“เมสซี” ยอดแข้งตัวจริง แรงบันดาลใจสู่เด็กน้อย

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ 360 - ปฏิเสธไม่ได้ว่าวงการลูกหนังยุคปัจจุบัน ลิโอเนล เมสซี ยอดนักเตะของ บาร์เซโลนา คือเบอร์ 1 พิสูจน์ได้จากผลงาน, ความสามารถ, และเกียรติยศต่างๆมากมาย จึงไม่แปลกที่เขาจะเป็นขวัญใจของแฟนบอลทั่วโลกทั้งรุ่นเล็กรุ่นใหญ่ โดยเฉพาะเด็กๆที่มีเขาเป็นแรงบันดาลใจในการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคตและเฝ้ารอสัมผัสตัวจริง ซึ่งก็มีทั้งสมหวังและผิดหวังต่างกันดังเรื่องราวทั้งสองที่หยิบยกมาฝาก

ย้อนกลับไปช่วงปลายเดือนมกราคม สำนักข่าวดังทั่วโลก พร้อมใจกันนำเสนอข่าวของเด็กน้อยคนหนึ่งที่ อัฟกานิสถาน ดินแดนอันเต็มไปด้วยสงครามและลูกระเบิด มูร์ตาซา อาห์มาดี เด็กชายวัย 5 ขวบ ผู้ใฝ่ฝันอยากเป็นนักฟุตบอลอาชีพ ขอให้ โฮมายูน พี่ชายนำถุงพลาสติกสีฟ้าขาวใบหนึ่งพร้อมเขียนชื่อและเบอร์ 10 ของ เมสซี ทำเป็นเสื้อแข่งทีมชาติของแข้งชาวอาร์เจนไตน์ให้น้องชาย ก่อนนำไปสวมแล้วเล่นฟุตบอลกับเพื่อนๆคนอื่นเพราะไม่มีเงินซื้อของจริงใส่

เรื่องราวดูเหมือนจะไม่มีอะไร แต่เมื่อ โฮมายูน นำคลิปและภาพที่น้องชายกำลังโชว์ทักษะเล่นฟุตบอลอย่างสนุกสนานพร้อมเสื้อ เมสซี แบบถุงพลาสติก อัพโหลดขึ้นโซเชียลมีเดีย เรื่องราวของพวกเขาก็ไม่ใช่ความลับอีกต่อไปเมื่อสื่อใหญ่ทั้ง บีบีซี, เทเลกราฟ, เดลี เมล พร้อมใจกันนำเสนอเรื่องราวอันน่าประทับใจของ อาห์มาดี กันทั่ว ทำให้หนุ่มน้อยตัวจิ๋วจากดินแดนสงคราม กลายเป็นคนดังทันที ก่อนมีโอกาสได้พูดออกทีวีว่าใฝ่ฝันอยากเจอเทพบุตรลูกหนังแห่ง คัมป์ นู

แน่นอนว่าข้อความดังกล่าวได้ส่งผ่านไปยังทีมบริหารของ บาร์เซโลนา ที่เฝ้าติดตามข่าวอยู่ ก่อนติดต่อไปที่สมาคมฟุตบอลของอัฟกานิสถาน คอนเฟิร์มว่าเจ้าหนู อาห์มาดี จะได้เจอกับนักเตะเจ้าของรางวัลบอลทองคำ ฟีฟา บัลลงดอร์ สมัยล่าสุด ซึ่งระหว่างนี้ก็นัดแนะเวลาและสถานที่ให้ลงตัว แต่ที่ไม่ต้องรอนานคือเสื้อแข่ง บาร์เซโลนา ของแท้ ส่งตรงถึงมือของหนูน้อยให้เอาไปใส่เตะฟุตบอลเล่นกับเพื่อนเรียบร้อย ที่เหลือก็แค่รอเจอนักเตะในฝันตัวเป็นๆเท่านั้น

เมื่อมีเรื่องสมหวังแล้วก็ต้องมีเรื่องให้ผิดหวังบ้าง คราวนี้เป็นเรื่องราวของสาวน้อย ฮันยา ซาจาด และครอบครัวของเธอที่ต้องการทำความฝันของลูกสาวให้เป็นจริง ด้วยการบินข้ามน้ำข้ามทะเลไปที่ คัมป์ นู เพื่อชมลีลาของนักเตะคนโปรดพร้อมกระทบไหล่กับฮีโร่ของเธอตัวเป็นๆ แต่สุดท้ายก็ฝันสลายเมื่อการรอคอยของเธอสูญเปล่าและผู้ปกครองก็เรียกร้องถามหาความรับผิดชอบกับยอดทีมแห่งแคว้นคาตาลัน ที่ทำให้สาวน้อยจากอังกฤษต้องเสียน้ำตา

ฮันยา มีความผิดปกติทางร่างกายคือคลอดออกมาก็มีหัวใจแค่ครึ่งเดียวทำให้ต้องทำการปลูกถ่ายหัวใจใหม่ ครั้นพอผ่าตัดเสร็จก็มีปัญหาป่วยเป็นภาวะขาดฮอร์โมนเจริญเติบโตคล้ายกับ เมสซี แต่ไม่รุนแรงเท่า แถมเดินไม่ได้ต้องนั่งรถเข็นตลอด เวลาไปหาหมอก็ต้องกัดฟันฝืนเจ็บทุกครั้งที่ฉีดยารักษาอาการ แต่สาวน้อยวัย 11 ปี ก็ยึดถือแข้งชาวอาร์เจนไตน์ เป็นแรงบันดาลใจในการต่อสู้กับอุปสรรคต่างๆ ก่อนที่ ลิซา คุณแม่จะยอมลางานเฉพาะกิจเพื่อพาลูกสาวไปดู เมสซี ถึงขอบสนามที่สเปน

ลิซา เล่าว่าเธอยอมควักเงินเก็บ 1,000 ปอนด์ (ประมาณ 51,000 บาท) เป็นค่าเครื่องบิน, ที่พักราคาถูก พร้อมตั๋วดูฟุตบอลสำหรับ 3 คนคือตัวเธอ, เพื่อนชาย และ ฮันยา โดยเป็นเกมเจอกับ แอตเลติโก มาดริด เมื่อวันที่ 30 มกราคม ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนเดินทางเธอได้ส่งอีเมลไปทางสโมสรเพื่อสอบถามว่าจะขอให้ลูกสาวได้พบกับแข้งเบอร์ 1 ของโลกก่อนแข่งได้หรือไม่ ซึ่งทางสโมสรก็ตอบตกลงแถมใจดีอัพเกรดตั๋วที่นั่งให้เป็นแบบชิดติดขอบสนามมากที่สุดด้วย ทำเอาทั้ง 3 รู้สึกปลาบปลื้มไม่น้อย

ก่อนเกมเริ่มขึ้น 2 ชั่วโมง ฮันยา และครอบครัวของเธอมาถึงสนามเรียบร้อย ก่อนติดต่อเจ้าหน้าที่เพื่อเข้าไปพบนักเตะตามที่นัดหมาย แต่แล้วเกิดเหตุไม่คาดฝันเมื่อทีมงานเดินมาบอกว่าพวกเขาจะไม่ได้พบเจอ เมสซี และนักเตะคนอื่นเนื่องจากมีการยกเลิกโปรแกรม มีท แอนด์ กรีท กะทันหัน ซึ่งนั่นทำให้สาวน้อยจากเมืองสโต๊ค รู้สึกผิดหวังยิ่งแม้คุณแม่ของเธอจะเรียกร้องสิทธิ์ที่ควรได้และถามว่าทำไมถึงไม่มีการส่งอีเมลมาบอกก่อน ก็ไร้คำตอบใดๆจากเจ้าหน้าที่ เล่นเอา ฮันยา ถึงกับหลั่งน้ำตาและต้องจำใจเข้าไปชมเกมบนที่นั่งเดิมที่ซื้อไว้ โดยไม่ใช่ตั๋วอัพเกรดตามอีเมลล์ที่ส่งมา

"เธอถามฉันอย่างกระตือรือร้นว่าจะได้เจอนักเตะคนไหนบ้าง แต่เมื่อเกิดเรื่องเช่นนี้เธอถึงกับใจสลายและร้องอยากจะกลับบ้านทันที เธอมาที่นี่เพื่อทำความฝันให้เป็นจริง ถึงจะได้ชมเกมในสนามจริง แต่เธอก็ต้องฝืนยิ้มรับมันไว้ เธอบอกเพื่อนๆว่ากำลังจะได้เจอ เมสซี แต่จะทำอย่างไรเมื่อไม่มีรูปยืนยัน เจ้าหน้าที่บอกว่าเสียใจแต่ก็ทำอะไรไม่ได้ นั่นไม่ใช่ความผิดของเราเลย" ลิซา เรียกร้องความเป็นธรรมให้กับลูกสาวที่ต้องนั่งเครื่องบินกลับบ้านด้วยสีหน้าผิดหวังที่ไม่ได้เจอกับนักเตะที่รักตามสัญญา

อย่างไรก็ตาม เรื่องที่เกิดขึ้นน่าจะเป็นเพราะการสื่อสารที่ผิดพลาด ซึ่งทาง "เจ้าบุญทุ่ม" ก็ได้ออกมาขอโทษไปยังครอบครัวของ ฮันยา เรียบร้อยแล้วพร้อมเตรียมหาวิธีเยียวยาจิตใจภายหลัง ส่วนพวกเขาจะเปิดโอกาสให้แฟนบอลสาวน้อยได้เจอกับ เมสซี หรือไม่ก็ต้องรอดูกันหลังจากนี้

เรื่องโดย : วัลลภ สวัสดี