อินโดนีเซีย โดนปรับหนักถึง 2.4 ล้านบาท จาก “เอเอฟซี” ข้อหาจุดพลุแฟลร์ 2 ครั้ง ระหว่างการแข่งขันฟุตบอล “เอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ”
โดยคณะกรรมการวินัยของสมาพันธ์ฟุตบอลเอเชีย หรือ “เอเอฟซี” แจ้งบทลงโทษต่อสมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย หลังจบการแข่งขันฟุตบอลเอเอฟเอฟ ซูซูกิ คัพ 2016 ที่ทีมชาติไทย คว้าแชมป์ และ อินโดนีเซีย รับตำแหน่งรองแชมป์
ซึ่ง อินโดนีเซีย ต้องรับโทษปรับเงินเป็นจำนวน 65,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 2.4 ล้านบาท จากการที่มีแฟนฟุตบอลจุดพลุแฟลร์ ภายในสนามระหว่างการแข่งขันถึง 2 ครั้ง
สำหรับการจุดพลุแฟลร์ของ อินโดนีเซีย เกิดขึ้นครั้งแรกในเกมรอบรองชนะเลิศ ที่เปิดบ้านเอาชนะ เวียดนาม 2-1 รับโทษปรับ 20,000 เหรียญสหรัฐฯ ส่วนครั้งที่ 2 เกิดในเกมนัดชิงชนะเลิศนัดแรกที่อินโดนีเซีย ชนะ ทีมชาติไทย 2-1 โดนปรับ 45,000 เหรียญสหรัฐฯ
พร้อมกันนี้ สมาคมฟุตบอลอินโดนีเซีย ยังถูกคาดโทษว่า หากเกิดเหตุการณ์ทำผิดซ้ำอีก จะต้องเจอกับบทลงโทษที่หนักกว่าเดิม รวมถึงต้องชำระค่าปรับดังกล่าวภายใน 30 วัน หลังการประกาศบทลงโทษ
นอกจากนี้ “เอเอฟซี” ยังระบุโทษของ เลสตาลูฮู กองหลัง อินโดนีเซีย ที่เตะบอลอัดใส่ซุ้มม้านั่งสำรองของทีมชาติไทย ในเกมนัดชิงชนะเลิศ ที่แพ้ไทย 0-2 ว่า จะต้องรับโทษแบนทั้งหมด 3 นัด ภายใต้การแข่งขันที่ “เอเอฟซี” รับรอง อีกทั้งยังต้องโดนปรับเป็นเงิน 1,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 35,000 บาท
ทั้งนี้ สมาคมฟุตบอลแห่งประเทศไทย ก็เพิ่งได้รับแจ้งบทลงโทษจากการที่มีแฟนบอลชาวไทย จุดพลุแฟลร์ในนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลรายการนี้นัดที่ 2 มาแล้วเช่นกัน โดย “เอเอฟซี” สั่งปรับเป็นเงิน 30,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือราว 1 ล้านบาท พร้อมกับคาดโทษห้ามทำผิดซ้ำอีก มิเช่นนั้น จะมีการลงโทษเพิ่มเติม