เอเยนซี - ศึก อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ประกบคู่รอบ ไวลด์ การ์ด เพลย์ออฟ เรียบร้อยแล้ว ประกอบด้วย ฝั่ง เอเอฟซี (AFC) โอคแลนด์ เรดเดอร์ส พบ ฮูสตัน เท็กแซนส์ กับ ไมอามี ดอลฟินส์ พบ พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส และฝั่ง เอ็นเอฟซี (NFC) นิวยอร์ก ไจแอนท์ส พบ กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส กับ ดีทรอยต์ ไลออนส์ พบ ซีแอตเติล ซีฮอว์กส ซึ่งการดวลแบบน็อกเอาต์ แต่ละทีมย่อมคาดหวังสูงกับเหล่าซูเปอร์สตาร์ประจำทีม เพื่อตีตั๋วสู่รอบต่อไป อาทิ แอรอน ร็อดเจอร์ส กับ แม็ตธิว สแตฟฟอร์ด 2 ควอเตอร์แบ็กที่ถือว่าน่าจับตามองที่สุด ส่วนที่เหลือจะมีใครบ้างเราคัดมาฝากกันดังนี้
คาลิล แม็ค (ไลน์แบ็คเกอร์ , โอคแลนด์ เรดเดอร์ส) : ผลงาน 11.0 แซ็ค 5 ฟอร์ซ ฟัมเบิล (ทำบอลหลุดจากมือทีมบุก) และ 3 ฟัมเบิล รีโคเวอร์ (เก็บบอลที่หลุดจากมือทีมบุก) ขณะที่คู่ต่อสู้อย่าง ฮูสตัน เท็กแซนส์ ใช้งาน บร็อค ออสไวเลอร์ กับ ทอม ซาเวจ 2 ควอเตอร์แบ็ก ปาบอลรวมกันแค่ 3,176 หลา หาก “สลัดดำ” จะหวังตีตั๋วสู่รอบ ดิวิชันแนล เพลย์ออฟ โดยปราศจาก ดีเร็ก คาร์ กับ แม็ตต์ แม็คกลอยน์ ที่บาดเจ็บ ก็ต้องพึ่งทีมรับช่วยต้านทาน
ลามาร์ มิลเลอร์ (รันนิงแบ็ก, ฮูสตัน เท็กแซนส์) : เรดเดอร์ส จัดว่าป้องกันขว้างเหนียวแน่น สวนทางกับการหยุดเกมวิ่ง เสียระยะเฉลี่ย 117.6 หลาต่อเกม ดังนั้น มิลเลอร์ น่าจะสร้างปัญหาแก่ทีมรับ “สลัดดำ” หลังถูกพักมา 2 เกมล่าสุด เนื่องจากบาดเจ็บข้อเท้า ถือบอล 268 ครั้ง ตะลุย 1,073 หลา 5 ทัชดาวน์
เลอวอน เบลล์ (รันนิงแบ็ก, พิตต์สเบิร์ก สตีลเลอร์ส) : ทีมบุก “คนเหล็ก” ชั่วโมงนี้ อาจไม่มีใครชี้ชะตารอบ ไวลด์ การ์ด ดีกว่า ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งทำระยะรวม 1,884 หลา ตลอด เรกูลาร์ ซีซัน ทั้งที่ลงสนาม 12 เกม ข้อหาตรวจสารกระตุ้นไม่ผ่าน ทักษะและความสามารถเฉพาะตัวของ เบลล์ น่าจะเป็นอาวุธสำคัญขยี้ ไมอามี ดอลฟินส์ ที่ยอมให้คู่แข่งวิ่งได้ระยะเฉลี่ย 140.4 หลาต่อเกม
คาเมรอน เวก (ดีเฟนซีฟ เอนด์ , ไมอามี ดอลฟินส์) : กลับสู่เกมโพสต์ซีซันครั้งแรก นับตั้งแต่ถูก นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ปล่อยทิ้ง ปี 2005 จัดว่าเป็นตัวรับแกร่งสุดของทีมชั่วโมงนี้ ผลงาน 11.5 แซ็ก รวม 3 แซ็กตลอด 3 แซ็ก 1 อินเทอร์เซ็ปต์ ตลอด 3 เกมสุดท้าย ทำให้แฟนๆ “โลมามหาภัย” ต้องฝากความหวังหยุด “บิ๊กเบน” เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ ควอเตอร์แบ็ก และผองเพื่อน สตีลเลอร์ส
แอรอน ร็อดเจอร์ส (ควอเตอร์แบ็ก, กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส) : ฟอร์มกำลังมาแรง ขว้าง 11 ทัชดาวน์ แบบไม่เสียอินเทอร์เซ็ปต์ นับตั้งแต่สัปดาห์ที่ 10 ของฤดูกาล 2016 ทำให้ แพ็กเกอร์ส ปาด ดีทรอยต์ ไลออนส์ คว้าแชมป์ดิวิชัน เอ็นเอฟซี (NFC) เหนือ และจบ เรกูลาร์ ซีซัน หลัก 40 ทัชดาวน์ ครั้งที่ 2 ตลอดอาชีพ ถือเป็นทีเด็ดเล่นงาน ทีมรับ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส ที่เสียระยะจากการขว้างเฉลี่ย 251.1 หลาต่อเกม
โอเดลล์ เบ็คแฮม จูเนียร์ (ปีกนอก, นิวยอร์ก ไจแอนท์ส) : ตัวอันตรายซึ่งทีมรับ กรีนเบย์ แพ็กเกอร์ส ที่มีเกมป้องกันขว้างย่ำแย่ เสียระยะเฉลี่ย 269.2 หลา เสีย 32 ทัชดาวน์ สวนทางกับขุมกำลังที่มีพรสวรรค์ด้านกดดันควอเตอร์แบ็กคู่ต่อสู้ ผลงาน “โอบีเจ” อาจไม่คงเส้นคงวา อย่างไรก็ตาม ไจแอนท์ส ต้องหวังพึ่งให้เค้นฟอร์มเหมือนเกมพบ บัลติมอร์ เรฟเวนส์ สัปดาห์ที่ 6 ที่รับบอลไป 22 หลา เพื่อเก็บชัยออกจากถิ่น แลมโบ ฟิลด์
แม็ตธิว สแตฟฟอร์ด (ควอเตอร์แบ็ก, ดีทรอยต์ ไลออนส์) : ความหวังหนึ่งเดียวที่จะเข็น ไลออนส์ ฟื้นจากความปราชัย 3 เกมรวด กอปรกับ ฟอลคอนส์ ป้องกันขว้างแย่สุดอันดับ 4 เสียระยะ 266.7 หลาต่อเกม และเสียทัชดาวน์มากสุดอันดับ 5 ของลีก 31 ครั้ง นับเฉพาะเกมขว้าง แม้ผลงานล่าสุดปาแค่ 2 ทัชดาวน์ จาก 3 เกม แต่สร้างปรากฏการณ์คัมแบ็กมากสุด 8 ครั้ง ฤดูกาลนี้
เรจจี เนลสัน (เซฟตี, โอคแลนด์ เรดเดอร์ส) : รั้งอันดับ 5 ร่วมของลีก สถิติอินเทอร์เซ็ปต์สูงสุด 5 ครั้ง และ 2 รีโคเวอร์ ฟัมเบิล (ตะครุบฟัมเบิล) ทั้งที่ยืนเป็นกองหลังตัวสุดท้าย ด้วยสไตล์การเล่นที่จมูกไว จึงมิใช่เรื่องง่ายที่ เท็กแซนส์ ซึ่งเสีย 16 อินเทอร์เซ็ปต์ ตลอดเรกูลาร์ ซีซัน จะขว้างบอลเจาะง่ายๆ จึงน่าจะสร้างชื่อยามเผชิญหน้า ควอเตอร์แบ็ก ที่ยังอ่อนประสบการณ์
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
