ประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้จัดการสนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม ออกมาชี้แจงกรณีดราม่าในโลกออนไลน์ ที่มีการกล่าวอ้างว่ามีการไล่แฟนบอล บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ออกมาจากสนาม ยืนยันเป็นความเข้าใจคลาดเคลื่อนกัน
จากกรณีที่ในโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความเรื่องที่สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถูกไล่ออกจากสนามไอ-โมบาย สเตเดียม เนื่องจากไม่ยอมร้องเพลงเชียร์ และสัญลักษณ์เฉกเช่นกลุ่มแฟนคลับ GU12 จนเกิดกระแสวิจารณ์การกระทำของสโมสรดังในวงกว้าง
ล่าสุด ทางแฟนเพจ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้นำข้อความชี้แจงจาก ประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้จัดการสนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม ออกมาเผยแพร่ โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีการไล่แฟนบอลออกจากสนาม และไม่ได้มีการปิดกั้นการร้องเพลงเชียร์ เพียงแต่ห้ามใช้ผ้าปิดหน้าขณะเข้าชมเกมในสนาม ซึ่งเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยในสนามเท่านั้น
เรียน แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เคารพ
ตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความว่าสโมสรฯ ไล่แฟนบอลออกจากสนาม และบังคับให้ร้องเพลงเชียร์เหมือนกันนั้น สโมสรฯ ขอเรียนชี้แจงว่าสโมสรฯ ไม่ได้ไล่แฟนบอลออกจากสนาม และขอขอบคุณเพจ Silava ที่กรุณาชี้แจงให้ข้อมูลเพิ่มเติม ให้ทุกท่านทราบและเข้าใจว่าสโมสร ไม่ได้ไล่แฟนบอล ออกจากสนาม
กรณีที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นความเข้าใจผิดต่อกันในเรื่องการสื่อสารเกี่ยวกับการร้องเพลงเชียร์ แต่ขอยืนยันว่า สโมสรฯ ไม่เคยปิดกั้นการร้องเพลงเชียร์ แต่ห้ามใช้ผ้าปิดหน้าขณะชมและเชียร์ในสนาม ซึ่งเป็นไปตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยของสนาม และห้ามนำธงรูปหัวกระโหลก และ/หรือรูปภาพอื่น ๆ ที่อาจจะสื่อถึงการยั่วยุและความรุนแรง เข้าสนาม เพราะอาจทำให้เกิดความขัดแย้ง ส่วนธงและป้ายอื่น ๆ สามารถนำเข้าสนามได้ปกติ
อย่างไรก็ตาม สโมสรฯ ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น อันมาจากความเข้าใจไม่ตรงกัน และขอเรียนว่า สโมสรฯ พร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอแนะ ของแฟนบอล ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฯ และหาแนวทางการเชียร์ร่วมกัน ต่อไป และขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎของสนามอย่างดียิ่ง
สโมสรฯ ขอขอบคุณแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกคนที่ให้การสนับสนุนสโมสรฯ และให้กำลังใจนักกีฬา มาโดยตลอด และจะพยายามแก้ไข ปรับปรุงการทำงานให้ตอบสนองความต้องการของแฟนบอลส่วนใหญ่ ที่เข้ามาชมและเชียร์ในสนาม ให้ได้รับความปลอดภัยและความสนุกสนานมากที่สุด
ด้วยความเคารพ
นายประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์
ผู้จัดการสนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม
หมายเหตุ : ตามกฎของ PLT สามารถตั้งกลองได้ทุกอัฒจันทร์ ยกเว้นอัฒจันทร์ฝั่งประธาน
ขณะที่กลุ่มกองเชียร์สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า Silava ก็ได้ออกมาอธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขั้นอย่างละเอียดเช่นกัน
เนื่องจากข่าวเสีย ๆ หาย ๆ อันจะเกิดจากสื่อพาดหัวรุนแรง การแสดงความเห็นต่าง ๆ อันเกิดจากบุคคลรู้จริงไม่จริงปะปนกันไป ทำให้ภาพลักษณ์ระหว่างสโมสรกับพวกเราดูเลวร้ายมาก ผมคือ 1 ในคนที่เชียร์วันนั้น และในเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ได้จะบอกให้เชื่อแต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องโกหกอะไรเพียงแต่มีข้อสงสัยบางประการ
เรื่องมีอยู่ว่า...เริ่มตั้งแต่ตอนซื้อตั๋ว ผมไปถามคนขายตั๋วว่าหลังประตูเปิดมั้ย พนักงานบอกไม่เปิด เราก็เลยปรึกษากันว่าเอา w เพราะโซนนั้นร้องเพลงเชียร์ได้เราเลยไม่ได้เอากลองไป บอลกำลังจะเตะ เรามีกันอยู่ 5 - 6 คน ก็มุ่งเดินไปโซน w เดินมาถึงโซน s ประตู 3 แล้วอยู่ดี ๆ คนชื่อ ป... ถือโทรโข่งเดินมา เรียกเราเข้าไปร่วมเชียร์ด้วยกันฝั่ง s ผมก็งงว่าใหนบอกโซนsไม่เปิด (คิดในใจ) แต่ทำไมเปิดให้เข้าโดยที่ไม่ต้องซื้อบัตร เราก็คุยกันสักพัก เพราะคนชื่อ ป.... เขายืนรอเราเลยสรุป ลองเข้าไปตามที่เขาแนะนำ (ในใจเราก็อยากเชียร์หลังประตูอยู่แล้ว) ตอนนั้นเราไม่มีกลอง เราคุยรายละเอียดกับคุณ ป... แล้วว่าเชียร์ได้ มุมไหนก็ได้ แล้วเขาเสนอจะให้ยืมโทรโข่ง แต่เราปฏิเสธรับเราบอกไม่ใช้ครับ แฟนบอลทั่วไปก็เดินเข้าตามปรกติแต่จะเปิดแค่ประตูเดียวเข้าออกกันตรงประตูนั้นเลย โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ตรวจบัตรแต่จะตรวจเพียงแค่กระเป๋าซึ่งเราไม่มีปัญหาอะไร เข้าไปตอนแรกก็เชียร์แบบไม่มีกลองก็ไม่มีปัญหาไร เราเชียร์กันตรงมุมธงที่ติดกับโซน ws ร้องเชียร์กันไปหลายเพลงการ์ดถือวิทยุเดินมาพร้อมรับคำสั่งจากใครไม่รู้บอกว่า ให้เราขยับไปเชียร์ตรงกลางหลังประตูกับกลุ่มนั้นตีกลองได้ เราเลยบอกร้องเพลงไม่เหมือนเขาเราไม่ไปเราขอเชียร์อยู่ตรงนี้ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ขอร้องให้เราทำตามคำสั่ง เราจะร้องเพลงอะไรก็ได้แต่ขอให้ไปรวมกันตรงนั้น พวกผมก็ไม่อยากให้มีปัญหากัน เราเลยลงไปใต้อัฒจันทร์ไปตกลงกันภายในกลุ่มว่าจะเอาไงต่อ แล้วเราก็สรุปว่า ทำตามที่เขาบอกแต่รอสมาชิกอีก 2 คนที่กำลังเอากลองกับป้ายข้อความมา พอได้เข้าไปเราก็เชียร์ปกติเพิ่มกลองสแนร์มา 1 ใบและกางป้ายผ้าข้อความที่เขียนว่า “FIGHT FOR FANS” ตรงหลังประตู หลังจากนั้นไม่นานคนชื่อ ป.... ก็เดินมาบอกอีกว่าเสียงกลองมันตีกันกับของเขาให้เราหยุดตี เราก็งงๆ แล้วเราก็เชียร์กันต่อไปตามปกติโดยที่ไม่ได้ตีกลอง พอช่วงท้ายครึ่งแรก คนชื่อ ป... (อีกแล้ว) เดินมากับใครไม่รู้มาบอกพวกผมว่า ที่ตรงนี้เป็นที่ของกลุ่ม....ให้เราไปเชียร์ตามโซนที่เราซื้อตั๋ว แล้วขอดูตั๋วเรา เราก็ให้ดูกันทุกคน เราก็เลยเดินออกจากอัฒจันทร์ตามที่เขาบอก ก็ประชุมกันอีกว่าจะเอาไงต่อ เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใน45นาทีแรก สรุป เราตัดสินใจไม่เข้าสนามในเวลาที่เหลือ45นาทีหลัง เชียร์กันอยู่ข้างนอก ตีกลองร้องเพลงโดยที่ไม่จำเป็นต้องทราบผลการแข่งขัน จนบอลจบ ก็ร่ำลากันก่อนจะแยกย้ายกลับ ....... ที่เล่ามาคือเหตุการณ์ทั้งหมด
#สิ่งที่ผมยังสงสัย ก็คือ กลุ่ม....ที่เขาบอกว่าตรงนั้น (หลังประตู) คือ ที่ของเขา ทั้ง ๆ ที่โซนหลังประตูไม่ได้มีการจำหน่ายบัตร แต่ทำไมเขาถึงบอกว่าเป็นที่ของเขาและยังบอกกับเราอีกว่าไม่อยากให้มีปัญหากันทั้ง ๆ ที่พวกเราไปยืนเชียร์ก่อนที่เขาจะมา
จากกรณีที่ในโลกออนไลน์มีการแชร์ข้อความเรื่องที่สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ถูกไล่ออกจากสนามไอ-โมบาย สเตเดียม เนื่องจากไม่ยอมร้องเพลงเชียร์ และสัญลักษณ์เฉกเช่นกลุ่มแฟนคลับ GU12 จนเกิดกระแสวิจารณ์การกระทำของสโมสรดังในวงกว้าง
ล่าสุด ทางแฟนเพจ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ได้นำข้อความชี้แจงจาก ประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์ ผู้จัดการสนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม ออกมาเผยแพร่ โดยยืนยันว่า ไม่ได้มีการไล่แฟนบอลออกจากสนาม และไม่ได้มีการปิดกั้นการร้องเพลงเชียร์ เพียงแต่ห้ามใช้ผ้าปิดหน้าขณะเข้าชมเกมในสนาม ซึ่งเป็นไปตามมาตรการรักษาความปลอดภัยในสนามเท่านั้น
เรียน แฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่เคารพ
ตามที่มีการโพสต์และแชร์ข้อความว่าสโมสรฯ ไล่แฟนบอลออกจากสนาม และบังคับให้ร้องเพลงเชียร์เหมือนกันนั้น สโมสรฯ ขอเรียนชี้แจงว่าสโมสรฯ ไม่ได้ไล่แฟนบอลออกจากสนาม และขอขอบคุณเพจ Silava ที่กรุณาชี้แจงให้ข้อมูลเพิ่มเติม ให้ทุกท่านทราบและเข้าใจว่าสโมสร ไม่ได้ไล่แฟนบอล ออกจากสนาม
กรณีที่เกิดขึ้นอาจจะเป็นความเข้าใจผิดต่อกันในเรื่องการสื่อสารเกี่ยวกับการร้องเพลงเชียร์ แต่ขอยืนยันว่า สโมสรฯ ไม่เคยปิดกั้นการร้องเพลงเชียร์ แต่ห้ามใช้ผ้าปิดหน้าขณะชมและเชียร์ในสนาม ซึ่งเป็นไปตามมาตรการการรักษาความปลอดภัยของสนาม และห้ามนำธงรูปหัวกระโหลก และ/หรือรูปภาพอื่น ๆ ที่อาจจะสื่อถึงการยั่วยุและความรุนแรง เข้าสนาม เพราะอาจทำให้เกิดความขัดแย้ง ส่วนธงและป้ายอื่น ๆ สามารถนำเข้าสนามได้ปกติ
อย่างไรก็ตาม สโมสรฯ ขออภัยในความไม่สะดวกที่เกิดขึ้น อันมาจากความเข้าใจไม่ตรงกัน และขอเรียนว่า สโมสรฯ พร้อมที่จะรับฟังข้อเสนอแนะ ของแฟนบอล ในฐานะผู้สนับสนุนหลักของสโมสรฯ และหาแนวทางการเชียร์ร่วมกัน ต่อไป และขอขอบคุณทุก ๆ ท่านที่ให้ความร่วมมือปฏิบัติตามกฎของสนามอย่างดียิ่ง
สโมสรฯ ขอขอบคุณแฟนบุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ทุกคนที่ให้การสนับสนุนสโมสรฯ และให้กำลังใจนักกีฬา มาโดยตลอด และจะพยายามแก้ไข ปรับปรุงการทำงานให้ตอบสนองความต้องการของแฟนบอลส่วนใหญ่ ที่เข้ามาชมและเชียร์ในสนาม ให้ได้รับความปลอดภัยและความสนุกสนานมากที่สุด
ด้วยความเคารพ
นายประมูลชัย นพสุวรรณวงศ์
ผู้จัดการสนาม ไอ-โมบาย สเตเดียม
หมายเหตุ : ตามกฎของ PLT สามารถตั้งกลองได้ทุกอัฒจันทร์ ยกเว้นอัฒจันทร์ฝั่งประธาน
ขณะที่กลุ่มกองเชียร์สโมสร บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ที่ใช้ชื่อกลุ่มว่า Silava ก็ได้ออกมาอธิบายถึงเหตุการณ์ดังกล่าวที่เกิดขั้นอย่างละเอียดเช่นกัน
เนื่องจากข่าวเสีย ๆ หาย ๆ อันจะเกิดจากสื่อพาดหัวรุนแรง การแสดงความเห็นต่าง ๆ อันเกิดจากบุคคลรู้จริงไม่จริงปะปนกันไป ทำให้ภาพลักษณ์ระหว่างสโมสรกับพวกเราดูเลวร้ายมาก ผมคือ 1 ในคนที่เชียร์วันนั้น และในเหตุการณ์ครั้งนี้ ไม่ได้จะบอกให้เชื่อแต่พวกเราก็ไม่จำเป็นต้องโกหกอะไรเพียงแต่มีข้อสงสัยบางประการ
เรื่องมีอยู่ว่า...เริ่มตั้งแต่ตอนซื้อตั๋ว ผมไปถามคนขายตั๋วว่าหลังประตูเปิดมั้ย พนักงานบอกไม่เปิด เราก็เลยปรึกษากันว่าเอา w เพราะโซนนั้นร้องเพลงเชียร์ได้เราเลยไม่ได้เอากลองไป บอลกำลังจะเตะ เรามีกันอยู่ 5 - 6 คน ก็มุ่งเดินไปโซน w เดินมาถึงโซน s ประตู 3 แล้วอยู่ดี ๆ คนชื่อ ป... ถือโทรโข่งเดินมา เรียกเราเข้าไปร่วมเชียร์ด้วยกันฝั่ง s ผมก็งงว่าใหนบอกโซนsไม่เปิด (คิดในใจ) แต่ทำไมเปิดให้เข้าโดยที่ไม่ต้องซื้อบัตร เราก็คุยกันสักพัก เพราะคนชื่อ ป.... เขายืนรอเราเลยสรุป ลองเข้าไปตามที่เขาแนะนำ (ในใจเราก็อยากเชียร์หลังประตูอยู่แล้ว) ตอนนั้นเราไม่มีกลอง เราคุยรายละเอียดกับคุณ ป... แล้วว่าเชียร์ได้ มุมไหนก็ได้ แล้วเขาเสนอจะให้ยืมโทรโข่ง แต่เราปฏิเสธรับเราบอกไม่ใช้ครับ แฟนบอลทั่วไปก็เดินเข้าตามปรกติแต่จะเปิดแค่ประตูเดียวเข้าออกกันตรงประตูนั้นเลย โดยที่เจ้าหน้าที่ไม่ตรวจบัตรแต่จะตรวจเพียงแค่กระเป๋าซึ่งเราไม่มีปัญหาอะไร เข้าไปตอนแรกก็เชียร์แบบไม่มีกลองก็ไม่มีปัญหาไร เราเชียร์กันตรงมุมธงที่ติดกับโซน ws ร้องเชียร์กันไปหลายเพลงการ์ดถือวิทยุเดินมาพร้อมรับคำสั่งจากใครไม่รู้บอกว่า ให้เราขยับไปเชียร์ตรงกลางหลังประตูกับกลุ่มนั้นตีกลองได้ เราเลยบอกร้องเพลงไม่เหมือนเขาเราไม่ไปเราขอเชียร์อยู่ตรงนี้ เจ้าหน้าที่คนนั้นก็ขอร้องให้เราทำตามคำสั่ง เราจะร้องเพลงอะไรก็ได้แต่ขอให้ไปรวมกันตรงนั้น พวกผมก็ไม่อยากให้มีปัญหากัน เราเลยลงไปใต้อัฒจันทร์ไปตกลงกันภายในกลุ่มว่าจะเอาไงต่อ แล้วเราก็สรุปว่า ทำตามที่เขาบอกแต่รอสมาชิกอีก 2 คนที่กำลังเอากลองกับป้ายข้อความมา พอได้เข้าไปเราก็เชียร์ปกติเพิ่มกลองสแนร์มา 1 ใบและกางป้ายผ้าข้อความที่เขียนว่า “FIGHT FOR FANS” ตรงหลังประตู หลังจากนั้นไม่นานคนชื่อ ป.... ก็เดินมาบอกอีกว่าเสียงกลองมันตีกันกับของเขาให้เราหยุดตี เราก็งงๆ แล้วเราก็เชียร์กันต่อไปตามปกติโดยที่ไม่ได้ตีกลอง พอช่วงท้ายครึ่งแรก คนชื่อ ป... (อีกแล้ว) เดินมากับใครไม่รู้มาบอกพวกผมว่า ที่ตรงนี้เป็นที่ของกลุ่ม....ให้เราไปเชียร์ตามโซนที่เราซื้อตั๋ว แล้วขอดูตั๋วเรา เราก็ให้ดูกันทุกคน เราก็เลยเดินออกจากอัฒจันทร์ตามที่เขาบอก ก็ประชุมกันอีกว่าจะเอาไงต่อ เหตุการณ์ทั้งหมดนี้เกิดขึ้นภายใน45นาทีแรก สรุป เราตัดสินใจไม่เข้าสนามในเวลาที่เหลือ45นาทีหลัง เชียร์กันอยู่ข้างนอก ตีกลองร้องเพลงโดยที่ไม่จำเป็นต้องทราบผลการแข่งขัน จนบอลจบ ก็ร่ำลากันก่อนจะแยกย้ายกลับ ....... ที่เล่ามาคือเหตุการณ์ทั้งหมด
#สิ่งที่ผมยังสงสัย ก็คือ กลุ่ม....ที่เขาบอกว่าตรงนั้น (หลังประตู) คือ ที่ของเขา ทั้ง ๆ ที่โซนหลังประตูไม่ได้มีการจำหน่ายบัตร แต่ทำไมเขาถึงบอกว่าเป็นที่ของเขาและยังบอกกับเราอีกว่าไม่อยากให้มีปัญหากันทั้ง ๆ ที่พวกเราไปยืนเชียร์ก่อนที่เขาจะมา
