ถึง 80 ล้านบาท ต้องไปกู้เงิน “แพลนบี” มาบริหารงานภายใน ชี้เป็นหนี้ที่เกิดจากผู้บริหารสมาคมชุดเก่าไม่จ่ายภาษี
เมื่อวันพุธที่ 11 มกราคม 2560 สมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ จัดการประชุมสภากรรมการประจำปี พ.ศ. 2560 ครั้งที่ 1 โดยมีวาระสำคัญประกอบด้วย การเตรียมความพร้อมการจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2559, การจัดประชุมสภาปฏิรูปฟุตบอลในวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2560, การย้ายที่ทำการสมาคมกีฬาฟุตบอลฯ และ เรื่องการเงิน โดยมี พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง นายกสมาคมเป็นประธาน พร้อมด้วย พล.ต.ท.พิสัณห์ จุลดิลก เลขาธิการสมาคมฯ, ศุภสิน ลีลาฤทธิ์ อุปนายกฝ่ายจัดการแข่งขัน, ธนะศักดิ์ สุระประเสริฐ อุปนายกฝ่ายสื่อสารองค์กร, ลัขณานันท์ ลักษมีธนานันต์ อุปนายกฝ่ายการเงินฯ, วิทยา เลาหกุล อุปนายกฝ่ายพัฒนาเทคนิค, พาทิศ ศุภะพงษ์ รองเลขาธิการและโฆษกสมาคม, มร.เบนจามิน ตัน ผู้อำนวยการฝ่ายคลับ ไลเซนซิง และ รองประธานบริหารบริษัท ไทยลีก จำกัด, กรวีร์ ปริศนานันทกุล ประธานฝ่ายจัดการแข่งขัน T3 และ T4 พร้อมด้วยสภากรรมการอีก 7 คน
ภายหลังการประชุม พล.ต.อ.สมยศ นายกสมาคมฯ กล่าวว่า “วันนี้มีการหารือกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องการย้ายที่ทำการสมาคมฯ จากอาคารพงษ์สุภี ไปที่อาคาร 40 ปี ในการกีฬาแห่งประเทศไทย ซึ่งขณะนี้อยู่ในระหว่างการปรับปรุงต่อเติม ซึ่งคาดว่าจะเสร็จสิ้นในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์”
ขณะเดียวกัน “บิ๊กอ๊อด” กล่าวยอมรับว่า ปัจจุบัน สมาคมฟุตบอลฯ ติดหนี้อยู่ราว 80 ล้านบาท จากการที่ผู้บริหารสมาคมชุดเก่า ไม่ได้จ่ายภาษี “สมาคมมีหนี้สินอยู่ประมาณ 80 ล้านบาท เป็นหนี้สินที่กู้จากบริษัท แพลนบี ล่วงหน้ามาใช้ในการบริหารสมาคมฯ 32 ล้านบาท และกู้ยืมจากเงินกองทุนบอลไทยไปบอลโลกอีก 45 ล้านบาท เงินทั้งหมดถูกกู้มาเพื่อบริหารจัดการสมาคมฯ อันสืบเนื่องจากสมาคมฯมีภาระเรื่องภาษีที่เกิดจากการบริหารงานของผู้บริหารสมาคมฯชุดเก่า ทุกวันนี้จะต้องผ่อนชำระภาษีเดือนละ 3 - 4 ล้านบาท เป็นเวลา 2 ปี ทำให้สมาคมฯ ขาดสภาพคล่องที่จะดำเนินการบริหารภายในสมาคมฯ ปีหน้ากว่าเงินสปอนเซอร์จากแพลนบี จะหามาให้สมาคมฯก็ต้องรอถึงปลายเดือนมีนาคม หรือต้นเดือนเมษายน ซึ่งเป็นเงินก้อนแรกจากบริษัท ทรูฯ ในช่วงระหว่างนี้ทางบริษัท แพลนบี ก็ให้ความกรุณายืมเงิน หรือ จ่ายเงินสปอนเซอร์ล่วงหน้าให้สมาคมฯ นำมาบริหารสมาคม เพราะฉะนั้น ถ้าไม่มีเงินก้อนนี้ สมาคมฯก็จะดำเนินการไปไม่ได้”
“อีกเรื่องพิจารณาก็คือสภากรรมการมีมติให้ทางผมและฝ่ายต่างประเทศดำเนินการหา ผู้บริหารศูนย์ฝึกกีฬาฟุตบอล หรือ อคาเดมี เพื่อมาใช้เพิ่มหรือเสริมสร้างความก้าวหน้าหรือการพัฒนานักกีฬาทีมชาติในอนาคต และก็มีการขออนุมัติกำหนดวันจัดประชุมใหญ่ หรือ ประชุมสามัญประจำปี และก็มีการรายงานเรื่องการแก้ไขข้อบังคับลักษณะปกครอง สมาคมฯ, รายงานการแก้ไขระเบียบการลงโทษวินัย มารยาท พ.ศ. 2559 เพื่อให้ทันสมัยหรือทันเหตุการณ์ เนื่องจากในข้อบังคับเดิมที่ใช้ในปีที่ผ่านมา หลังจากการบริหารของสมาคมฯ ผ่านไปหนึ่งปีเห็นว่าข้อบังคับต่างๆ ไม่ทันเหตุการณ์และไม่ครอบคลุมจึงต้องแก้ปัญหาเรื่องวินัยมารยาทในอดีต”
“นอกจากนี้สภากรรมการเห็นทีมลีกในระดับภูมิภาคหรือ T3 และ T4 มีความจำเป็นที่จะต้องใช้เงินบริหารจัดการสโมสรซึ่งถ้าหากรอเงินสนับสนุนจากสมาคมฯ ที่จะได้ในช่วงเดือนเมษายน ก็จะทำให้สโมสรต่างๆ ขาดสภาพคล่องในการบริหาร สภากรรมการมีมติให้ขอยืมเงินตัวผม จำนวน 30 ล้านบาท มาจ่ายให้สโมสรในระดับ T3 และ T4 ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อให้เกิดสภาพคล่องและช่วยเหลือทีมสโมสรระดับรากหญ้ามีทุนสำรองในการทำทีมได้ และเงินดังกล่าวที่นำมาให้สมาคมกู้ยืมไม่ได้คิดค่าตอบแทนหรือดอกเบี้ย นี่คือสิ่งที่เราประชุมในวันนี้”
“สภากรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ยืนยันที่จะดำเนินการทุกอย่างตามมติที่สมาคมฯเคยมีมา คือ ในไทยลีกสโมสรที่จะเข้าร่วมการแข่งขันมีทีมเข้าร่วมการแข่งขัน และพรุ่งนี้ (12 มกราคม 2560) จะมีการจับสลากขึ้นไม่มีการเลื่อนแต่อย่างใด” พล.ต.อ.สมยศ กล่าว