“ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือทีมชาติไทย ถวายแชมป์ คิงส์ คัพ แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พร้อมลั่นท้าชนทุกในศีก ฟุตบอลโลก รอบคัดเลือก 12 ทีมสุดท้าย ชี้ยังมีสิ่งต้องปรับ
ทัพ “ช้างศึก” ทีมชาติไทย ได้ “เจ้าก้อง” เกริกฤทธิ์ ทวีกาญจน์ เบิ้ลสองประตูในครึ่งหลัง เอาชนะ ทีมชาติจอร์แดน 2-0 คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงถ้วยพระราชทาน คิงส์ คัพ ครั้งที่ 44 มาครองได้สำเร็จ หลังห่างเหินไปนานถึง 9 ปี โดยนับเป็นโทรฟีสมัยที่ 14
หลังจบเกม “ซิโก้” เกียรติศักดิ์ เสนาเมือง กุนซือช้างศึก กล่าวหลังคว้าแชมป์ ว่า ต้องขอบคุณทุกคน เกมแรกเกมรับมีผิดพลาดบ้าง แต่ทุกคนก็พยายามแก้ไข เราพยายามศึกษาข้อมูลของจอร์แดนว่าจะเล่นอย่างไร ต้องขอบคุณ 2 ประตู ที่ทุกคนช่วยสื่อสารการเล่นร่วมกัน ซึ่งเป็นไปตามเป้าหมายที่จะคว้าแชมป์ถวายพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ให้หายจากอาการพระประชวร”
“ในศึกฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือกโซนเอเชีย รอบ 12 ทีม เรามีเวลาอีก 3 เดือน เรารู้ว่า แรงกิ้งเราด้อยสุด เราไม่ได้บอกว่าจะเก็บ 3 แต้มทุกเกม แต่เราพร้อมจะสู้กับทุกทีมที่มองข้ามและประมาททีมชาติไทย สิ่งที่ต้องปรับปรุง คือ เรื่องเซฟและการเล่นที่ไม่ค่อยไหลลื่น ไม่ง่ายเหมือนการเล่นกับทีมในอาเซียน ต้องเจอแรงเสียดทานที่หนัก”
พร้อมกันนี้ “ซิโก้” ทิ้งท้ายว่า วันที่ 6 มิถุนายน เวลา 10.00 น. ตนพร้อมลูกทีมจะเดินทางไปลงนามถวายพระพร พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ณ ศาลาสหทัยสมาคม ในพระบรมมหาราชวัง
ด้าน อับดัลลาห์ เซมา เฮดโค้ชผู้มาเยือน กล่าวว่า รู้สึกผิดหวังเล็กน้อย ทุกทีมที่มาแข่งต้องการแชมป์อยู่แล้ว ต้องขอชมทีมชาติไทยที่ทำผลงานได้ยอดเยี่ยม พร้อมตอบคำถามเปรียบเทียบกับ ทีมชาติออสเตรเลีย คู่แข่งของ “ช้างศึก” ในการคัดฟุตบอลโลก รอบ 12 ทีม ซึ่งตนเคยปะทะมาว่า ถ้าเล่นในประเทศไทย ทีมชาติไทยมีโอกาสที่จะเอาชนะได้ด้วยปัจจัยหลาย ๆ อย่าง ซึ่งออสเตรเลียเวลาที่เล่นในบ้านและนอกบ้านมีความแข็งแกร่งต่างกัน
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
