เอเยนซี - ใกล้ทราบโฉมหน้าคู่ชิงศึกลูกหนังชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป ยูโร 2016 กันแล้ว โดยคู่ที่ 2 รอบรองชนะเลิศคืนวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม นี้ ตอนตี 2 ตามเวลาประเทศไทย ณ สต๊าด เวโลโดรม เมืองมาร์กเซย์ เป็นการพบกันระหว่าง เยอรมนี กับเจ้าภาพ ฝรั่งเศส
คู่นี้ถือเป็นการล้างตาของศึก เวิลด์ คัพ ปี 2014 รอบ 8 ทีมสุดท้าย ฝรั่งเศส ปราชัยแก่ เยอรมนี 0-1 จากการยิงของ มัตส์ ฮุมเมิลส์ ตั้งแต่ต้นเกม
ทั้งสองทีมยังมีประเด็นกันอีกต้องย้อนไปปี 1982 ที่ สเปน เป็นเจ้าภาพ โดยเจอกันรอบรองชนะเลิศเตะที่เมืองเซบีญา 90 นาที เสมอ 1-1 ก่อนที่ในช่วงต่อเวลาพิเศษจะยิงกันอีกรวม 4 ประตู เสมอ 3-3 ต้องตัดสินด้วยการดวลจุดโทษ ปรากฏว่า เยอรมนี ชนะ 5-4 ซึ่งก็มีอุบัติเหตุที่น่ากลัวเกิดขึ้น เมื่อ พาทริค บัตติสตอง ของ ฝรั่งเศส ถึงกับหมดสติพร้อมฟันที่หายไป 2 ซี่ รวมถึงซี่โครงหัก 3 ท่อน จากการชนกับ ฮารัลด์ ชูมัคเกอร์ ผู้รักษาประตูฝ่ายตรงข้าม
จากวันนั้นจนถึงวันนี้ ฟอร์มของ ฝรั่งเศส ดีวันดีคืน ภายใต้การคุมทัพของ ดิดเยร์ เดส์ชองป์ส กำลังล่าแชมป์สมัยที่ 3 ต่อจากปี 1984 กับ 2000 ซึ่ง “ตราไก่” มักทำผลงานได้ดีในการเป็นเจ้าภาพเสียด้วย ขณะที่ เยอรมนี นั้น ก็มีศักดิ์ศรีแชมป์โลก และกำลังล่าแชมป์ ยูโร สูงสุด ซึ่งถ้าทำได้จะเป็นสมัยที่ 4 เหนือใคร
มาเริ่มที่ ฝรั่งเศส รอบ 8 ทีมสุดท้าย เรียกความมั่นใจด้วยการถล่ม ไอซ์แลนด์ 5-2 แนวรุกยิงได้ถ้วนหน้าพร้อมส่งให้ อองตวน กรีซมันน์ จากค่าย แอตเลติโก มาดริด ขึ้นนำดาวซัลโวด้วยจำนวน 4 ประตู ตามด้วย ดิมิทรี เปเยต กับ โอลิวิเยร์ ชิรูด์ เท่ากันคนละ 3 ประตู
ชิรูด์ ฤดูกาลที่แล้วถูกสาวก อาร์เซนอล โจมตีพอสมควร โดยยิงไป 16 ประตูจาก 38 นัดบนเวที พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ แม้มีอาการเจ็บเข่าเล็กน้อย แต่น่าจะลงสนามได้ตอบแทนความไว้ใจของ เดส์ชองป์ส เพราะในฐานะตัวเป้าไม่มีใครโดดเด่นเกิน ที่เหลือก็มี อังเดร-ปิแอร์ ฌิฌัก ขณะที่ อองโตนีย์ มาร์กซิอาล กับ คิงส์ลีย์ โคมอง เหมาะที่จะปั่นป่วนริมเส้นมากกว่า
มิหนำซ้ำ เกมนี้ ฝรั่งเศส จะได้ เอดิล รามี เซนเตอร์ฮาล์ฟ กับ เอ็น'โกโล ก็องเต มิดฟิลด์ คืนทัพหลังติดโทษแบนนัดที่ชนะ ไอซ์แลนด์ ดังนั้น จะกลับมาใช้ระบบ 4-3-3 ที่ถนัด แผงกองกลางจะอัดอีก 2 คนไปช่วยตัดเกม เยอรมนี คือ พอล ป๊อกบา กับ แบลส มาตุยดี
ทางด้าน เยอรมนี รอบ 8 ทีมสุดท้ายนั้น น้ำลายเหนียวคอก่อนจะชนะจุดโทษ อิตาลี 6-5 โดยต้องยิงกันถึง 18 คน หลังจาก 120 นาที เสมอ 1-1 ซึ่งก็ยังคงแสดงให้เห็นถึงความเขี้ยว แม้ว่าน่าจะปิดบัญชีคู่แข่งได้แต่เนิ่น ๆ แล้ว ซึ่งคนที่ได้รับคำชมไม่น้อยหนีไม่พ้น มานูเอล นอยเออร์ จอมหนึบจาก บาเยิร์น มิวนิก
โยอาคิม เลิฟ กุนซือ เยอรมัน ทราบดีหลังจากชนะ อิตาลี ว่า เกมรอบตัดเชือกต้องปรับทัพวุ่น ไล่ตั้งแต่หลังบ้านที่ไม่มี ฮุมเมิลส์ กองหลังคนสำคัญที่ติดโทษแบน เบเนดิกต์ โฮเวเดส จะเป็นตัวเลือกแรกในการยืนคู่กับ เฌโรม บัวเต็ง หรือไม่ก็ ชโคดราน มุสตาฟี ขณะที่แบ็ก 2 ข้างไม่มีปัญหาขวาเป็น โจชัว คิมมิช และซ้าย โจนาส เฮคตอร์
เกมนี้ เยอรมนี จะใช้ระบบ 4-2-3-1 หลังเกมชนะ อิตาลี ปรับใช้ 3-5-2 ขยับขึ้นมากองกลางไร้ ซามี เคห์ดิรา กับ บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ 2 ตัวเก๋าที่เจ็บต้นขากับเข่าตามลำดับ ทำให้คาดว่า เอ็มเร ชาน หรือ ชูเลียน ไวเกิล จะยืนคู่กับ โทนี โครส หน้าแผงแบ็กโฟร์
สุดท้ายคือกองหน้า มาริโอ โกเมซ เจ็บลงไม่ได้ ทางด้าน มาริโอ เกิตเซ ฮีโร่จากนัดชิง เวิลด์ คัพ ปี 2014 ที่ต่อเวลาชนะ อาร์เจนตินา 1-0 จะหายเจ็บคืนทัพยืนเป็นแนวรุกร่วมกับ โทมัส มุลเลอร์ ที่ ยูโร หนนี้ยังควานหาสกอร์ไม่เจอ ทั้งที่เมื่อ 2 ปีก่อนที่ทีมเป็นแชมป์โลกซัดไปถึง 5 ลูก แถมเป็นหนึ่งเพชฌฆาตที่พลาดจุดโทษเกมชนะ อิตาลี
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *