xs
xsm
sm
md
lg

นับถอยหลัง ยูโร 2016!! "หมีขาว" ไร้เขี้ยวเล็บ ลุ้นเซอร์ไพรส์ยาก

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

หวังพึ่ง อลัน ซาโกเยฟ มิดฟิลด์จอมถล่มประตู
รัสเซีย ชาติลูกหนังที่แยกตัวจาก สหภาพโซเวียต เมื่อปี 1992 จากนั้นเคยผ่านเข้าไปเล่น ยูโร รอบสุดท้าย 4 ครั้ง ผลงานที่ดีที่สุดคือรอบรองชนะเลิศปี 2008 คราวนี้ขุนพล "หมีขาว" กลับมาอีกครั้ง โดยหันมาฝากความหวังเอาไว้ที่โค้ชในประเทศอย่าง เลโอนิด สลุตสกี ซึ่งถูกวางให้อยู่กลุ่ม บี ร่วมกับ อังกฤษ, เวลส์ และ สโลวาเกีย ประเดิมพบ "สิงโตคำราม" วันที่ 11 มิถุนายนนี้ ดูแล้วมีลุ้นยาก เพราะแข้งมีแค่ อลัน ซาโกเยฟ กับ อเล็กซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟ เท่านั้น แถมรอบคัดเลือกผ่านมาได้ก็เนื่องจากสายอ่อน

พึ่งสกอร์จาก "ซาโกเยฟ" - มิดฟิลด์คีย์แมนจากค่าย ซีเอสเคเอ มอสโก ติดทีมชาติชุดใหญ่ตั้งแต่อายุ 18 ปีในศึก เวิลด์ คัพ 2008 รอบคัดเลือก โดยนอกจาก อลัน ซาโกเยฟ จะเป็น "คิลเลอร์ พาส" ทีเด็ดแล้ว หากผลิตสกอร์ได้เป็นกอบเป็นกำเหมือนศึก ยูโร 2012 ที่ยิงไป 3 ประตู รัสเซีย ก็มีลุ้นเข้ารอบลึกๆ ที่ประเทศฝรั่งเศสอย่างแน่นอน ปัจจุบันแข้งวัย 25 ปีรับใช้ทัพ "หมีขาว" ไปแล้วทั้งสิ้น 49 นัดยิง 9 ประตู ส่วนกับต้นสังกัดยิงไป 60 ประตูจาก 272 นัด

เลข 5 นำโชค? - สหภาพโซเวียต คว้าแชมป์ ยูโรเปียน เนชันส์ คัพ เมื่อปี 1960 ที่ฝรั่งเศส ก่อนที่รูปแบบทัวร์นาเมนต์จะเปลี่ยนให้ทันสมัยขึ้น ซึ่ง รัสเซีย ถือเป็นการเล่นรอบสุดท้ายนับตั้งแต่ปี 1996 รวมแล้วเป็นหนที่ 5 ผลงานดีที่สุดคือปี 2008 ที่เข้าถึงรอบรองชนะเลิศก่อนที่จะแพ้ สเปน แบบยับเยิน 0-3

"เชสเติร์นยอฟ" ผู้โชคร้าย - อัลเบิร์ต เชสเติร์นยอฟ มีนิคเนมว่า "Ivan the Terrible" ที่คู่แข่งเป็นผู้ตั้งให้ โดยถือเป็นกองหลังที่ดีที่สุดของสหภาพโซเวียต ได้เล่นในศึก ยูโร 1968 ซึ่งสามารถเข้าถึงรอบรองชนะเลิศก่อนเสมอ อิตาลี 0-0 จากนั้นโชคร้ายเสี่ยงเหรียญแพ้ไปอย่างน่าเสียดาย จากนั้นชิงที่ 3 ยังแพ้ให้กับ อังกฤษ 0-2

เจออังกฤษหนที่ 3 - รัสเซีย จะประเดิมพบ อังกฤษ ที่ มาร์กเซย์ วันที่ 11 มิถุนายนนี้ ก่อนหน้านี้ทั้งคู่เจอกันมา 2 ครั้งในศึก ยูโร คือรอบคัดเลือกไปลุยปี 2008 เริ่มที่ เวมบลีย์ สเตเดียม ซึ่ง "สิงโตคำราม" ยำใหญ่ชนะไป 3-0 ต่อหน้าแฟนบอล 86,000 คน ไมเคิล โอเวน ซัด 2 ประตู จากนั้น 1 เดือนให้หลัง "หมีขาว" ล้างแค้นได้สำเร็จ โรมัน พาฟลูเชนโก ยิง 2 ประตูเฉือน 2-1 ที่ ลุซนิกี สเตเดียม ซึ่งมีแฟนบอลเข้ามาเชียร์ถึง 84,700 คน ทำให้ทีมขวัญใหญ่มหาชนไม่ได้เล่นรอบสุดท้ายและ สตีฟ แม็คลาเรน ถูกไล่ออกจากตำแหน่งกุนซือ

พึ่งโค้ชบ้านเกิด - รัสเซีย กลับมาใช้บริการโค้ชในประเทศหลังจากรอบทศวรรษที่ฝากอนาคตเอาไว้ในมือต่างชาติเริ่มตั้งแต่ กุส ฮิดดิงค์ ปี 2006 จนถึงปี 2010 ผลงานคือไปเล่นรอบสุดท้าย ยูโร 2008 อย่างไรก็ตาม เวิลด์ คัพ 2010 กลับไม่ได้ไปอวดฝีเท้า ตามด้วย ดิ๊ก อัดโวคาท แต่ก็อำลาหลัง ยูโร 2012 ที่ตกรอบแรก จนมาถึง ฟาบิโอ คาเปลโล ที่รับค่าเหนื่อย 10 ล้านเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 350 ล้านบาท) ต่อปี ได้ไปเล่นฟุตบอลโลก 2014 ถือเป็นครั้งแรกรอบ 12 ปีแต่ไม่ชนะทีมใดเลยในรอบแรก จนมาถึง เลโดนิด สลุตสกี
รัสเซีย กลับมาใช้บริการโค้ชในประเทศอย่าง  เลโอนิด สลุตสกี

กำลังโหลดความคิดเห็น