xs
xsm
sm
md
lg

สเปนปะทะพลัง!! ชิง แชมเปียนส์ ลีก “โด้” ฟิตเจาะตาข่าย “หมี”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

โด้ เจ็บเล็กน้อยก่อนนัดชิง
เอเยนซี - ศึก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาล 2015-16 ดำเนินมาถึงรอบชิงชนะเลิศ ซึ่งจะมีขึ้นวันเสาร์ที่ 28 พฤษภาคมนี้ตอน 01.45น.ตามเวลาไทย ณ ซาน ซิโร สเตเดียม กรุงมิลาน ประเทศอิตาลี โดยเป็นการทำศึกสายเลือดแห่งสเปนของ 2 สโมสรร่วมเมือง รีล มาดริด ปะทะ แอตเลติโก มาดริด ที่ห่างกันแค่ 7.2 ไมล์หรือขับรถเพียง 20 นาทีเท่านั้น

ถือเป็นการพบกันของทั้งคู่ในรอบชิงรายการนี้หนที่ 2 รอบ 3 ปี โดยย้อนไปปี 2014 เชื่อว่าหลายคนน่าจะยังจำเหตุการณ์ดรามาวันนั้นได้เป็นอย่างดี แอต มาดริด ตรึงสกอร์ที่นำอยู่ตั้งแต่นาที 36 จากการยิงของ ดิเอโก โกดิน จนกระทั่งทดเวลาดเจ็บนาที 90+3 มาถูก เซร์คิโอ รามอส ซัดตีเสมอจากนั้นช่วงต่อเวลาพิเศษ รีล มาดริด เรียงหน้ายิงชนะไปในที่สุด 4-1 จาก แกเร็ธ เบล, มาร์เซโล และจุดโทษของ คริสเตียโน โรนัลโด เถลิงแชมป์ยุโรปสมัยที่ 10 สิ้นสุดการรอคอย 12 ปี ขณะที่ “ตราหมี” ยังไม่เคยได้ถ้วยใบนี้ชิง 2 ครั้งแพ้รวดก่อนหน้านี้ย้อนไปปี 1974

ต้องชม แอต มาดริด ภายใต้การคุมทัพของ ดิเอโก ซิเมโอเน ที่ยืนระยะบดบี้กับ รีล มาดริด รวมถึง บาร์เซโลนา 2 มหาอำนาจลูกหนังสเปน พร้อมแย่งแชมป์ลีกมาครองได้ฤดูกาล 2013-14 ส่วนปีนี้ถือว่าน่าเสียดายมากมาหลุดในนัดรองสุดท้ายบุกพ่าย เลบานเต 1-2 ปล่อยให้ บาร์ซา เข้าป้ายเฉือนไปแค่ 3 แต้ม

แถมปีนี้ในถ้วยยุโรป แอต มาดริด ฝ่าด่านหินเริ่มตั้งแต่รอบ 8 ทีมสุดท้ายอัดแชมป์เก่า บาร์เซโลนา รวม 2 นัด 3-2 ตามด้วยเสมอ บาเยิร์น มิวนิค 2-2 รวม 2 นัดเข้าสู่รอบชิงโดยอาศัยอะเวย์โกล ส่วน รีล มาดริด งานยากสุดเห็นจะมีก็แค่รอบตัดเชือกที่ชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี หืดจับ 2 นัดเชือด 1-0

ฤดูกาลนี้เจอกันใน ลา ลีกา สเปน 2 นัด แอต มาดริด เสมอในบ้าน 1-1 ก่อนบุกชนะ 1-0 ระยะหลัง “ตราหมี” มักทำผลงานได้ดีกว่ายามเจอกันในลีก แต่ถ้าเป็นถ้วยยุโรป รีล มาดริด ไม่ยอมให้ใครมาลูบคมง่ายๆ โดยฤดูกาล 2014-15 ก็เจอกันรอบ 8 ทีมสุดท้ายรวม 2 นัด “ชุดขาว” เฉือนชนะ 1-0

สำหรับรูปเกมนั้นเดาไม่ยาก รีล มาดริด ต้องเป็นฝ่ายบุกใส่ตามสไตล์ ขณะที่ แอต มาดริด เน้นแท็กติกล้วนๆ เกมรับเหนียวแน่นคอยสวนกลับรวมถึงอาศัยพังประตูจากลูกเซตพีซ ซึ่งตรงจุดนี้ ซีเนอดีน ซีดาน กุนซือที่มาคุมทัพ “ชุดขาว” ต้องตีโจทย์ให้แตก หลังเพิ่งเข้ามาคุมทัพเมื่อต้นปี 2016 ที่ผ่านมา ประสบการณ์ยังคงไม่มากนักเมื่อเทียบกับ ซิเมโอเน แต่ผลงานก็ไม่ธรรมดา 26 นัดรวมทุกรายการชนะ 21 แพ้ 2 นัด แต่หากทำสำเร็จก็จะเป็นแชมป์ในฐานะโค้ชต่อจากได้ถ้วยใบนี้เมื่อปี 2002 สมัยเล่นในถิ่น ซานติอาโก เบร์นาบิว

แน่นอนว่า รีล มาดริด ต้องฝากความหวังเอาไว้ที่ คริสเตียโน โรนัลโด แนวรุกที่มีอาการบาดเจ็บต้นขาซ้ายขณะฝึกซ้อมชนกับเพื่อนร่วมค่าย ซึ่งความฟิตกำลังคืนมาตามลำดับ แต่คงไม่ถึงร้อยเปอร์เซนต์เมื่อนัดชิงมาเยือน ทว่าคงต้องเข็นลง โดยส่วนตัวลุ้นทำลายสถิติ 17 ประตูที่ทำเอาไว้ฤดูกาล 2013-14 ปีนี้ยิงไปแล้ว 16 ประตู ดูแล้วน่าเป็นห่วงเพราะจากนี้มีศึก ยูโร 2016 รออยู่กับทีมชาติโปรตุเกสด้วย

ขณะที่ แอต มาดริด ก็มีตัวอันตรายอย่าง อองตวน กรีซมันน์ ตัวรุกทีมชาติฝรั่งเศส ที่มีจังหวะสวนกลับน่ากลัวปีนี้สอยในถ้วยยุโรปไปแล้ว 7 ประตู รวมถึงหอกตัวเก๋าอย่าง เฟร์นานโด ตอร์เรส ที่ รีล มาดริด จะประมาทไม่ได้แม้ตัวเลขผลิตสกอร์ไม่เตะตาคือประตูเดียวจาก 11 นัด

ส่วนกองกลางก็เป็นการเชือดเฉือนกันระหว่าง โกเก, กาบี และ ซาอูล นิเกซ ของ แอต มาดริด ที่ครบเครื่องทั้งลูกสด เก๋า และความหนัก ส่วนของ รีล มาดริด นั้นมี โทนี โครส, ลูกา โมดริช กับ แกเร็ธ เบล ที่เหมือนจะเน้นเรื่องการปั้นเกมมาก่อนเป็นลำดับแรกและปล่อยหน้าที่ตัดเกมให้ คาเซมิโร

สภาพความพร้อมอื่นๆ แอต มาดริด ไม่มีปัญหาการจัดทัพ ดิเอโก โกดิน ปราการหลังคนสำคัญกลับมาฟิตสมบูรณ์แล้ว ส่วน รีล มาดริด นั้นไร้ ราฟาเอล วาราน แนวรับทีมชาติฝรั่งเศสที่เจ็บยาว แต่หน้าที่เซนเตอร์ฮาล์ฟไม่ต้องห่วงเป็นของ รามอส กับ เปเป ที่ถือว่าค่อนข้างเข้าขารู้ใจมีลูกหนักหน่วง
ซีดาน ลุ้นแชมป์รายการใหญ่
ตอร์เรส (ขวา) ตัวเก๋าที่ประมาทไม่ได้
กรีซมันน์ แนวรุก “ตราหมี”
ซิเมโอเน กุนซือจอมแท็กติก
ถ้วยจะไปอยู่ฝั่งไหนของกรุงมาดริด

กำลังโหลดความคิดเห็น