คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
ภายหลังการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงโอลิมปิก 2016 รอบคัดเลือก ที่ประเทศญี่ปุ่น ทีมชาติไทย จบการแข่งขันรายการนี้ด้วยอันดับที่ 5 พลาดตั๋วร่วมวงในรอบสุดท้ายที่บราซิล แม้จะมีดราม่าเรื่องการโกงในเกมที่แพ้เจ้าภาพอย่างน่ากังขา 2-3 เซต จากการโดนใบแดงแรกในชีวิตของ "โค้ชอ๊อต" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร พร้อมกับการยก 2 แต้มทองคำให้กับคู่แข่ง จากการทำหน้าที่ของ หลุยส์ เคราร์โด มาซีอัส ผู้ตัดสินชาวเม็กซิโก ที่คนไทยจะไม่มีวันลืมไปได้เลย ซึ่งปัญหาน่าจะมาจากการทำงานของ แท็บเล็ต ที่ถูกนำมาใช้สำหรับขอชาเลนจ์ และเปลี่ยนตัวผู้เล่นนั่นเอง
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิจารณ์กันไปทั่วโลก เพราะเห็นได้ชัดว่าทีมไทยถือแต้มต่อเมื่อนำอยู่ในเซตสุดท้าย แต่กลับกลายเป็นว่าโดนเล่ห์กลทำให้เสียกระบวนจากเทคโนโลยีที่ยังไม่เสถียร ส่งผลให้เกิดคราบน้ำตาจากนักกีฬาและกองเชียร์ในท้ายที่สุด โดย "บิ๊กติ๋ม" เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ ตอนแรกก็ออกตัวแรงขอลาออกจากการทำหน้าที่ในบอร์ดสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ เนื่องจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ "เอฟไอวีบี" ออกมาโจมตีว่าทีมลูกยางจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไร้ซึ่งวินัยจนส่งผลถึงแพ้ และชวดตั๋วโอลิมปิก แต่ไม่นานก็ออกมาให้ข่าวว่าจริงๆ ไม่ใช่ไม่พอใจองค์กรใหญ่ลูกยางโลก เพียงแต่มีปัญหาสุขภาพ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น และไม่ได้ต้องการเดินทางไปทำหน้าที่ในต่างประเทศ
ถ้าออกมารูปนี้ คงเป็นเพราะสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยเองก็คงไม่อยากมีปัญหากับ "เอฟไอวีบี" โดยตรง เพราะหากออกอาการมากเกินไปอาจกลายเป็นความขัดแย้งบานปลาย รวมถึงอาจส่งผลเสียและถูกเพ่งเล็งจากองค์กรลูกยางโลกในอนาคตไปด้วย ก็ลองคิดดูแค่ผู้ตัดสินคนเดียวยังเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ขนาดสะเทือนเลื่อนลั่นจนเราชวดตั๋วโอลิมปิก หากไฟต์กับทั้งองค์กรอาจเสียหายกว่านี้หลายเท่านัก
อีกเรื่องที่มีการพูดถึงกันเยอะคืออายุของนักกีฬาวอลเลย์บอลหลายรายที่เริ่มมากขึ้น วรรณา บัวแก้ว อายุ 35 ปี คงยากที่จะอยู่ไปจนถึงคัดโอลิมปิกครั้งหน้า เช่นเดียวกับ "กิ๊ฟ" วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ ที่อายุ 32 ปี ที่เจ้าตัวยังยอมรับว่าอยากอยู่กับทีมชาติต่อไป แต่อีก 4 ปีก็อายุปาไป 36 ปี ยังไม่แน่ใจว่าสภาพร่างกายตอนนั้นเป็นอย่างไร ในส่วนของ "นิ้งหน่อง" ปลื้มจิตร์ ถินขาว กัปตันคนล่าสุดอายุก็ 33 ปีแล้ว อยู่ถึงโอลิมปิกคราหน้าก็ 37 ปีบริบูรณ์ จะไหวไหม เจ้าตัวนะใจสู้ แต่ร่างกายคงไม่พร้อมสำหรับการเป็นตัวหลักแน่ เลยมองไปถึงการก้าวเป็นโค้ชกันแล้ว เมื่อไปในฐานะผู้เล่นไม่ได้ เราอาจได้เห็น "กิ๊ฟ" หรือ "หน่อง" ไปยืนทำหน้าเครียดสั่งลูกทีมอยู่ขอบสนามก็เป็นได้
แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะไปในฐานะโค้ช ก็ต้องมีผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบเสียก่อน ซึ่งนักกีฬาที่จะก้าวมาแทน ลองไล่เรียงกันดูว่ามีใครบ้าง และคงหนีไม่พ้นเหล่าบรรดาเด็กสาววัยใสภายใต้การดูแลของ "โค้ชอ๊อต" ที่ประกอบด้วย "เพียว" อัจฉราพร คงยศ วัย 21 ปี, "บุ๋มบิ๋ม" ชัชชุอร โมกศรี วัย 16 ปี, "บีม" พิมพิชยา ก๊กรัมย์ วัย 18 ปี ก้าวมาเป็นกำลังหลัก ผสมผสานกับ "แนน" ทัดดาว นึกแจ้ง วัย 22 ปี, "เตย" หัตถยา บำรุงสุข วัย 23 ปี และ "ชมพู่" พรพรรณ เกิดปราชญ์ วัย 23 ปี ที่ท็อปฟอร์มมากในศึกคัดโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา หลังโค้ชส่งมาเป็นตัวทีเด็ดในการเซตแทนที่ นุศรา ต้อมคำ มือเซตซูเปอร์สตาร์วัย 31 ปี ได้แบบเนียนตาดีเหลือเกิน
และคนที่จะนำทัพในฐานะพี่ใหญ่ของรุ่นน้องคงหนีไม่พ้น “แป้น” ปิยะนุช แป้นน้อย ที่ตอนนี้อายุ 27 ปี รออีก 4 ปีก็คง 31 ปีพอดี เสียดายนิดเดียวตำแหน่งลิเบอร์โร่ไม่สามารถเป็นกัปตันทีมได้นี่แหละ...
ภายหลังการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงโอลิมปิก 2016 รอบคัดเลือก ที่ประเทศญี่ปุ่น ทีมชาติไทย จบการแข่งขันรายการนี้ด้วยอันดับที่ 5 พลาดตั๋วร่วมวงในรอบสุดท้ายที่บราซิล แม้จะมีดราม่าเรื่องการโกงในเกมที่แพ้เจ้าภาพอย่างน่ากังขา 2-3 เซต จากการโดนใบแดงแรกในชีวิตของ "โค้ชอ๊อต" เกียรติพงษ์ รัชตเกรียงไกร พร้อมกับการยก 2 แต้มทองคำให้กับคู่แข่ง จากการทำหน้าที่ของ หลุยส์ เคราร์โด มาซีอัส ผู้ตัดสินชาวเม็กซิโก ที่คนไทยจะไม่มีวันลืมไปได้เลย ซึ่งปัญหาน่าจะมาจากการทำงานของ แท็บเล็ต ที่ถูกนำมาใช้สำหรับขอชาเลนจ์ และเปลี่ยนตัวผู้เล่นนั่นเอง
เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องที่ถูกวิจารณ์กันไปทั่วโลก เพราะเห็นได้ชัดว่าทีมไทยถือแต้มต่อเมื่อนำอยู่ในเซตสุดท้าย แต่กลับกลายเป็นว่าโดนเล่ห์กลทำให้เสียกระบวนจากเทคโนโลยีที่ยังไม่เสถียร ส่งผลให้เกิดคราบน้ำตาจากนักกีฬาและกองเชียร์ในท้ายที่สุด โดย "บิ๊กติ๋ม" เรืออากาศโท ชาญฤทธิ์ วงษ์ประเสริฐ ตอนแรกก็ออกตัวแรงขอลาออกจากการทำหน้าที่ในบอร์ดสหพันธ์วอลเลย์บอลนานาชาติ เนื่องจากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการของ "เอฟไอวีบี" ออกมาโจมตีว่าทีมลูกยางจากลุ่มน้ำเจ้าพระยา ไร้ซึ่งวินัยจนส่งผลถึงแพ้ และชวดตั๋วโอลิมปิก แต่ไม่นานก็ออกมาให้ข่าวว่าจริงๆ ไม่ใช่ไม่พอใจองค์กรใหญ่ลูกยางโลก เพียงแต่มีปัญหาสุขภาพ เนื่องจากอายุที่มากขึ้น และไม่ได้ต้องการเดินทางไปทำหน้าที่ในต่างประเทศ
ถ้าออกมารูปนี้ คงเป็นเพราะสมาคมวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทยเองก็คงไม่อยากมีปัญหากับ "เอฟไอวีบี" โดยตรง เพราะหากออกอาการมากเกินไปอาจกลายเป็นความขัดแย้งบานปลาย รวมถึงอาจส่งผลเสียและถูกเพ่งเล็งจากองค์กรลูกยางโลกในอนาคตไปด้วย ก็ลองคิดดูแค่ผู้ตัดสินคนเดียวยังเปลี่ยนผลการแข่งขันได้ขนาดสะเทือนเลื่อนลั่นจนเราชวดตั๋วโอลิมปิก หากไฟต์กับทั้งองค์กรอาจเสียหายกว่านี้หลายเท่านัก
อีกเรื่องที่มีการพูดถึงกันเยอะคืออายุของนักกีฬาวอลเลย์บอลหลายรายที่เริ่มมากขึ้น วรรณา บัวแก้ว อายุ 35 ปี คงยากที่จะอยู่ไปจนถึงคัดโอลิมปิกครั้งหน้า เช่นเดียวกับ "กิ๊ฟ" วิลาวัณย์ อภิญญาพงศ์ ที่อายุ 32 ปี ที่เจ้าตัวยังยอมรับว่าอยากอยู่กับทีมชาติต่อไป แต่อีก 4 ปีก็อายุปาไป 36 ปี ยังไม่แน่ใจว่าสภาพร่างกายตอนนั้นเป็นอย่างไร ในส่วนของ "นิ้งหน่อง" ปลื้มจิตร์ ถินขาว กัปตันคนล่าสุดอายุก็ 33 ปีแล้ว อยู่ถึงโอลิมปิกคราหน้าก็ 37 ปีบริบูรณ์ จะไหวไหม เจ้าตัวนะใจสู้ แต่ร่างกายคงไม่พร้อมสำหรับการเป็นตัวหลักแน่ เลยมองไปถึงการก้าวเป็นโค้ชกันแล้ว เมื่อไปในฐานะผู้เล่นไม่ได้ เราอาจได้เห็น "กิ๊ฟ" หรือ "หน่อง" ไปยืนทำหน้าเครียดสั่งลูกทีมอยู่ขอบสนามก็เป็นได้
แต่ก่อนที่ทั้งคู่จะไปในฐานะโค้ช ก็ต้องมีผู้เล่นที่สมบูรณ์แบบเสียก่อน ซึ่งนักกีฬาที่จะก้าวมาแทน ลองไล่เรียงกันดูว่ามีใครบ้าง และคงหนีไม่พ้นเหล่าบรรดาเด็กสาววัยใสภายใต้การดูแลของ "โค้ชอ๊อต" ที่ประกอบด้วย "เพียว" อัจฉราพร คงยศ วัย 21 ปี, "บุ๋มบิ๋ม" ชัชชุอร โมกศรี วัย 16 ปี, "บีม" พิมพิชยา ก๊กรัมย์ วัย 18 ปี ก้าวมาเป็นกำลังหลัก ผสมผสานกับ "แนน" ทัดดาว นึกแจ้ง วัย 22 ปี, "เตย" หัตถยา บำรุงสุข วัย 23 ปี และ "ชมพู่" พรพรรณ เกิดปราชญ์ วัย 23 ปี ที่ท็อปฟอร์มมากในศึกคัดโอลิมปิกครั้งที่ผ่านมา หลังโค้ชส่งมาเป็นตัวทีเด็ดในการเซตแทนที่ นุศรา ต้อมคำ มือเซตซูเปอร์สตาร์วัย 31 ปี ได้แบบเนียนตาดีเหลือเกิน
และคนที่จะนำทัพในฐานะพี่ใหญ่ของรุ่นน้องคงหนีไม่พ้น “แป้น” ปิยะนุช แป้นน้อย ที่ตอนนี้อายุ 27 ปี รออีก 4 ปีก็คง 31 ปีพอดี เสียดายนิดเดียวตำแหน่งลิเบอร์โร่ไม่สามารถเป็นกัปตันทีมได้นี่แหละ...
