คอลัมน์ “สกอร์บอร์ด” โดย “แมวดำ”
เปิดฤดูกาล 2016 มาได้เพียงแค่ 2 นัดสำหรับฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ก็เกิดดราม่าในวงการมากมายกับหลายสโมสร ไล่มาตั้งแต่ทีม บีอีซี เทโรศาสน ที่ว่ากันว่าขายหุ้นของสโมสรไปแล้ว ตกลงสโมสรนี้กลายเป็นของกลุ่มทุนใด แรกๆ ก็มีข่าวว่า ตกลงนายใหญ่คนเดิมเขาออกมาให้ข่าวว่าไม่ขายแล้ว กลับมาทำตามเดิม นั่งตำแหน่งเดิม ทว่าดูๆ ไป การย้ายทีมของผู้เล่นตัวหลักก็ทยอยออกไปปักหลักกับสโมสรดังย่านแจ้งวัฒนะกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ขณะที่ส่วนเกินของทีมนั้นก็ถูกโยกมาสู่ "มังกรไฟ" แต่ก็ยังไม่วายเก็บเงียบ จากเดิมทุกสโมสรที่ไม่ว่าจะใหญ่คับฟ้า หรือเล็กจิ๋วหลิวก็ต้องมีการแถลงข่าวเปิดตัว พร้อมวางเป้ามหาย แต่กลายเป็นว่าทีมนี้ไม่มี อย่างที่เคยเป็น ก่อนจะสุดท้ายจะมาโป๊ะแตก เนื่องจากบริษัทแม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ยักย้ายถ่ายโอนหุ้นจำเป็นต้องเปิดเผยความจริง หวยก็มาออกที่บริษัทลูกของสื่อกีฬายักษ์ตามคาด แค่สงสัยว่าแล้วจะปิด หรือเบี่ยงเบนไปทำไมเท่านั้นเอง
อีกเรื่องคือการไล่เอาคืนสื่อกีฬายักษ์ ของขั้วอำนาจใหม่ในสมาคม ที่ปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคใหม่ พร้อมเรียกบริษัท ห้างร้าน ต่างๆ ที่เคยมีสัญญากับผู้บริหารทีมยุคเก่าเข้าไปดูสัญญาเรียงฉบับ ใครได้ ใครเสีย คนในบอร์ดสมาคมยุคใหม่รู้หมด ทีนี้ก็ถึงทีเอาคืนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เคยแจ้งกันไว้ งานนี้จะว่าดี มันก็ดีสำหรับเรื่องความโปร่งใส แต่บางสิ่งบางอย่าง ก็ต้องให้เครดิตสื่อกีฬายักษ์ใหญ่เขาบ้างเหมือนกัน วันที่คนไทยเมินฟุตบอลไทย ก็ได้พี่คนนั้นช่วยเหลือค้ำชู จะไปไล่ด่าเขาอย่างเดียวคงไม่ได้ เหรียญยังมีสองด้าน ถือว่าจากนี้เราคงต้องมาดูว่า สื่อใหญ่ จะตั้งหลักปรับตัวเข้ากับบทบาทใหม่ได้เร็วแค่ไหน
แต่เรื่องที่อยากพูดถึงมากที่สุดเป็นเรื่องของทีมไม่เล็ก ไม่ใหญ่ แต่กองเชียร์มหาศาลอย่าง "สวาทแคท" นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี แข่งไป 2 นัด แพ้รวด แฟนบ่น แฟนด่า เรื่องธรรมดา ยังมีเวลาให้ปรับจูนกันอีกเยอะ ทั้งชื่อชั้นและผลงานนักเตะ รวมถึงโค้ชที่ทำไว้ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วก็น่าจะกู้ชื่อกู้ชีพกันกลับมาได้ ทว่าเรื่องที่กู้คืนยากคือเรื่องศักดิ์ศรี และความเหมาะสม
เรื่องของเรื่องคือ สโมสรดันมีผู้สนับสนุนที่ว่ากันว่าน่าจะเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับการพนัน ป้ายโชว์หราอยู่ข้างสนามแข่งขัน ต่อหน้าต่อตา "นายกอ็อด" สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เดินทางไปประเดิมไทยลีกอย่างเป็นทางการ แบบนี้จะปล่อยผ่านก็กระไร จนมีการออกประกาศเป็นมติสภากรรมการว่าต่อจากนี้ห้ามขาดในการนำธุรกิจเกี่ยวกับการพนันมาพัวพันสโมสรในไทย เรื่องก็น่าจะไม่มีอะไร แต่ฝ่ายสโมสรที่ตกเป็นจำเลยดันออกมาอ้างว่าผู้สนับสนุนรายนี้เป็นเพียงนิตยสารกีฬา หาใช่ธุรกิจพนันไม่?
ใจจริงก็อยากจะเชื่ออยู่เหมือนกัน แต่พอเข้าไปชมในแฟนเพจ และเว็บไซต์แล้วรู้สึกแปลกๆ คือชื่อเว็บ ชื่อเพจ ชื่อนิตยสารด้านกีฬามีให้เลือกกันตั้งมากมาย แต่ดันไปตั้งชื่อเหมือนเว็บพนัน นั่นก็เรื่องหนึ่ง เจตนาหรือตั้งใจแอบแฝงไม่มีใครรู้ ถึงข้อมูลในเว็บจะทำให้เหมือนหน้าข่าวกีฬาทั่วไป แต่ทำไมดูเหมือนไม่เน้นจริงจัง ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัย ขณะที่สโมสรอันเป็นประตูสู่ภาคอีสาน โด่งดังขึ้นชื่อเรื่องแฟนบอลจำนวนมาก แต่ในเพจผู้สนับสนุนรายนี้กลับมีคนไปกดถูกใจแค่ 12 คน (ในวันที่เข้าไปเช็ค) ผิดกับเพจพนันชื่อเดียวกัน มันอดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าเจตนาเลี่ยงบาลีกันหรือเปล่า ขนาดแฟนคลับสโมสรตัวเองส่ายหน้าเลย
นี่ยังไม่นับรวมดราม่าเรื่องตั๋วเข้าชมนัดเปิดสนาม ความจุที่ว่ากันว่าน่าจะรองรับแฟนคลับกว่า 3 หมื่น ทว่ามียอดจำหน่ายตั๋วเข้าชมแค่ 1 ล้านต้นๆ ก่อนจะมีการชี้แจงว่าส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้นับเกิดจากผู้ชมที่ซื้อตั๋วปีเข้าชม ไม่ต้องถามว่าจะมีใครเชื่อหรือเปล่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่แฟนตั้งข้อสงสัย แต่คำตอบที่ได้รับก็อย่างที่ทราบกันว่ามันไม่ค่อยจะเคลียร์...
เปิดฤดูกาล 2016 มาได้เพียงแค่ 2 นัดสำหรับฟุตบอลโตโยต้า ไทยลีก ก็เกิดดราม่าในวงการมากมายกับหลายสโมสร ไล่มาตั้งแต่ทีม บีอีซี เทโรศาสน ที่ว่ากันว่าขายหุ้นของสโมสรไปแล้ว ตกลงสโมสรนี้กลายเป็นของกลุ่มทุนใด แรกๆ ก็มีข่าวว่า ตกลงนายใหญ่คนเดิมเขาออกมาให้ข่าวว่าไม่ขายแล้ว กลับมาทำตามเดิม นั่งตำแหน่งเดิม ทว่าดูๆ ไป การย้ายทีมของผู้เล่นตัวหลักก็ทยอยออกไปปักหลักกับสโมสรดังย่านแจ้งวัฒนะกันอย่างเป็นล่ำเป็นสัน ขณะที่ส่วนเกินของทีมนั้นก็ถูกโยกมาสู่ "มังกรไฟ" แต่ก็ยังไม่วายเก็บเงียบ จากเดิมทุกสโมสรที่ไม่ว่าจะใหญ่คับฟ้า หรือเล็กจิ๋วหลิวก็ต้องมีการแถลงข่าวเปิดตัว พร้อมวางเป้ามหาย แต่กลายเป็นว่าทีมนี้ไม่มี อย่างที่เคยเป็น ก่อนจะสุดท้ายจะมาโป๊ะแตก เนื่องจากบริษัทแม่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ ยักย้ายถ่ายโอนหุ้นจำเป็นต้องเปิดเผยความจริง หวยก็มาออกที่บริษัทลูกของสื่อกีฬายักษ์ตามคาด แค่สงสัยว่าแล้วจะปิด หรือเบี่ยงเบนไปทำไมเท่านั้นเอง
อีกเรื่องคือการไล่เอาคืนสื่อกีฬายักษ์ ของขั้วอำนาจใหม่ในสมาคม ที่ปรับเปลี่ยนเข้าสู่ยุคใหม่ พร้อมเรียกบริษัท ห้างร้าน ต่างๆ ที่เคยมีสัญญากับผู้บริหารทีมยุคเก่าเข้าไปดูสัญญาเรียงฉบับ ใครได้ ใครเสีย คนในบอร์ดสมาคมยุคใหม่รู้หมด ทีนี้ก็ถึงทีเอาคืนสิทธิประโยชน์ต่างๆ ที่เคยแจ้งกันไว้ งานนี้จะว่าดี มันก็ดีสำหรับเรื่องความโปร่งใส แต่บางสิ่งบางอย่าง ก็ต้องให้เครดิตสื่อกีฬายักษ์ใหญ่เขาบ้างเหมือนกัน วันที่คนไทยเมินฟุตบอลไทย ก็ได้พี่คนนั้นช่วยเหลือค้ำชู จะไปไล่ด่าเขาอย่างเดียวคงไม่ได้ เหรียญยังมีสองด้าน ถือว่าจากนี้เราคงต้องมาดูว่า สื่อใหญ่ จะตั้งหลักปรับตัวเข้ากับบทบาทใหม่ได้เร็วแค่ไหน
แต่เรื่องที่อยากพูดถึงมากที่สุดเป็นเรื่องของทีมไม่เล็ก ไม่ใหญ่ แต่กองเชียร์มหาศาลอย่าง "สวาทแคท" นครราชสีมา มาสด้า เอฟซี แข่งไป 2 นัด แพ้รวด แฟนบ่น แฟนด่า เรื่องธรรมดา ยังมีเวลาให้ปรับจูนกันอีกเยอะ ทั้งชื่อชั้นและผลงานนักเตะ รวมถึงโค้ชที่ทำไว้ตั้งแต่ฤดูกาลที่แล้วก็น่าจะกู้ชื่อกู้ชีพกันกลับมาได้ ทว่าเรื่องที่กู้คืนยากคือเรื่องศักดิ์ศรี และความเหมาะสม
เรื่องของเรื่องคือ สโมสรดันมีผู้สนับสนุนที่ว่ากันว่าน่าจะเป็นเว็บไซต์เกี่ยวกับการพนัน ป้ายโชว์หราอยู่ข้างสนามแข่งขัน ต่อหน้าต่อตา "นายกอ็อด" สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ที่เดินทางไปประเดิมไทยลีกอย่างเป็นทางการ แบบนี้จะปล่อยผ่านก็กระไร จนมีการออกประกาศเป็นมติสภากรรมการว่าต่อจากนี้ห้ามขาดในการนำธุรกิจเกี่ยวกับการพนันมาพัวพันสโมสรในไทย เรื่องก็น่าจะไม่มีอะไร แต่ฝ่ายสโมสรที่ตกเป็นจำเลยดันออกมาอ้างว่าผู้สนับสนุนรายนี้เป็นเพียงนิตยสารกีฬา หาใช่ธุรกิจพนันไม่?
ใจจริงก็อยากจะเชื่ออยู่เหมือนกัน แต่พอเข้าไปชมในแฟนเพจ และเว็บไซต์แล้วรู้สึกแปลกๆ คือชื่อเว็บ ชื่อเพจ ชื่อนิตยสารด้านกีฬามีให้เลือกกันตั้งมากมาย แต่ดันไปตั้งชื่อเหมือนเว็บพนัน นั่นก็เรื่องหนึ่ง เจตนาหรือตั้งใจแอบแฝงไม่มีใครรู้ ถึงข้อมูลในเว็บจะทำให้เหมือนหน้าข่าวกีฬาทั่วไป แต่ทำไมดูเหมือนไม่เน้นจริงจัง ถ้าเข้าใจผิดก็ขออภัย ขณะที่สโมสรอันเป็นประตูสู่ภาคอีสาน โด่งดังขึ้นชื่อเรื่องแฟนบอลจำนวนมาก แต่ในเพจผู้สนับสนุนรายนี้กลับมีคนไปกดถูกใจแค่ 12 คน (ในวันที่เข้าไปเช็ค) ผิดกับเพจพนันชื่อเดียวกัน มันอดสงสัยไม่ได้เหมือนกันว่าเจตนาเลี่ยงบาลีกันหรือเปล่า ขนาดแฟนคลับสโมสรตัวเองส่ายหน้าเลย
นี่ยังไม่นับรวมดราม่าเรื่องตั๋วเข้าชมนัดเปิดสนาม ความจุที่ว่ากันว่าน่าจะรองรับแฟนคลับกว่า 3 หมื่น ทว่ามียอดจำหน่ายตั๋วเข้าชมแค่ 1 ล้านต้นๆ ก่อนจะมีการชี้แจงว่าส่วนหนึ่งที่ยังไม่ได้นับเกิดจากผู้ชมที่ซื้อตั๋วปีเข้าชม ไม่ต้องถามว่าจะมีใครเชื่อหรือเปล่า ยังมีอีกหลายเรื่องที่แฟนตั้งข้อสงสัย แต่คำตอบที่ได้รับก็อย่างที่ทราบกันว่ามันไม่ค่อยจะเคลียร์...