กำปั้นไทยเดินเครื่อง โค้ชคิวบาปรับโฉม เฟ้นดาวรุ่งไป อลป.

ผู้จัดการรายวัน 360 - หลังจากที่ทัพนักกีฬามวยสากลสมัครเล่นทีมชาติไทย ไม่ประสบความสำเร็จจากการคว้าเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิกเกมส์ 2 สมัย หลังสุด โดยเฉพาะใน “ริโอเกมส์ 2016” นั้น ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 40 ปี ที่กำปั้นไทย ไม่สามารถคว้าเหรียญรางวัลใดได้เลย ส่งผลให้มีกระแสเรียกร้องให้มีการปรับเปลี่ยนภายในสมาคม

ซึ่งจากกระแสดังกล่าวส่งผลให้ทีมผู้บริหารสมาคมมวยสากลสมัครเล่นแห่งประเทศไทย อย่าง นายพิชัย ชุณหวชิร นายกสมาคม จึงสั่งโละทีมงานผู้ฝึกสอนทั้งหมด โดยขอความร่วมมือกับ คิวบา เพื่อนำตัวผู้ฝึกสอนอย่าง จูเลียน ริคาร์โด กอนซาเลซ เซเดโย หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวคิวบา พร้อมด้วยผู้ช่วยอีก 2 คน เข้ามาทำหน้าที่แทน ซึ่งมีการเซ็นสัญญาทั้งหมด 4 ปี

ระยะแรกของการร่วมงาน แม้จะมีอุปสรรคเรื่องการสื่อสารบ้าง แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด เพราะทีมงานชุดนี้เคยทำงานร่วมกับนักชกไทยในช่วงที่ไปเก็บตัวฝึกซ้อมที่ประเทศคิวบามาก่อนหน้านี้แล้ว โดยหลังจากการที่เข้ามาทำงานตลอดระยะเวลา 1 เดือนที่ผ่านมา ได้มีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นทั้งเรื่องการฝึกซ้อม และระเบียบวินัยที่มีความเข้มงวดมากขึ้น ถึงขั้นสั่งริบโทรศัพท์มือถือ เพื่อให้นักกีฬามีสมาธิในการฝึกซ้อมมากขึ้น

โดย จูเลียน ริคาร์โด กล่าวถึงนักชกทีมชาติไทย จากการที่ได้ร่วมงานกันมา ยืนยันว่า ทุกคนต่างมีฝีมือไม่เป็นรองใคร อีกทั้งสภาพร่างกายถือว่าไม่แพ้ชาติใด เพียงแต่บางครั้งอาจขาดความเข้าใจในแท็กติกที่ผู้ฝึกสอนวางไว้ ทำให้บางครั้งไม่อาจประสบความสำเร็จอย่างที่ต้องการได้

ทั้งนี้ “เจ้าเอ็ม” วุฒิชัย มาสุข นักชกตัวความหวังของทีมชาติไทย เปิดเผยถึงการปรับเปลี่ยนสไตล์การฝึกซ้อม หลังจากได้ร่วมงานกับผู้ฝึกสอนจาก คิวบา ว่า “ทุกคนจำเป็นต้องปรับตัวกับโค้ชใหม่ หลายอย่างแปลกไปมาก อย่างเมื่อก่อน นักกีฬา ต้องฝึกซ้อมก่อน ถึงจะได้ไปรับประทานอาหาร แต่พอเปลี่ยนโค้ช เราต้องจัดการอาหารให้เรียบร้อย แล้วค่อยไปซ้อม โดยโค้ชให้เหตุผลว่า ก็เพื่อให้มีเรี่ยวแรงเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ เขาไม่ได้แก้ให้เราชกสไตล์อื่น ยังคงให้เรารักษาการชกสไตล์นักมวยของไทยเอาไว้ แต่ที่เพิ่มเติมมาเป็นเรื่องของแท็กติก การรักษาระเบียบวินัย ซึ่งผมก็เห็นว่าความเปลี่ยนแปลงนี้ช่วยให้เราดีขึ้นในหลายๆ เรื่อง”

เมื่อถามถึงการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ 2017 ที่ประเทศมาเลเซีย ในปีหน้า จูเลียน ริคาร์โด เฮดโค้ชชาวคิวบา ยอมรับว่า เสียดายที่เจ้าภาพ ไม่เปิดให้มีการแข่งขันชกมวยสากลสมัครเล่นหญิง ซึ่งทำให้ต้องหารายการให้นักกีฬาไทยได้ลงแข่งขันเพื่อเก็บคะแนน และประสบการณ์

ในส่วนของนักกีฬากำปั้นชายนั้น หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวคิวบา มองว่า กำปั้นตัวหลักที่มีอยู่อย่าง วุฒิชัย มาสุข, สายลม อาดี, ฉัตร์ชัย บุตรดี และ อำนาจ รื่นเริง ที่ร่วมเก็บตัวซ้อมอยู่ด้วยนั้น หลายรายอาจอยู่ไม่ถึงการแข่งขันกีฬาโอลิมปิก 2020 ที่ประเทศญี่ปุ่น ดังนั้น จำเป็นต้องลงไปมองหานักกีฬาดาวรุ่งที่มีชั้นเชิงฝีมือดีเข้ามาร่วมเก็บตัวฝึกซ้อมร่วมกับนักกีฬารุ่นพี่ เพื่อที่จะได้ซึมซับประสบการณ์จากรุ่นพี่ไปในตัว

สำหรับการเฟ้นหาดาวรุ่งนั้น จูเลียน ริคาร์โด ยืนยันว่า จะมองหาจากรายการชิงแชมป์ประเทศไทย ที่จะลงทำการแข่งขันช่วงต้นปีหน้า เนื่องจากกุนซือชาวคิวบา เชื่อว่า ประเทศไทย ยังมีนักกีฬาฝีมือดีอีกมากมาย โดยมั่นใจว่าหลายคนที่จะเข้าสู่แคมป์ อาจสามารถสร้างให้พัฒนาฝีมือมากกว่ารุ่นพีในแคมป์ปัจจุบันเสียด้วยซ้ำ และคาดหมายว่า ดาวรุ่งที่เข้ามานั้นจะเป็นกำลังหลักของทีมชาติไทยในอนาคตต่อไป

พร้อมกันนี้ หัวหน้าผู้ฝึกสอนชาวคิวบา ยอมรับว่า นักกีฬาไทยจริงๆ แล้วล้วนแต่มีฝีมือ ทว่า กลับมีปัญหาเรื่องสภาพจิตใจ ที่มักคิดว่านักกีฬาจากชาติอื่นๆ เก่งกว่าตัวเอง “ถ้าเมื่อไหร่เรายังไม่เปลี่ยนความคิดที่ว่า เราสู้เขาไม่ได้ เราด้อยกว่า คิวบา, ฟิลิปปินส์, อินโดนีเซีย หรือแม้แต่ เวียดนาม ต่อให้ซ้อมมาดีขนาดไหน ออกไปแข่งเราก็แพ้ ซึ่งมันทำให้ไม่เกิดการพัฒนาขึ้นมาเลย ตอนที่ผมทำทีมอยู่เห็นนักกีฬาหลายคนชอบคิดแบบนี้กัน มันไม่ได้ ต้องเปลี่ยนความคิดกันใหม่หมด ทุกอย่างอยู่ที่ใจ ก่อนอื่นเราต้องมีสภาพจิตใจที่ดี ถ้าคิดว่าทำได้ทุกอย่าง สู้ได้ทุกคน เราก็มีลุ้น ดีกว่ามานั่นคิดว่าคนอื่นเก่งกว่าเรา แบบนี้จะไปชนะใครได้ นักกีฬาที่เข้ามาใหม่ก็ต้องไม่ปล่อยให้ความคิดเช่นนี้ครอบงำด้วย”

โดยหลังจากนี้นักชกทีมชาติไทย ได้เดินทางไปเก็บตัวที่แคมป์ อ.มวกเหล็ก จ.สระบุรี ก่อนจะมีโปรแกรมการแข่งขันมวยสากลชิงแชมป์ประเทศไทย ประจำปี 2559 ที่ถูกเลื่อนออกมา ที่สนามกีฬา 2,000 ที่นั่งภายในสนามกีฬา เฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา จ.นครราชสีมา ภายในวันที่ 10 - 16 มกราคม 2560

สุดท้ายแม้มวยจะสร้างความผิดหวังให้แฟนๆ ชาวไทยหลายครั้งหลายครา ทว่า ก็เป็นกีฬาที่ทุกคนคุ้นเคยและคลุกคลีมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้น เชื่อลึกๆ ไม่ว่าขึ้นเวทีครั้งใดเสียงเชียร์ก็ยังคงดังกระหึ่ม พร้อมหวังว่าผลงานจะกลับมาเฟื่องฟูให้ได้ชื่นใจอีกครั้งหนึ่งเหมือนอดีตที่เราเป็นเจ้าของกีฬาชนิดนี้
จูเลียน ริคาร์โด กอนซาเลซ เซเดโย หัวหน้าโค้ชชาวคิวบา