“บุรีรัมย์” เดินหน้าล่าแชมป์ “เนวิน” ลั่นคู่แข่งอยู่หนใด

ผู้จัดการรายวัน 360 – บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของ 5 แชมป์เมื่อฤดูกาลที่แล้ว นับถอยหลังลงป้องกันแชมป์ทุกถ้วยในประเทศฤดูกาล 2016 พร้อมเป้าหมายก้าวขึ้นเป็นท็อป 5 เอเชีย ในศึก เอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ซึ่ง เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสร มั่นใจว่าปีนี้จะทำสำเร็จตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยมองว่าคู่แข่งสำคัญนำโดย เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ศักยภาพทีมไม่ต่างจากเดิม แม้จะมีการเสริมทัพด้วยแข้งดีกรีทีมชาติไทยก็ตาม

ฤดูกาล 2015 บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด กวาดเรียบทุกแชมป์ในประเทศ ประกอบด้วย ถ้วยพระราชทาน ก, โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก, ช้าง เอฟเอ คัพ, โตโยต้า ลีก คัพ และโตโยต้า แม่โขง คลับ แชมเปียนชิป โดยก่อนสตาร์ทซีซันใหม่ “ปราสาทสายฟ้า” ได้เปิดตัวทัพนักเตะอย่างเป็นทางการไปเรียบร้อย เพื่อเป้าหมายคือป้องกันแชมป์ทุกใบ

สำหรับรายชื่อผู้เล่นที่จะใช้ลุยฤดูกาล 2016 นำโดยแข้งต่างชาติอย่าง ดิโอโก หลุยส์ ซานโต ดาวซัลโวตลอดกาลไทย พรีเมียร์ ลีก ที่กระหน่ำไป 33 ประตูในปีที่แล้ว, อันเดรส ตูเนซ ปราการหลังเวเนซุเอลา และ โก ซึล กิ กองกลางเกาหลีใต้ ผนึกกำลังกับแข้งใหม่อีก 2 ราย คือ อันเดร โมริตซ์ เพลย์เมกเกอร์แซมบ้า และไคโอะ กอนซาเลซ หอกลูกครึ่งญี่ปุ่น-บราซิล ซึ่ง 3 รายแรกได้พิสูจน์ตัวเองไปแล้วว่าเป็นแข้งระดับเกรด เอ ของลีก แต่ที่เหลือยังรอการพิสูจน์ว่าจะดีกว่าของเดิมที่ถูกปล่อยตัวไปอย่าง กิลแบร์โต มาเชนา ที่ทำไป 21 ตุงหรือไม่

ขณะที่นักเตะไทยได้ อดุล หละโสะ กองกลางจากชลบุรี เอฟซี, สถาพร แดงสี กองหลังจากนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี, นัสตพล มาลาพันธ์ กองหลังจากเพื่อนตำรวจ และ อนันต์ บัวแสง กองหน้าจากบางกอกกล๊าส เข้ามาเป็นอะไหล่ให้กับทีม โดยที่สตาร์ตัวหลักที่เหลือยังอยู่ครบครัน นำโดย “กัปตันกบ” สุเชาว์ นุชนุ่ม, “อุ้ม” ธีราทร บุญมาทัน และจักรพันธ์ แก้วพรม ร่วมกับแข้งดาวรุ่งอย่าง เชาว์วัฒน์ วีระชาติ, อานนท์ อมรเลิศศักดิ์, สุภโชค สารชาติ และสิทธิโชค กันหนู

เนวิน ชิดชอบ ประธานสโมสรบุรีรัมย์ฯ กล่าวถึงความพร้อมของทีม หลังประเดิมแชมป์แรกของปี คือถ้วย โตโยต้า พรีเมียร์ คัพ 2015 จากการเปิดบ้านเฉือน อัลบิเล็กซ์ นิงาตะ ทีมดังจาก เจ-ลีก ญี่ปุ่น 2-1 ว่ายังไม่ร้อยเปอร์เซ็นต์ แม้จะอุ่นเครื่องปรีซีซันมาแล้ว 4 นัด ด้วยผลงาน พ่ายจุดโทษ กัมพูชา ออลสตาร์ 6-5 (ในเวลา 2-2), ชนะโปฮัง สตีลเลอร์ส จาก เค-ลีก เกาหลีใต้ 2-1, ชนะ ลาว ออลสตาร์ 3-1 และชนะ กระบี่ เอฟซี 5-1

“เป้าหมายเดียวของทีมคือคว้าทุกแชมป์ในประเทศ โดยปีนี้หากนับ โตโยต้า พรีเมียร์ คัพ ที่เพิ่งคว้ามาได้ จะรวมเป็นทั้งหมด 6 ถ้วย ขณะที่ในเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก ต้องผ่านรอบแบ่งกลุ่มให้ได้เป็นอันดับแรก เพื่อเป้าหมายในการเป็น ท็อป 5 เอเชีย ซึ่งเรามั่นใจว่าสามารถต่อกรกับทีมจาก จีน ญี่ปุ่น และเกาหลีใต้ ได้อย่างไม่เป็นรอง และปีนี้จะต้องทำให้ดีขึ้นอีก เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนปีที่แล้วคือการมี 10 แต้มเท่ากับทีมที่เข้ารอบ แต่ต้องตกรอบเพราะ มินิ ลีก เป็นรองทั้งที่ผลต่างประตูได้-เสียดีที่สุด ส่วนความพร้อมของทีมตอนนี้ยังแค่ 85 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ยังมีปัญหาเรื่องสปีดบอล ออกบอลช้า การเพรสซิง และการเคลื่อนที่ที่ยังน้อยอยู่ อย่างไรก็ตามยังมีเวลาที่จะปรับปรุงให้ดีขึ้น ต้องยอมรับว่าหากเล่นได้เท่านี้ในถ้วยเอเชียเหนื่อยแน่" เนวิน กล่าว

พร้อมกันนี้ เนวิน ได้กล่าวถึงการเสริมทัพของคู่แข่งและคู่ต่อกรสำคัญอย่าง เอสซีจี เมืองทอง ยูไนเต็ด ที่คว้า 3 แข้งทีมชาติไทยมาร่วมทีม ประกอบด้วย “เมสซีเจ” ชนาธิป สรงกระสินธ์, ธนบูรณ์ เกษารัตน์ และพีระพัฒน์ โน๊ตชัยยา ว่าไม่ทำให้ “กิเลนผยอง” มีศักยภาพที่แตกต่างจากเดิม “มีหลายทีมที่เสริมทัพได้ดีทั้ง เอสซีจี เมืองทองฯ, แบงค็อก ยูไนเต็ด และบางกอกกกล๊าส เอฟซี ดังนั้นจะประมาทไม่ได้ทุกทีม ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี ลีกจะได้พัฒนา อยากให้ทุกทีมสู้เพื่อเป็นการยกระดับ ไทย พรีเมียร์ ลีก ส่วน เอสซีจี เมืองทองฯ เชื่อว่ายังมีศักยภาพไม่ต่างจากเดิม การขาด มาริโอ ยูรอฟสกี ไป และได้ 3 คนนี้มา ไม่ได้ทำให้สภาพทีมเปลี่ยนไปได้ ไม่ได้ทำให้เมืองทองแตกต่างไป และไม่สามารถทำให้แข็งกว่าเดิมได้”

นายใหญ่เซราะกราว ทิ้งท้ายถึงการออกสตาร์ทที่ต้องเจอคิวหนักตั้งแต่เริ่ม ไล่ตั้งแต่ ปะทะ เอสซีจี เมืองทองฯ ในถ้วยพระราชทาน ก (20 ก.พ.) ต่อด้วยเปิดบ้านรับมือ เอฟซี โซล จากเกาหลีใต้ ในเอเอฟซี แชมเปียนส์ ลีก (23 ก.พ.), รับมือ ชลบุรี เอฟซี เปิดหัว โตโยต้า ไทย พรีเมียร์ ลีก (26 ก.พ.) และเยือน ชางตง ลู่เหนิง ที่จีน (1 มี.ค.) ว่า “เป็นโปรแกรมที่หนัก แต่ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องชนะทุกนัดสถานเดียว ส่วนเรื่องความฟิตก็ไม่น่ามีปัญหา อยู่ที่ว่าจะมีใครบาดเจ็บหรือเปล่าเท่านั้น หากไม่มีใครบาดเจ็บสามารถลงได้ทุกเกมก็เป็นเรื่องที่ดี”