xs
xsm
sm
md
lg

ใครเป็นเจ้าภาพแล้วเสมอตัวหรือขาดทุนก็โง่บรม / กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


EYE ON SPORTS โดย กษิติ กมลนาวิน ราชวังสัน

ตั้งแต่ยุคปี 70 ที่แบรนด์สินค้าเริ่มอาศัยช่องทางการโฆษณาด้วยการเข้ามาเป็นผู้สนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬา ซึ่งมีการถ่ายทอดทางโทรทัศน์ให้ผู้ชมทั่วโลกได้ติดตามกันสดๆนั้น นอกจากเป็นความบันเทิงทำให้ผู้คนลืมเรื่องทุกข์โศก เรื่องวุ่นๆที่กำลังเป็นประเด็นแล้ว มันยังเป็นการสร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่ผู้ที่เกี่ยวข้องอย่างมหาศาล โดยเฉพาะชาติที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันก็ต้องได้รับผลดีทางเศรษฐกิจอย่างแน่นอน มันจึงมีการช่วงชิงความเป็นเจ้าภาพอย่างหนักหน่วง ถึงขั้นบางพวกงัดกลโกง ยัดเงิน เสนอผลประโยชน์อันมิชอบ หรือหลากวิธีทุจริตมาใช้จนเป็นเรื่องราวถูกลงโทษแบนให้เห็นได้ถมเถ

วันนี้ ผมมีผลสรุปตัวเลขที่เกิดจากการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันฟุตบอลชิงแช้มพ์แห่งชาติยุโรป ครั้งที่ 15 หรือ ยูโร 2016 ของ ฝรั่งเศส ซึ่งลงทุนโดยใช้เงินรัฐที่ถือว่าเป็นเงินของประชาชนไปเพียง 200 ล้าน เออโร เท่านั้น แต่กลับสร้างเม็ดเงินให้ระบบเศรษฐกิจของ ฝรั่งเศส ได้ถึง 1,221.8 ล้าน เออโร ทีเดียว

ค่าใช้จ่ายหลักๆก็คือ การก่อสร้างหรือปรับปรุงสนาม 11 แห่งที่ใช้ในการแข่งขันซึ่งดำเนินการในช่วงปี 2011-2016 รวม 160 ล้าน เออโร และการดูแลรักษาความปลอดภัยตามท้องถนน โดยเฉพาะพื้นที่ที่จัดไว้ให้แฟนบอลมาร่วมกิจกรรม ที่เรียกว่า แฟนโซน ตลอดช่วงเดือนมิถุนายน-กรกฎาคม ที่ต้องเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่าจากที่ตั้งงบประมาณเอาไว้ เพื่อป้องกันปัญหาการก่อการร้าย อันนี้คิดเป็นค่าใช้จ่าย 24 ล้าน เออโร ค่าใช้จ่ายอื่นๆก็ไปใช้เงินที่ สหสมาคมฟุตบอลยุโรป หรือ ยูเอ๊ฟฟ่า ซึ่งเป็นเจ้าของรายการนี้ได้แบ่งให้แก่ชาติเจ้าภาพเป็นทุนจัดการแข่งขัน นอกจากนั้น ยังมีค่าใช้จ่ายบางส่วนที่ได้จากภาคเอกชนมาอีก

ข้อมูลตัวเลขดังกล่าวนั้น ทางกระทรวงกีฬาของ ฝรั่งเศส เป็นผู้เผยแพร่ โดยได้มาจากศูนย์ศึกษาด้านกฎหมายและเศรษฐกิจทางการกีฬาของ มหาวิทยาลัยลีโม้ช (Universite de Limoges) และบริษัทที่ปรึกษาการตลาดทางด้านกีฬาที่ชื่อ เกเนโอ (Keneo) ซึ่งจากรายงาน เขาจะแบ่งให้เห็นรายได้ที่เกิดกับการท่องเที่ยว 625.8 ล้าน เออโร และที่เหลืออีก 596 ล้าน เออโร ก็เป็นส่วนที่ผู้จัดการแข่งขันได้รับ

แน่นอนว่า การศึกษานี้เขาคิดอย่างละเอียดโดยคำนึงถึงสิ่งที่จะขาดไปก็คือ นักท่องเที่ยวที่หลีกเลี่ยง ยูโร 2016 และตัดสินใจไม่เดินทางมา ฝรั่งเศส รวมทั้ง สิ่งที่ได้มาทดแทนด้วยคือ งบประมาณที่ได้รับ แทนที่จะถูกจัดไปให้โครงการอื่น ซึ่งผลปรากฏว่าแต่ละภาคส่วนที่ได้ผลพวงจากเงินจำนวน 625.8 ล้าน เออโร นี้ก็คือ โรงแรมที่พัก 35 เพอร์เซ็นท์ อาหาร 30 เพอร์เซ็นท์ การเดินทาง 15 เพอร์เซ็นท์ และอีก 20 เพอร์เซ็นท์เป็นการใช้จ่ายซื้อสินค้าและค่าเข้าชมสถานที่ต่างๆ อันนี้ เขาคิดออกมาเป็นจำนวนเงินที่นักท่องเที่ยวใช้จ่ายเฉลี่ย 154 เออโร ต่อคน ต่อวัน ทั้งนี้ โดยเฉลี่ยแล้ว นักท่องเที่ยวจะพำนักอยู่ในประเทศฝรั่งเศสเป็นจำนวน 7.9 วัน

นอกจากตัวเลขจำนวนเงินที่เห็นๆ การเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขัน ยูโร 2016 ที่ถือว่าเป็นรายการกีฬาอันดับ 3 ของโลกในแง่ของผู้ชมยังส่งผลดีให้แก่ประเทศเจ้าภาพ ทำให้เกิดการสร้างงานเพิ่มขึ้น ซึ่งเขาคิดออกมาเทียบเท่ากับจำนวนงานถึง 116,750 เดือน และที่สำคัญ ทางภาครัฐได้รับผลครั้งนี้ในรูปของภาษีมูลค่าเพิ่มที่จัดเก็บได้อย่างน้อยก็ 70 ล้าน เออโร หรือประมาณ 2,660 ล้าน บาท เห็นอย่างนี้แล้ว บางชาติที่ได้รับสิทธิ์เป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาแล้วดันขาดทุนย่อยยับ ช่างเป็นเรื่องที่เหลือเชื่อจริงๆ อันนั้น น่าจะเป็นกรณีมีของดีแล้วไม่รู้จักใช้ หรือเอาคนทำงานไม่เป็นมาบริหารมากกว่าครับ

* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *


กำลังโหลดความคิดเห็น