คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
บทสรุปสัปดาห์ที่ 13 ของศึก อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2016 นอกเหนือจาก ดัลลัส คาวบอยส์ ที่การันตีเข้าเพลย์ออฟแน่นอนแล้ว ไฮไลต์ที่จะลืมเสียมิได้ คือ ทอม เบรดี ของ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นควอเตอร์แบ็กชนะสูงสุด 201 เกม รวมโพสต์ซีซัน หลังพิชิต แอลเอ แรมส์ แบบไม่ยากเย็น 26-10 คืนวันอาทิตย์ (4 ธ.ค.) ตามเวลาบ้านเรา
ไล่เรียง 5 อันดับแรก คงไม่แปลกอะไรถ้าสถิติของ เบรดี จะคงอยู่ไปอีกราว 10-20 ปี หรือนานกว่านั้น รองลงมาก็มี เพย์ตัน แมนนิง (200), เบร็ตต์ ฟาฟร์ (199), จอห์น เอลเวย์ (162) และ แดน มาริโน (155) เหล่านี้ต่างก็รีไทร์กันหมด สำหรับคนที่เหลืออยู่ ได้แก่ ดรูว์ บรีส์ (135) , เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ (131) และ อีลาย แมนนิง (113) ล้วนอายุเลข 3 นำหน้า ยากเต็มกลืนที่จะตามทัน แถม เบรดี ก็อาจจะยืดสถิติต่อไปราว 1-2 ฤดูกาล
เส้นทางสู่บัลลังก์ผู้พิชิตตลอดกาล ขอเริ่มจากการเผชิญหน้ากับเหล่าคู่ปรับ คนที่ เบรดี ล้มได้บ่อยสุด ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือ แมนนิงคนพี่ นี่เอง หากติดตาม NFL นานกว่า 10 ปี ถือว่า 2 ว่าที่ตำนาน ประมือกันมาหลายครั้ง โดยสถิติบ่งชี้ว่า เจ้าของแหวนแชมป์ 4 สมัย ชนะ 11 แพ้ 6 หรือคิดเป็น 65 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนอื่นๆ เห็นจะเป็นสมาชิก นิวยอร์ก เจ็ตส์ อริร่วมดิวิชัน เอเอฟซี (AFC) ตะวันออก อย่าง ไรอัน ฟิตซ์แพทริค (8-2), แชด เพนนิงตัน (6-2) และ มาร์ค ซานเชซ (6-3) นอกจากนั้น ก็มี “บิ๊กเบน” (6-2) และ ฟิลิป ริเวอร์ส (6-0) ที่อยู่กลุ่มท็อป 5
สำหรับทีมที่เป็นเหยื่ออันโอชะ ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ก็หนีไม่พ้นทีมดิวิชันเดียวกันอย่าง บัฟฟาโล บิลล์ส ไล่ทุบ 26 จาก 29 เกม ตามด้วย เจ็ตส์ 23 จาก30 เกม, ไมอามี ดอลฟินส์ 19 จาก 28 เกม, อินเดียนาโปลิส โคลท์ส 14 จาก 18 เกม และ พิตต์สเบีร์ก สตีลเลอร์ส 9 จาก 11 เกม หากมองภาพรวมต่างดิวิชัน เปอร์เซ็นต์ชนะ ยามดวลกับ ทีมจาก เอ็นเอฟซี (NFC) เหนือ 87.5, AFC ใต้ 84.6, NFC ใต้ 81.3 และ AFC เหนือ 80.0 เหล่านี้ถือว่าผลงานดีกว่าการเจอทีมดิวิชันของตัวเองแค่ 78.2
ถึงกระนั้นก็ต้องบอกว่า เดนเวอร์ บรองโกส์ ถือเป็นของแสลงสำหรับ เบรดี สถิติ ชนะ 6 แพ้ 9 โดยเฉพาะเวลาเยือน สปอร์ตส ออโธริตี ฟิลด์ แอท ไมล์ ไฮ ผลงานแค่ 2-7 แตกต่างจากเวลาเฝ้ารัง ยิลเลตต์ สเตเดียม เอาชนะ “ม้าป่า” ได้ทั้งหมด 4 จาก 6 เกม นอกจากนี้ ยังมีเพียง 5 แฟรนไชส์ เบรดี ทำผลงาน 50 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส (3-3), กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส (2-2) , ซีแอตเติล ซีฮอว์กส (2-2) , ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส (1-1) และ อริโซนา คาร์ดินัลส์ (1-1) และอีก 26 แฟรนไชส์มีสถิติชนะมากกว่าทั้งหมด
รอบเพลย์ออฟ ถือเป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ทำให้ เบรดี มีผลงานเหนือกว่าคนอื่นๆ โดยครองสถิติชนะสูงสุด 22 เกม รวมรอบชิงชนะเลิศ 4 เกม ซึ่งเท่ากับ โจ มอนทานา ตำนานแห่ง โฟร์ตีไนเนอร์ส นับตั้งแต่ยึดตัวจริงถาวรแทน ดรูว์ เบล็ดโซ เมื่อปี 2001 ถึงแม้เปอร์เซ็นต์ชนะ 71 จะด้อยกว่า แมนนิงคนน้อง ที่ทำไว้ 72.7 นับเฉพาะจอมทัพที่ลงเล่นช่วงโพสต์ซีซันมากกว่า 10 เกม
หากถึงสถานการณ์คับขัน เบรดี น่าจะเป็นตัวเลือกที่บรรดาเฮดโค้ชพึ่งพา ด้วยตำแหน่งราชันย์แห่งการคัมแบ็ก สถิติ 50-43 (คิดเป็น 53.8 เปอร์เซ็นต์) หากเสมอกัน หรือตามหลังไม่เกิน 8 แต้ม ควอเตอร์ที่ 4 และยังคงเป็นอันดับ 1 สถิติ 20-41 (32.8 เปอร์เซ็นต์) กรณีโดนนำห่างระหว่าง 9 ถึง 20 แต้ม ช่วงพักครึ่ง ตามด้วย รัสเซลล์ วิลสัน จอมทัพ ซีฮอว์กส 31.3 เปอร์เซ็นต์, แอนดรูว์ ลัก 27.6 เปอร์เซ็นต์, โทนี โรโม 25.6 เปอร์เซ็นต์ และ เพย์ตัน แมนนิง 24.6 เปอร์เซ็นต์
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
บทสรุปสัปดาห์ที่ 13 ของศึก อเมริกันฟุตบอล เอ็นเอฟแอล (NFL) ฤดูกาล 2016 นอกเหนือจาก ดัลลัส คาวบอยส์ ที่การันตีเข้าเพลย์ออฟแน่นอนแล้ว ไฮไลต์ที่จะลืมเสียมิได้ คือ ทอม เบรดี ของ นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ เพิ่งสร้างประวัติศาสตร์เป็นควอเตอร์แบ็กชนะสูงสุด 201 เกม รวมโพสต์ซีซัน หลังพิชิต แอลเอ แรมส์ แบบไม่ยากเย็น 26-10 คืนวันอาทิตย์ (4 ธ.ค.) ตามเวลาบ้านเรา
ไล่เรียง 5 อันดับแรก คงไม่แปลกอะไรถ้าสถิติของ เบรดี จะคงอยู่ไปอีกราว 10-20 ปี หรือนานกว่านั้น รองลงมาก็มี เพย์ตัน แมนนิง (200), เบร็ตต์ ฟาฟร์ (199), จอห์น เอลเวย์ (162) และ แดน มาริโน (155) เหล่านี้ต่างก็รีไทร์กันหมด สำหรับคนที่เหลืออยู่ ได้แก่ ดรูว์ บรีส์ (135) , เบน โรธลิสเบอร์เกอร์ (131) และ อีลาย แมนนิง (113) ล้วนอายุเลข 3 นำหน้า ยากเต็มกลืนที่จะตามทัน แถม เบรดี ก็อาจจะยืดสถิติต่อไปราว 1-2 ฤดูกาล
เส้นทางสู่บัลลังก์ผู้พิชิตตลอดกาล ขอเริ่มจากการเผชิญหน้ากับเหล่าคู่ปรับ คนที่ เบรดี ล้มได้บ่อยสุด ก็ไม่ใช่ใครที่ไหน ก็คือ แมนนิงคนพี่ นี่เอง หากติดตาม NFL นานกว่า 10 ปี ถือว่า 2 ว่าที่ตำนาน ประมือกันมาหลายครั้ง โดยสถิติบ่งชี้ว่า เจ้าของแหวนแชมป์ 4 สมัย ชนะ 11 แพ้ 6 หรือคิดเป็น 65 เปอร์เซ็นต์ ส่วนคนอื่นๆ เห็นจะเป็นสมาชิก นิวยอร์ก เจ็ตส์ อริร่วมดิวิชัน เอเอฟซี (AFC) ตะวันออก อย่าง ไรอัน ฟิตซ์แพทริค (8-2), แชด เพนนิงตัน (6-2) และ มาร์ค ซานเชซ (6-3) นอกจากนั้น ก็มี “บิ๊กเบน” (6-2) และ ฟิลิป ริเวอร์ส (6-0) ที่อยู่กลุ่มท็อป 5
สำหรับทีมที่เป็นเหยื่ออันโอชะ ผลผลิตจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ก็หนีไม่พ้นทีมดิวิชันเดียวกันอย่าง บัฟฟาโล บิลล์ส ไล่ทุบ 26 จาก 29 เกม ตามด้วย เจ็ตส์ 23 จาก30 เกม, ไมอามี ดอลฟินส์ 19 จาก 28 เกม, อินเดียนาโปลิส โคลท์ส 14 จาก 18 เกม และ พิตต์สเบีร์ก สตีลเลอร์ส 9 จาก 11 เกม หากมองภาพรวมต่างดิวิชัน เปอร์เซ็นต์ชนะ ยามดวลกับ ทีมจาก เอ็นเอฟซี (NFC) เหนือ 87.5, AFC ใต้ 84.6, NFC ใต้ 81.3 และ AFC เหนือ 80.0 เหล่านี้ถือว่าผลงานดีกว่าการเจอทีมดิวิชันของตัวเองแค่ 78.2
ถึงกระนั้นก็ต้องบอกว่า เดนเวอร์ บรองโกส์ ถือเป็นของแสลงสำหรับ เบรดี สถิติ ชนะ 6 แพ้ 9 โดยเฉพาะเวลาเยือน สปอร์ตส ออโธริตี ฟิลด์ แอท ไมล์ ไฮ ผลงานแค่ 2-7 แตกต่างจากเวลาเฝ้ารัง ยิลเลตต์ สเตเดียม เอาชนะ “ม้าป่า” ได้ทั้งหมด 4 จาก 6 เกม นอกจากนี้ ยังมีเพียง 5 แฟรนไชส์ เบรดี ทำผลงาน 50 เปอร์เซ็นต์ ได้แก่ นิวยอร์ก ไจแอนท์ส (3-3), กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส (2-2) , ซีแอตเติล ซีฮอว์กส (2-2) , ซาน ฟรานซิสโก โฟร์ตีไนเนอร์ส (1-1) และ อริโซนา คาร์ดินัลส์ (1-1) และอีก 26 แฟรนไชส์มีสถิติชนะมากกว่าทั้งหมด
รอบเพลย์ออฟ ถือเป็นอีกตัวแปรหนึ่งที่ทำให้ เบรดี มีผลงานเหนือกว่าคนอื่นๆ โดยครองสถิติชนะสูงสุด 22 เกม รวมรอบชิงชนะเลิศ 4 เกม ซึ่งเท่ากับ โจ มอนทานา ตำนานแห่ง โฟร์ตีไนเนอร์ส นับตั้งแต่ยึดตัวจริงถาวรแทน ดรูว์ เบล็ดโซ เมื่อปี 2001 ถึงแม้เปอร์เซ็นต์ชนะ 71 จะด้อยกว่า แมนนิงคนน้อง ที่ทำไว้ 72.7 นับเฉพาะจอมทัพที่ลงเล่นช่วงโพสต์ซีซันมากกว่า 10 เกม
หากถึงสถานการณ์คับขัน เบรดี น่าจะเป็นตัวเลือกที่บรรดาเฮดโค้ชพึ่งพา ด้วยตำแหน่งราชันย์แห่งการคัมแบ็ก สถิติ 50-43 (คิดเป็น 53.8 เปอร์เซ็นต์) หากเสมอกัน หรือตามหลังไม่เกิน 8 แต้ม ควอเตอร์ที่ 4 และยังคงเป็นอันดับ 1 สถิติ 20-41 (32.8 เปอร์เซ็นต์) กรณีโดนนำห่างระหว่าง 9 ถึง 20 แต้ม ช่วงพักครึ่ง ตามด้วย รัสเซลล์ วิลสัน จอมทัพ ซีฮอว์กส 31.3 เปอร์เซ็นต์, แอนดรูว์ ลัก 27.6 เปอร์เซ็นต์, โทนี โรโม 25.6 เปอร์เซ็นต์ และ เพย์ตัน แมนนิง 24.6 เปอร์เซ็นต์
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *