คอลัมน์ “TIMEOUT” โดย “ชมณัฐ”
ตลาดซื้อขายนักเตะเลกสอง ของศึก โตโยต้า ไทย ลีก 2016 กำลังคึกคักอย่างมาก ซึ่งนอกจากเหล่าบิ๊กทีมที่ทุ่มทุนกวาดแข้งมากดีกรีเข้ารังแล้ว ยังมีทีมระดับกลางอย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เสริมทัพได้เข้าตาและถูกใจแฟนบอล โดยเฉพาะการคว้า 2 แข้งทีมชาติไทย อย่าง มงคล ทศไกร และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
เชียงราย เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร เมื่อปี 2011 ภายใต้การนำของ “ฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร ซึ่งเป็นทายาทคนโตของ ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา โดยฤดูกาลแรกในเวทีไทยลีก “กว่างโซ้งมหาภัย” จบด้วยอันดับ 10 ของตาราง
จากนั้นยังสามารถทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง จบฤดูกาลที่อันดับกลางตารางไม่ต้องลุ้นหนีตกชั้น ไล่ตั้งแต่ ปี 2012 จบที่ 9, ปี 2013 จบที่ 11 ปี 2014 จบที่ 7 และ ปี 2015 จบที่ 9 ปัจจุบันฤดูกาล 2016 ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ลงแข่งไปแล้ว 15 นัด ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 4 มี 27 คะแนน รั้งอันดับ 5 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 12 คะแนน
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เชียงราย ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเสริมตัวผู้เล่นมากนัก งบประมาณส่วนใหญ่หมดไปกับการจัดการและพัฒนาหลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรังเหย้าแห่งใหม่ในชื่อ ยูไนเต็ด สเตเดียม ที่มีความจุ 15,000 คน หรือการทำอะคาเดมี
หลังจากทุกอย่างเริ่มเข้าที่ ผลงานติดลมบน ในฤดูกาลนี้ เชียงราย เริ่มที่จะขยับขยายในส่วนของตัวผู้เล่นที่มีดีกรีมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนเปิดซีซันได้สตาร์มีชื่ออย่าง ฮิโรโนริ ซารูตะ ปีกชาวญี่ปุ่นที่โลดแล่นในเมืองไทยมาอย่างโชกโชน, ปิยพล ผานิชกุล แบ็กขวาจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ เดนนิส มูริลโล ศูนย์หน้าที่อิมพอร์ตมาจากบราซิล โดยปัจจุบันทำไปแล้ว 5 ประตู
ส่วนเลกสองที่ตลาดยังไม่วายนั้น “กว่างโซ้ง” กวาดมาแล้วถึง 5 ราย นำโดยสองแข้งทีมชาติไทยที่ถูกใจแฟนบอลยิ่งนัก คือ มงคล ทศไกร ปีกขวาจาก อาร์มี่ ยูไนเต็ด และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์จากเอสซีจี เมืองทองฯ นอกจากนี้ ยังมีดาวรุ่งฟอร์มแรงอย่าง บดินทร์ ผาลา แนวรุกจากบางกอกกล๊าส เอฟซี และ วันเฉลิม ยิ่งยง กองกลางจากชัยนาท ฮอร์นบิล ส่วนโควตาต่างชาติดึง มาร์ค บริดจ์ กองหน้าวัยเก๋าดีกรีทีมชาติออสเตรเลีย ชุดใหญ่ จากเวสเทิร์น ซิดนีย์ วันเดอร์เรอร์ส ใน เอ-ลีก เข้ามาเติมเต็ม
ขณะที่ขุมกำลังอื่น ๆ ในทีม ยังประกอบด้วย อดีตนักเตะทีมชาติไทย ที่เล่นร่วมกันมาหลายฤดูกาลช่วยประคอง ไม่ว่าจะเป็น “กัปตันแป๊ะ” พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, เกียรติประวุฒิ สายแวว, อานนท์ สังสระน้อย หรืออาทิตย์ สุนทรพิธ ส่งให้ในทีมตอนนี้เกิดความลงตัวเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม หรือการคว้าแชมป์ของเชียงราย อาจจะยังไม่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ เนื่องจากในฟุตบอลถ้วยที่เป็นความหวังนั้นปัจจุบันจอดป้ายไปแล้ว 1 รายการ เหลือเพียง เอฟเอ คัพ ส่วน ไทย ลีก ต้องยอมรับว่า ยังอีกห่างไกลในการจะผ่านด่านเสือสิงห์ผงาดขึ้นสู่ยอดสูงสุดได้ เป้าสูงสุดตอนนี้คงเหลือเพียงการลุ้นสร้างเซอร์ไพรส์ติดโควตาลุยศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ซีซันหน้าเท่านั้น
แต่เชื่อเหอะว่า การที่สโมสรมีพัฒนาการที่ดีต่อเนื่องแบบนี้ ทำให้แฟนคลับกระชุ่มกระชวย เดินยิ้มกันทั่วจังหวัด ต่างจากอีกหลายทีมที่เหมือนจะถอยหลังลงคลองจนกองเชียร์เริ่มเอือม
ตลาดซื้อขายนักเตะเลกสอง ของศึก โตโยต้า ไทย ลีก 2016 กำลังคึกคักอย่างมาก ซึ่งนอกจากเหล่าบิ๊กทีมที่ทุ่มทุนกวาดแข้งมากดีกรีเข้ารังแล้ว ยังมีทีมระดับกลางอย่าง เชียงราย ยูไนเต็ด ที่เสริมทัพได้เข้าตาและถูกใจแฟนบอล โดยเฉพาะการคว้า 2 แข้งทีมชาติไทย อย่าง มงคล ทศไกร และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์
เชียงราย เลื่อนชั้นสู่ลีกสูงสุดเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์สโมสร เมื่อปี 2011 ภายใต้การนำของ “ฮั่น” มิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสร ซึ่งเป็นทายาทคนโตของ ยงยุทธ ติยะไพรัช อดีตประธานรัฐสภา โดยฤดูกาลแรกในเวทีไทยลีก “กว่างโซ้งมหาภัย” จบด้วยอันดับ 10 ของตาราง
จากนั้นยังสามารถทำผลงานได้ดีต่อเนื่อง จบฤดูกาลที่อันดับกลางตารางไม่ต้องลุ้นหนีตกชั้น ไล่ตั้งแต่ ปี 2012 จบที่ 9, ปี 2013 จบที่ 11 ปี 2014 จบที่ 7 และ ปี 2015 จบที่ 9 ปัจจุบันฤดูกาล 2016 ภายใต้การคุมทีมของ “โค้ชโจ” ธีระศักดิ์ โพธิ์อ้น ลงแข่งไปแล้ว 15 นัด ชนะ 8 เสมอ 3 แพ้ 4 มี 27 คะแนน รั้งอันดับ 5 ของตาราง ตามหลังจ่าฝูง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด 12 คะแนน
ซึ่งตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เชียงราย ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับการเสริมตัวผู้เล่นมากนัก งบประมาณส่วนใหญ่หมดไปกับการจัดการและพัฒนาหลังบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการสร้างรังเหย้าแห่งใหม่ในชื่อ ยูไนเต็ด สเตเดียม ที่มีความจุ 15,000 คน หรือการทำอะคาเดมี
หลังจากทุกอย่างเริ่มเข้าที่ ผลงานติดลมบน ในฤดูกาลนี้ เชียงราย เริ่มที่จะขยับขยายในส่วนของตัวผู้เล่นที่มีดีกรีมากขึ้นกว่าเดิม ก่อนเปิดซีซันได้สตาร์มีชื่ออย่าง ฮิโรโนริ ซารูตะ ปีกชาวญี่ปุ่นที่โลดแล่นในเมืองไทยมาอย่างโชกโชน, ปิยพล ผานิชกุล แบ็กขวาจาก เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด และ เดนนิส มูริลโล ศูนย์หน้าที่อิมพอร์ตมาจากบราซิล โดยปัจจุบันทำไปแล้ว 5 ประตู
ส่วนเลกสองที่ตลาดยังไม่วายนั้น “กว่างโซ้ง” กวาดมาแล้วถึง 5 ราย นำโดยสองแข้งทีมชาติไทยที่ถูกใจแฟนบอลยิ่งนัก คือ มงคล ทศไกร ปีกขวาจาก อาร์มี่ ยูไนเต็ด และ ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ มิดฟิลด์จากเอสซีจี เมืองทองฯ นอกจากนี้ ยังมีดาวรุ่งฟอร์มแรงอย่าง บดินทร์ ผาลา แนวรุกจากบางกอกกล๊าส เอฟซี และ วันเฉลิม ยิ่งยง กองกลางจากชัยนาท ฮอร์นบิล ส่วนโควตาต่างชาติดึง มาร์ค บริดจ์ กองหน้าวัยเก๋าดีกรีทีมชาติออสเตรเลีย ชุดใหญ่ จากเวสเทิร์น ซิดนีย์ วันเดอร์เรอร์ส ใน เอ-ลีก เข้ามาเติมเต็ม
ขณะที่ขุมกำลังอื่น ๆ ในทีม ยังประกอบด้วย อดีตนักเตะทีมชาติไทย ที่เล่นร่วมกันมาหลายฤดูกาลช่วยประคอง ไม่ว่าจะเป็น “กัปตันแป๊ะ” พิชิตพงษ์ เฉยฉิว, เกียรติประวุฒิ สายแวว, อานนท์ สังสระน้อย หรืออาทิตย์ สุนทรพิธ ส่งให้ในทีมตอนนี้เกิดความลงตัวเป็นอย่างมาก
อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จที่เป็นรูปธรรม หรือการคว้าแชมป์ของเชียงราย อาจจะยังไม่เกิดขึ้นในฤดูกาลนี้ เนื่องจากในฟุตบอลถ้วยที่เป็นความหวังนั้นปัจจุบันจอดป้ายไปแล้ว 1 รายการ เหลือเพียง เอฟเอ คัพ ส่วน ไทย ลีก ต้องยอมรับว่า ยังอีกห่างไกลในการจะผ่านด่านเสือสิงห์ผงาดขึ้นสู่ยอดสูงสุดได้ เป้าสูงสุดตอนนี้คงเหลือเพียงการลุ้นสร้างเซอร์ไพรส์ติดโควตาลุยศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ซีซันหน้าเท่านั้น
แต่เชื่อเหอะว่า การที่สโมสรมีพัฒนาการที่ดีต่อเนื่องแบบนี้ ทำให้แฟนคลับกระชุ่มกระชวย เดินยิ้มกันทั่วจังหวัด ต่างจากอีกหลายทีมที่เหมือนจะถอยหลังลงคลองจนกองเชียร์เริ่มเอือม