การแข่งขันกอล์ฟรายการ "ทรู ไทยแลนด์ คลาสสิค 2016” ปิดฉากลงแล้วเมื่อวันที่ 13 มีนาคม ที่ผ่านมา โดยแชมป์ตกเป็นของ สก็อตต์ เฮนด์ ก้านเหล็กจากออสเตรเลีย สกอร์รวมสี่วัน 18 อันเดอร์พาร์ 270 เฉือน “โปรเก๋'' ปิยะ สว่างอรุณพร นักกอล์ฟชาวไทย เพียงสโตรกเดียวเท่านั้น
ศึกกอล์ฟ "ทรู ไทยแลนด์ คลาสสิค 2016 พรีเซนต์เต็ด บาย ช้าง" (True Thailand Classic 2016 Presented By Chang) ระหว่างวันที่ 10-13 มีนาคม ที่ผ่านมา ณ สนามแบล็คเมาน์เท่น กอล์ฟ คลับ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นการไตร-แซงชั่น ระหว่างยูโรเปียนทัวร์ เอเชียนทัวร์ และไทยแลนด์ พีจีเอ ชิงเงินรางวัลรวม 1.75 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 63 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นการแข่งขันกีฬาอาชีพที่มีเงินรางวัลสูงสุดในประเทศไทย และเป็น 1 ในรายการที่ให้นักกอล์ฟเก็บเงินสะสม เพื่อต่อยอดสู่การชิงชัยสุดท้ายชิงของปีในรายการ "เรซ ทู ดูไบ” ด้วยเช่นกัน
ในวันสุดท้าย สก็อตต์ เฮนด์ ก้านเหล็กจากออสเตรเลีย ดีกรีแชมป์ยูโรเปียนทัวร์ 1 รายการ และเอเชียนทัวร์ 7 รายการ ที่รั้งตำแหน่งผู้นำรอบสองและสาม ขับเคี่ยวกับ “โปรเก๋'' ปิยะ สว่างอรุณพร นักกอล์ฟไทย แชมป์ ไทยแลนด์ พีจีเอ 3 รายการ อย่างระทึก ก่อนเป็น “โปรออสซี่” ที่ปาดหน้าคว้าแชมป์ไปจากผลงานที่ดีกว่าเพียง 1 สโตรก ด้วยสกอร์รวม 18 อันเดอร์พาร์ 270 หลังผลงานวันสุดท้ายเก็บได้ 4 อันเดอร์พาร์ 68 รับโทรฟีและเงินรางวัล 291,660 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 10.25 ล้านบาท) พร้อมสิทธิ์ลุยยูโรเปี้ยนทัวร์อัตโนมัติ 2 ปีครึ่ง
สก็อตต์ เฮนด์ ที่คว้าแชมป์ยุโรปเป็นรายการที่ 2 ของตนเองกล่าวว่า "ผมไม่แปลกใจที่โดนไล่จี้มา เพราะมีนักกอล์ฟเก่งๆมากมายที่เล่นในเอเชี่ยนทัวร์ แต่การที่ ปิยะ ทำได้ 63 ในวันนี้เป็นความมหัศจรรย์มาก และเขายังเล่นได้ดีตลอดทั้งวัน อย่างไรก็ตามวันนี้ผมไดรฟ์ได้ดีมาก รวมถึงพัตต์ด้วยเช่นกัน นี่คือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ และผมหวังว่าจะส่งผลในรายการต่อๆไปเพื่อทำอันดับไปติดท็อป 50 ของโลก "
ด้าน ปิยะ รองแชมป์ รับเงินรางวัล 176,091 ยูโร (ราว 6.83 ล้านบาท) ซึ่งถือเป็นนักกอล์ฟไทยที่ทำผลงานได้ดีที่สุดในทัวร์นาเมนท์นี้ โดยรอบแรกสามารถทำอีเกิ้ลได้ที่หลุม 3 จบวันแรกที่ 4 อันเดอร์พาร์ 68 จากนั้นรอบสองเก็บเพิ่มเข้ามาอีก 4 อันเดอร์พาร์ 68 ผ่านตัดตัวฉลุยด้วยสกอร์ด้วยสกอร์รวมสองวัน 8 อันเดอร์พาร์ 136 ก่อนที่รอบสามจะประคองตัวที่อีเวนท์พาร์ และมาระเบิดฟอร์มในวันสุดท้าย ทำอีเกิ้ลหลุม 10 และเก็บอีก 7 เบอร์ดี้ โดยไม่เสียโบกี้แม้แต่หลุมเดียว จบวันที่ 9 อันเดอร์พาร์ 63 สกอร์รวม 17 อันเดอร์พาร์ 271
โปรกอล์ฟจอมตีไกล จากอุบลราชธานี วัย 32 ปี เผยหลังจบการแข่งขันว่า "ก่อนแข่งผมป่วยและมีอาการบาดเจ็บ ไม่ได้ซ้อมมาเลย ทำให้ไม่ได้ตั้งความคาดหวังอะไรเลย แต่การที่ไม่มีความคาดหวังกลับเล่นได้ดีมากเลย การได้อันดับ 2 ถือเป็นสิ่งที่ประทับใจมาก วันนี้ผมค่อนข้างเล่นได้ดี ไดรฟ์ดี และมีโชคด้วยเล็กน้อย วันนี้ตีดีมาตลอดไม่มีสะดุดเลย ไหลลื่นมาก ต่างจากสามวันก่อนหน้านี้ที่มีสะดุดโบกี้ง่ายๆ โดยในช่วงที่แต้มเท่ากันก็ไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นอะไร แม้หลุม 17 จะตีหลุดแต่ก็ไม่กดดัน ส่วนหลุม 18 ปรึกษากับแคดดี้ว่าจะตีไม้หนึ่งบู๊เลยดีไหม แต่สุดท้ายก็เล่นตามแผน ตีไม้สามและสามารถเก็บเบอร์ดี้ได้ ที่สำคัญผมชอบสนามนี้มาก ตั้งแต่เล่นมาไม่เคยตกรอบสนามนี้เลย"
พร้อมกันนี้ ปิยะ ที่ชวดตั๋วลุยยูโรเปียนทัวร์ กล่าวถึงเป้าหมายต่อไปว่า "จากนี้ในเดือนเมษายนผมจะต้องไปเล่นที่ญี่ปุ่นในเจแปนทัวร์ โดยมีเป้าหมายที่วางไว้คือคว้าแชมป์ แต่ทั้งนี้ต้องกลับมาวางแผนดีๆอีกครั้ง เพราะยังมีเอเชี่ยนทัวร์อีกทางด้วยที่ต้องรักษาอันดับไว้ให้ดีเพื่อไปเล่นในซีไอเอ็มบี อย่างไรก็ตามก่อนแข่งอยากโฟกัสที่เจแปนทัวร์มากกว่า จะได้วางแผนว่าแต่ละสัปดาห์ต้องเตรียมร่างกายอย่างไร ก่อนจะหาช่วงพักมาลงเล่นเอเชี่ยนทัวร์"
ขณะเดียวกันด้านผลงานของนักกอล์ฟไทยรายอื่นที่น่าสนใจ “โปรช้าง” ธงชัย ใจดี รองแชมป์เก่า ดีกรีแชมป์ยุโรป 7 รายการ เก็บเพิ่ม 1 อันเดอร์พาร์ 71 จบที่ 9 อันเดอร์พาร์ 279 รั้งอันดับ 14 ร่วมกับ "โปรหมาย" ประหยัด มากแสง ที่วันสุดท้ายเร่งเครื่องเก็บ 6 อันเดอร์พาร์ 66 และ "โลมายักษ์" พรหม มีสวัสดิ์ จบวันด้วยอีเวนท์พาร์ โดยทั้ง 3 ราย ซิวเงินรางวัลเท่ากันคนละ 26,775 เหรียญสหรัฐฯ (ราว 9.4 แสนบาท)
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *