คอลัมน์ Buzzer Beat โดย MVP
มิทราบจะเรียกตัวเองว่า พญาแร้ง หรือเป็นบ่วงกรรม เกม เวิลด์ ซีรีส์ หรือรอบชิงชนะเลิศ ศึก เมเจอร์ ลีก เบสบอล (MLB) คลีฟแลนด์ อินเดียนส์ สร้างปาฏิหาริย์แบบสวนทาง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ แฟรนไชส์กีฬาร่วมเมือง นำอยู่ 3-1 เกม แต่กลับแพ้ 3-4 เกม ทำให้ ชิคาโก คับส์ ครองแชมป์แรกรอบ 108 ปี แบบหน้าตาเฉย และชาวเมืองอดฉลองแชมป์ที่ 2 ต่อจาก เอ็นบีเอ (NBA)
แน่นอนว่า ความหวังสูงสุดของแฟนๆ กีฬาเมืองคลีฟแลนด์ ตอนนี้คงต้องอยู่ที่ คาวาเลียร์ส เปิดซีซันมา 6 เกม ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น และมีโอกาสเข้าใกล้สถิติออกสตาร์ท 8-0 ฤดูกาล 1976-77 และดูเหมือน “บิ๊กทรี” ทั้ง เลอบรอน เจมส์, คายรี เออร์วิง และ เควิน เลิฟ กำลังเข้าขากันดี มากกว่ายุค เดวิด แบล็ตต์ อดีตเฮดโค้ช โดยเฉพาะ เลิฟ ที่เริ่มโดดเด่นขึ้นมา
หลายๆ ท่านทราบกันดีว่า โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส คว้า เควิน ดูแรนท์ ฟอร์เวิร์ดระดับซูเปอร์สตาร์ แบบฟรีเอเยนต์ ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พอมาจับคู่กับขุมกำลังเดิมๆ ทั้ง สเตฟ เคอร์รี, เคลย์ ธอมป์สัน และ เดรย์มอนด์ กรีน ไม่ต้องสงสัยเลย นี่คือเต็งแชมป์อย่างแท้จริง หากเปรียบกับภาษาลูกหนังก็เหมือน “กาแลคติกอส” ของ รีล มาดริด ยุคที่มี หลุยส์ ฟิโก, ซีเนอดีน ซีดาน และ โรนัลโด ดาวยิงบราซิเลียน
พอเริ่มจริงๆ ก็เปิดฉากไม่ค่อยสวย แพ้ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส คาบ้าน เสียอย่างนั้น ทำเอา “เคดี” ประเดิมสนามไม่ค่อยสวยเท่าไร และออกจะเหลือเชื่อสักหน่อย คงเป็นเกมแพ้ แอลเอ เลเกอร์ส ยุคปราศจาก โคบี ไบรอันท์ คิดไม่ออกเลยว่า เลเกอร์ส จะเอาอะไรไปชนะ นอกเหนือจาก ลุค วอลตัน เฮดโค้ชป้ายแดง ที่เคยทำหน้าที่ผู้ช่วยของ วอร์ริเออร์ส มาก่อน ถือว่ารู้ไส้รู้พุงกันดี
ตามภาพรวมที่ใครๆ เห็นว่า วอร์ริเออร์ส แข็งแกร่ง มีสิทธิ์ทุบสถิติชนะสูงสุดใน 1 ฤดูกาล อีกสักครั้ง เก็บชัย 74 จาก 82 เกม บางครั้งคงดูเหมือนการยกยอปอปั้น สร้างความฮือฮาเกินไปหน่อย การเสริม ดูแรนท์ ทำให้เกมรุกดุดัน แต่พวกเขาก็ต้องสังเวยค่าจ้าง 2 ปี ราว 50 - 60 ล้านเหรียญ ด้วยการปล่อย แอนดรูว์ โบกัต เซ็นเตอร์ออสซี รวมถึงสำรองชั้นดีอย่าง แฮร์ริสัน บาร์นส และ เฟตุส เอเซลี ต้องดึงผู้เล่นชั้นประหยัดมาอุดช่องโหว่
การขาดหายไปของทั้ง 3 คน เชื่อว่า เป็นปัจจัยหนึ่งที่ “นักรบ” ออกอาการตะกุกตะกักสักหน่อย 6 จาก 7 เกมแรก โดนเจาะเกิน 100 แต้ม ยังดีที่วันเจอ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ซึ่งเอาชนะไป 122-96 “นินจาเต่า” รัสเซลล์ เวสต์บรูก เกิดเล่นไม่ออก ส่วนคนที่เหลือพึ่งพาไม่ได้มากเท่าไร จึงเป็นเกมเดียวที่เสียไม่ถึงเลข 3 หลัก และส่งสัญญาณว่า เกมรับค่อนข้างน่าเป็นห่วง
ขณะที่เกมรุกมี เคอร์รี และ ดูแรนท์ คอยรับผิดชอบ ดังนั้น ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทว่า ออปชันเสริมอย่าง ธอมป์สัน มือยิง 3 แต้มอันดับ 2 ของทีม ส่องเข้าเป้าแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เศษๆ และ เดรย์มอนด์ กรีน ก็ต้องปรับมาช่วยเกมรับเสียเยอะ แม้ตัวเลขแอสซิสต์จะค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นเพราะอาจจะถูกดึงค่อยจ่ายบอล ส่วนการปิดสกอร์ก็ดูดร็อปลง ทำไปแค่ 9.4 แต้ม เทียบกับ 14 แต้ม ฤดูกาลที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม “นักรบ” คงไม่ได้ย่ำแย่อะไรมากมาย แต่ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ก็จะต้องใช้เวลาเฟ้นหาความลงตัวสักระยะ ยิ่งการแข่งขันสายตะวันตกแข็งออกจะดุเดือดอยู่แล้ว ต้องบอกว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ หาก รองแชมป์เก่า ยังไม่เปล่งออราออกมาว่า ข้านี่แหละ คือ แชมป์ และต้องไม่ลืมว่าปีแรกของ เลอบรอน, ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช ที่ไมอามี ฮีต ก็พ่ายรอบชิงฯ แก่ ดัลลัส มาเวอริกส์ ปี 2011 มาแล้ว
มิทราบจะเรียกตัวเองว่า พญาแร้ง หรือเป็นบ่วงกรรม เกม เวิลด์ ซีรีส์ หรือรอบชิงชนะเลิศ ศึก เมเจอร์ ลีก เบสบอล (MLB) คลีฟแลนด์ อินเดียนส์ สร้างปาฏิหาริย์แบบสวนทาง คลีฟแลนด์ คาวาเลียร์ แฟรนไชส์กีฬาร่วมเมือง นำอยู่ 3-1 เกม แต่กลับแพ้ 3-4 เกม ทำให้ ชิคาโก คับส์ ครองแชมป์แรกรอบ 108 ปี แบบหน้าตาเฉย และชาวเมืองอดฉลองแชมป์ที่ 2 ต่อจาก เอ็นบีเอ (NBA)
แน่นอนว่า ความหวังสูงสุดของแฟนๆ กีฬาเมืองคลีฟแลนด์ ตอนนี้คงต้องอยู่ที่ คาวาเลียร์ส เปิดซีซันมา 6 เกม ยังสะกดคำว่าแพ้ไม่เป็น และมีโอกาสเข้าใกล้สถิติออกสตาร์ท 8-0 ฤดูกาล 1976-77 และดูเหมือน “บิ๊กทรี” ทั้ง เลอบรอน เจมส์, คายรี เออร์วิง และ เควิน เลิฟ กำลังเข้าขากันดี มากกว่ายุค เดวิด แบล็ตต์ อดีตเฮดโค้ช โดยเฉพาะ เลิฟ ที่เริ่มโดดเด่นขึ้นมา
หลายๆ ท่านทราบกันดีว่า โกลเดน สเตท วอร์ริเออร์ส คว้า เควิน ดูแรนท์ ฟอร์เวิร์ดระดับซูเปอร์สตาร์ แบบฟรีเอเยนต์ ช่วงซัมเมอร์ที่ผ่านมา พอมาจับคู่กับขุมกำลังเดิมๆ ทั้ง สเตฟ เคอร์รี, เคลย์ ธอมป์สัน และ เดรย์มอนด์ กรีน ไม่ต้องสงสัยเลย นี่คือเต็งแชมป์อย่างแท้จริง หากเปรียบกับภาษาลูกหนังก็เหมือน “กาแลคติกอส” ของ รีล มาดริด ยุคที่มี หลุยส์ ฟิโก, ซีเนอดีน ซีดาน และ โรนัลโด ดาวยิงบราซิเลียน
พอเริ่มจริงๆ ก็เปิดฉากไม่ค่อยสวย แพ้ ซาน อันโตนิโอ สเปอร์ส คาบ้าน เสียอย่างนั้น ทำเอา “เคดี” ประเดิมสนามไม่ค่อยสวยเท่าไร และออกจะเหลือเชื่อสักหน่อย คงเป็นเกมแพ้ แอลเอ เลเกอร์ส ยุคปราศจาก โคบี ไบรอันท์ คิดไม่ออกเลยว่า เลเกอร์ส จะเอาอะไรไปชนะ นอกเหนือจาก ลุค วอลตัน เฮดโค้ชป้ายแดง ที่เคยทำหน้าที่ผู้ช่วยของ วอร์ริเออร์ส มาก่อน ถือว่ารู้ไส้รู้พุงกันดี
ตามภาพรวมที่ใครๆ เห็นว่า วอร์ริเออร์ส แข็งแกร่ง มีสิทธิ์ทุบสถิติชนะสูงสุดใน 1 ฤดูกาล อีกสักครั้ง เก็บชัย 74 จาก 82 เกม บางครั้งคงดูเหมือนการยกยอปอปั้น สร้างความฮือฮาเกินไปหน่อย การเสริม ดูแรนท์ ทำให้เกมรุกดุดัน แต่พวกเขาก็ต้องสังเวยค่าจ้าง 2 ปี ราว 50 - 60 ล้านเหรียญ ด้วยการปล่อย แอนดรูว์ โบกัต เซ็นเตอร์ออสซี รวมถึงสำรองชั้นดีอย่าง แฮร์ริสัน บาร์นส และ เฟตุส เอเซลี ต้องดึงผู้เล่นชั้นประหยัดมาอุดช่องโหว่
การขาดหายไปของทั้ง 3 คน เชื่อว่า เป็นปัจจัยหนึ่งที่ “นักรบ” ออกอาการตะกุกตะกักสักหน่อย 6 จาก 7 เกมแรก โดนเจาะเกิน 100 แต้ม ยังดีที่วันเจอ โอกลาโฮมา ซิตี ธันเดอร์ ซึ่งเอาชนะไป 122-96 “นินจาเต่า” รัสเซลล์ เวสต์บรูก เกิดเล่นไม่ออก ส่วนคนที่เหลือพึ่งพาไม่ได้มากเท่าไร จึงเป็นเกมเดียวที่เสียไม่ถึงเลข 3 หลัก และส่งสัญญาณว่า เกมรับค่อนข้างน่าเป็นห่วง
ขณะที่เกมรุกมี เคอร์รี และ ดูแรนท์ คอยรับผิดชอบ ดังนั้น ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ทว่า ออปชันเสริมอย่าง ธอมป์สัน มือยิง 3 แต้มอันดับ 2 ของทีม ส่องเข้าเป้าแค่ 20 เปอร์เซ็นต์เศษๆ และ เดรย์มอนด์ กรีน ก็ต้องปรับมาช่วยเกมรับเสียเยอะ แม้ตัวเลขแอสซิสต์จะค่อนข้างสูง แต่ก็เป็นเพราะอาจจะถูกดึงค่อยจ่ายบอล ส่วนการปิดสกอร์ก็ดูดร็อปลง ทำไปแค่ 9.4 แต้ม เทียบกับ 14 แต้ม ฤดูกาลที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม “นักรบ” คงไม่ได้ย่ำแย่อะไรมากมาย แต่ถ้าอยากประสบความสำเร็จ ก็จะต้องใช้เวลาเฟ้นหาความลงตัวสักระยะ ยิ่งการแข่งขันสายตะวันตกแข็งออกจะดุเดือดอยู่แล้ว ต้องบอกว่าอะไรก็เกิดขึ้นได้ หาก รองแชมป์เก่า ยังไม่เปล่งออราออกมาว่า ข้านี่แหละ คือ แชมป์ และต้องไม่ลืมว่าปีแรกของ เลอบรอน, ดีเวย์น เหว็ด และ คริส บอช ที่ไมอามี ฮีต ก็พ่ายรอบชิงฯ แก่ ดัลลัส มาเวอริกส์ ปี 2011 มาแล้ว