“ซ้อต่าย” กรุณา ชิดชอบ ขาใหญ่แห่ง บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โพสต์ข้อความเล่านิทานเรื่อง “ครอบครัวชาวนา” ถึงครอบครัวที่มีพ่อ แม่ และลูกชาย อีก 2 คน บอกลูกชายคนโตป่วย และทำทุกวิถีทางที่จะดูแลแล้ว
ไม่รู้ว่าอารมณ์ไหน แต่ “ซ้อต่าย” กรุณา ชิดชอบ ภรรยาของ เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด โพสต์ข้อความยาวเหยียดบอกเล่าเรื่องราวนิทาน “ครอบครัวชาวนา” อธิบายถึงครอบครัวหนึ่ง มีพ่อ แม่ และลูกชาย 2 คน กระทั่งวันหนึ่งลูกชายคนโตล้มป่วยต้องให้คนรองมาช่วยทำนา ทว่า ได้ผลผลิตไม่มากเหมือนพี่ชาย จึงเกิดการซุบซิบนินทาว่า ลำเอียง แต่ยืนยันดูแลความรู้สึกลูกชายคนโตเป็นอย่างดี
Repost from @beabitoey
#ครอบครัวชาวนา
ชาวนาครอบครัวหนึ่ง มีสมาชิกอยู่ 4 คน คือ พ่อ แม่ และลูกชายอีก 2 คน ลูกชายคนโตทำงานเก่งที่สุดในหมู่บ้าน จนได้รับเลือกให้เป็น #ชาวนาทีมจังหวัด ส่วนลูกคนรองถึงจะไม่เก่งเท่า แต่ก็เป็นคนมีความพยายาม และยินดีช่วยครอบครัวและพี่ชายอยู่เสมอ
...
วันหนึ่ง พี่ชายไม่สบาย ปวดหัวอย่างรุนแรง.. แม่จึงบอกให้พี่ชายไปพัก แล้วให้น้องชายไปทำงานแทน ...
#โชคร้าย... ข้างบ้านของบ้านหลังนี้มีเพื่อนบ้านจอมจุ้น เมื่อเห็นน้องชายทำนาไม่ได้ข้าวเยอะเหมือนพี่ชาย ก็ไปซุบซิบนินทากับเพื่อนบ้านหลังอื่นๆ บ้างก็ว่าแม่ลำเอียง คงตั้งใจยกที่นาทั้งหมดให้พี่ชาย บ้างก็ว่าแม่กำลังเทรนลูกคนเล็ก เอาไว้แต่งงานกับหลานสาวคนโปรดของแม่ บ้างก็หาว่า...แม่กำลังจะเฉดหัวพี่ชายออกจากกองมรดก
ทั้งๆ ที่ความจริง พ่อและแม่กำลังดูแลรักษาพี่ชายด้วยทุกๆ วิถีทางที่ดีที่สุด โดยระหว่างที่รักษา พ่อแม่ก็ไม่คิดจะป่าวประกาศให้คนนอกครอบครัวได้รับรู้ ก็เพื่อผลดีต่อตัวพี่ชายเอง เพราะพี่ชายมีดีกรีเป็นถึงชาวนาทีมจังหวัด ความเจ็บป่วยที่ติดตัวคงจะไม่เป็นผลดีต่อภาพลักษณ์ของพี่ชายเป็นแน่
...
อนิจจา... กลับกลายเป็นว่า หลายๆ วันที่เพื่อนบ้านไม่เห็นลูกชายคนโตมาทำนา ข่าวลือ ซุบซิบนินทา ก็ยิ่งรุนแรง ลูกชายคนเล็กคือผู้ที่ต้องมารับกรรมว่าทำนาไม่ได้เรื่อง ผลผลิต ข้าว รวงไม่สวยเหมือนพี่ชายทำ แม้ในบางครั้งอาจเกิดจากการที่น้ำไม่พอ หรือปุ๋ยไม่ถึง แต่ลูกชายคนเล็กกลับกลายเป็นผู้ต้องรับความผิดเสมอๆ ไอ้ครั้นจะไม่ทำนาก็ไม่ได้ จะเอาข้าวที่ไหนมากินมาขาย แต่พอทำแล้วไม่ดีเท่าพี่ชาย เพื่อนบ้านก็รุมด่ารุมประนาม ไอ้พี่ชายก็อยากช่วยน้อง บวกกับดีกรีความเก่งของตัวเอง ว่างๆ ก็มาช่วยน้องเกี่ยวข้าวบ้าง นับข้าวบ้าง งานเล็กๆ น้อยๆ แต่พอทำเสร็จก็ถูกหมอดุ ว่ายังไม่ถึงเวลาจะลงมาทำงาน ก็พักต่อกันไป
...
วันหนึ่ง... ณ ลานประชุมหมู่บ้าน ชาวนาคนพ่อตัดสินใจป่าวประกาศกลางวงชาวบ้านว่า "ลูกชายคนโตของข้ากำลังป่วย จึงไม่สามารถมาช่วยข้าทำนาได้" เพื่อหวังจะสยบทุกข่าวลือ ...
ฮัดช่า...! ได้ผลกับชาวบ้านส่วนใหญ่นะ เพราะคนส่วนใหญ่ก็มีวิจารณญาณและใจไม่มีอคติ ก็ เออออ... พ่อชาวนามีเหตุผล แต่ก็ยังไม่วาย มีชาวบ้านใจอคติบางคน ก็ยังไม่วายชงมาม่าด้วยคำถามอย่างเช่น ไม่เชื่อหรอก ข้ออ้างชัดๆ หรือตอแหลหรือเปล่า ป่วยมาตั้งนาน ทำไมเพิ่งมาบอกตอนนี้ ...
Repost from @beabitoey
แต่ก็แค่อยากบอกว่า คนบางคนก่อนจะว่า จะด่า จะวิจารณ์ใคร ทั้งหมดที่คุณลงทุนคือจิ้มคีย์บอร์ด แค่นั้น คุณไม่ได้ลงทุนอะไรเลย แม้แต่สมองก็ไม่ได้ใช้ซักนิด คิดบ้างมั้ยว่าทุกอย่างมีสองด้าน คุณไม่ได้ยืนอยู่ตรงนี้ ตรงที่ๆ เค้ายืน คุณคิดว่าที่คุณรู้นี่ทั้งหมดแล้วเหรอ??? ข่าวลือ คนวงใน??? #ฮัลโหลลล แน่ใจเหรอ?
คิดบ้างมั้ยว่าการที่คุณพ่นข้อความแย่ๆ ลงไปในโซเชียลอะ สิ่งที่คุณรู้มันเป็นเรื่องจริง คุณคะ... ไอ้สิ่งที่คุณกำลังด่าอยู่อะ ก็ "#คน" นะเว้ย คนเหมือนคุณเลย เค้ามีนะเว้ย หัวใจอะ มีความรู้สึก ใต้หัวอกเค้าแม่งก็หัวใจเหมือนคุณนั่นแหละ เจ็บได้ ร้องไห้เป็นนะเฮ้ย
>
#ฝากให้กลับไปคิดนะคะ คนบางคน เค้าสูญเสียอะไรไปมากกว่าที่คุณเสียเยอะค่ะ ลองคำนวณดูเล่นๆ ก็ได้ ถ้าว่าง บางคนเค้าต้องผ่าน ต้องเจอ ต้องเจ็บมากกว่าคุณมากมายจริงๆ แต่เค้าไม่ใช่ดารา ไม่ใช่ซุป'ตาร์ ที่จะมีไมค์โครโฟนมาจ่อปาก ให้พูด ให้อธิบาย เชื่อเหอะ... ชาวนาบ้านนี้อะ ตั้งแต่วันแรกๆ ที่ลูกคนโตป่วย เค้าทำทุกวิถีทางที่จะรักษา และเยียวยา ทั้งดูแลร่างกาย จิตใจ และคนรอบข้างของลูกคนโต มาหมดแล้ว เค้าเลี้ยงของเค้า เค้ารักของเค้า >
#ใจเขาใจเรานะคะ