เอเยนซี - ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลนี้เพิ่งโม่แข้งรอบแบ่งกลุ่มผ่านพ้นไป 2 นัดยังวันอะไรไม่ได้ว่าใครจะก้าวไปถึงฝั่งฝัน ทว่าคืนวันพุธที่ 19 ตุลาคมนี้มีเกมที่น่าสนใจ ซึ่งพลาดไม่ได้ด้วยประการทั้งปวงอยู่ที่กลุ่ม ซี โดยเป็น บาร์เซโลนา เปิดรัง คัมป์ นู รับการมาเยือนของ แมนเชสเตอร์ ซิตี
ไฮไลต์เกมนี้คือการเยือนถิ่นเก่าของ เป๊ป กวาร์ดิโอลา ที่เคยเล่นเป็นมิดฟิลด์ก้าวขึ้นมาจากชุดเยาวชนแคมป์ ลา มาเซีย เมื่อปี 1990 ก่อนปักหลักถึงปี 2001 จึงย้ายออกไปอยู่กับ เบรสชา ระหว่างนั้นได้แชมป์ทุกรายการนำโดย ลา ลีกา 6 สมัยและ ยูโรเปียน คัพ 1 สมัยปี 1991-92 พอแข้งสเปนแขวนสตั๊ดพร้อมกลับมาคุม บาร์ซา เริ่มที่ชุด เบ เมื่อปี 2007 ก่อนขึ้นชุดใหญ่เต็มตัวปี 2008 จนถึงปี 2012 ซึ่งก็คว้าทุกแชมป์เช่นเดียวกับสมัยเป็นนักเตะ
เป๊ป นำ บาร์เซโลนา คว้า 14 แชมป์ ก่อนย้ายไปแสวงหาความท้าทายคุม บาเยิร์น มิวนิค ซึ่งก็เป็นแชมป์ทุกรายการยกเว้นถ้วยเดียวที่ปรารถนาที่สุดคือ ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ดังนั้นจึงตัดสินผละมาคุมทัพ แมนฯซิตี เมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา แน่นอนว่าเป้าหมายของ “เรือใบสีฟ้า” ก็คือถ้วยยุโรปเช่นเดียวกัน
กระนั้นก็ตาม เป๊ป ยอมรับว่า แมนฯซิตี นั้นยังห่างไกลจากตำแหน่งแชมป์ยุโรปสมัยแรกในประวัติศาสตร์สโมสร แม้ว่าผลงานจะออกสตาร์ทชนะ 10 เกมจาก 13 นัดรวมทุกรายการ อีกทั้งปีที่แล้วก็เข้าถึงรอบตัดเชือกก่อนแพ้ รีล มาดริด ประตูรวมแค่ 0-1 “ถ้าหากถามผมว่าพร้อมสำหรับถ้วยยุโรปแค่ไหน บอกได้เลยว่าเราไม่พร้อม”
แมนฯซิตี สะดุดในเกมยุโรปที่บุกเสมอ กลาสโกว์ เซลติก 3-3 ทำให้มี 4 แต้มตามหลัง บาร์เซโลนา ที่ชนะรวด นอกจากนี้ใน พรีเมียร์ ลีก ล่าสุดเล่นในถิ่น เอติฮัด สเตเดียม เมื่อวันที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมาวืด 2 จุดโทษเสมอ เอฟเวอร์ตัน 1-1 ก่อนหน้านี้ก็บุกพ่าย ท็อตแนม ฮ็อทสเปอร์ 0-2 จึงถูก อาร์เซนอล ขึ้นมาเท่ากัน 19 แต้มจาก 8 นัด
อย่างไรก็ตามเกมนี้ทุกคนมองว่า เป๊ป จะต้องมีวิธีรับมือกับ บาร์เซโลนา ที่ถูกยกย่องว่าเกมรุกนั้นไหลลื่นเปรียบเสมือนเครื่องจักรที่ถูกเซตระบบเอาไว้แล้ว นอกจากนี้ยังต้องเปิดตำราหยุด ลิโอเนล เมสซี แนวรุกอาร์เจนไตน์ เพราะก็เคยคลุกคลีเป็นเจ้านายลูกน้องกันมานานนม
เกมรุกของ แมนฯซิตี ภายใต้ยุคของ เป๊ป นั้นก็ถือว่าพอฟัดพอเหวี่ยงกับ บาร์เซโลนา โดยได้รับยกย่องเช่นนี้เกม พรีเมียร์ ลีก ที่บุกชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1-2 เมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา ภายใต้นักเตะทักษะสูงอย่าง เซร์คิโอ อกูเอโร, ราฮีม สเตอร์ลิง, ดาบิด ซิลบา, เควิน เดอ บรอยน์ และ เลรอย ซาเน รวมถึง โนลิโต ที่เพิ่งย้ายจาก เซลตา บีโก โดยเพลย์เมกเกอร์ไซส์เอสจะได้ปะทะทีมเก่า รวมถึง เคลาดิโอ บราโว มือกาวที่โยกมาเมื่อช่วงซัมเมอร์
ขณะที่ บาร์เซโลนา นั้นมารูปแบบเดิมที่เป็นเอกลักษณ์คือรุกเต็มสูบภายใต้แกนหลัก 3 ประสาน MSN ลิโอเนล เมสซี, หลุยส์ ซัวเรซ และ เนย์มาร์ นอกจากนี้ยังมีแข้งใหม่อย่าง 2 แนวรับฝรั่งเศส ลูคัส ดีญ กับ ซามูเอล อูมติตี รวมถึง อันเดร โกเมส มิดฟิลด์ทีมชาติโปรตุเกสชุดแชมป์ ยูโร 2016 โดยภารกิจของ หลุยส์ เอ็นริเก ฤดูกาลนี้คือคุมทวงแชมป์ยุโรปคืนมาจาก รีล มาดริด
มิหนำซ้ำเกมนี้ บาร์เซโลนา พร้อมเต็มสูบกับการที่ได้ เมสซี หายเจ็บลงมาเคาะสนิมแล้วเกมที่ยิง 1 ประตูช่วย บาร์ซาเปิดรัง คัมป์ นู ถล่ม เดปอร์ติโว ลา คอรุนญา 4-0 เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ตุลาคมที่ผ่านมา โดยขยับตามหลังจ่าฝูง แอตเลติโก มาดริด เหลือห่างแค่ 2 แต้มใน ลา ลีกา สเปน เมื่อพ้นโปรแกรม 8 นัด
แมตช์นี้ถือเป็นการประลองกำลังของทั้งสองทีมมากกว่า เพราะอย่างที่ทราบว่าเพิ่งต้นฤดูกาล ใครได้แชมป์กลุ่มก็ไม่เสียหายขอแค่ให้เข้ารอบเป็นเพียงพอ เนื่องจากศักยภาพรอบน็อคเอาต์ยังเหนือกว่าอีกหลายทีมและไม่แน่ว่า บาร์เซโลนา กับ แมนฯซิตี อาจจะไปเจอกันอีกทีมในนัดชิงเลยก็เป็นได้
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *