สมเด็จฯ ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศกัมพูชา อัดฉัดเงินจำนวน 36,000 เหรียญสหรัฐ (ราว 1.3 ล้านบาท) ให้แก่ทัพนักเตะ ออลสตาร์ กัมพูชา หลังเปิดบ้านเฉือนชนะจุดโทษ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด ยอดแชมป์จากเมืองไทย
ออลสตาร์ กัมพูชา ไล่ตีเสมอ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เจ้าของ 5 แชมป์จากเมืองไทยสองครั้งรวด และเสมอกันในเวลา 2-2 ก่อนจะเป็นฝ่ายเฉือนชนะจุดโทษไปด้วยสกอร์รวม 6-5 ในเกมอุ่นเครื่อง เมื่อค่ำวันที่ 23 มกราคม ที่ผ่านมา ณ โอลิมปิก สเตเดียม กรุงพนมเปญ
ล่าสุดมีรายงานจากทางฝ่ายจัดการแข่งขันเจ้าบ้านว่า ผลการแข่งขันดังกล่าวเป็นที่ประทับใจแก่ สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช ฮุน เซน นายกรัฐมนตรีแห่งประเทศกัมพูชา เป็นอย่างมาก จึงได้มอบเงินอัดฉีดให้แก่ทัพ "รวมดาวเขมร" รวมทั้งทีมเป็นเงินจำนวน 36,000เหรียญสหรัฐ (ราว 1.3 ล้านบาท)
ขณะเดียวกันทางฝ่ายจัดฯยังนำรายได้จากการแข่งขันและจากสปอนเซอร์รวมทั้งหมด รวม 6 หมื่นเหรียญสหรัฐ (ประมาณ 2.168 ล้านบาท) มอบเป็นกุศลให้แก่โรงพยาบาลเด็ก "KANTHA BOPHA CHILDREN HOSPITAL" ด้วยเช่นกัน
ขณะเดียวกันเมื่อวันที่ 24 มกราคม ที่ผ่านมา ทัพ "ปราสาทสายฟ้า" นำโดย อเล็กซานเดร กามา เฮดโค้ช พร้อมแข้งดัง อนาวิน จูจีน, นุกูลกิจ ครุฑใหญ่, อนันต์ บัวแสง, สถาพร แดงสี, ดานิโล คิริโน และ อังเดร โมริตซ์ ได้เดินทางไปร่วมเปิดฟุตบอลคลินิกที่สนาม อาร์เอสเอ็น สเตเดียม จากการร่วมมือกันกับ บริษัท ไทย เบฟเวอเรจ จำกัด และ พนมเปญ คราวน์ เอฟซี ทีมแชมป์จาก กัมพูชา พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลล่าสุด โดยมีเยาวชนจากท้องถิ่นทั่วกรุงพนมเปญกว่า 160 คน ร่วมกิจกรรมคึกคัก
ด้าน ริธี สัมนาง ประธานสโมสร พนมเปญ คราวน์ เอฟซี กล่าวว่า "ผมก็ต้องขอบคุณบุรีรัมย์และช้างที่พากันมาเปิดคลินิกฟุตบอลถึงสนามอาร์เอสเอ็นของเรา กิจกรรมในครั้งนี้ก็ถือว่าทำให้เด็กๆ ได้รู้ว่านักเตะบุรีรัมย์เล่นยังไง และเป็นแรงบันดาลใจที่ดีสำหรับน้องๆ เยาวชนด้วย"
"สำหรับ พนมเปญ คราวน์ เอฟซี ก็ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่สโมสรของกัมพูชาที่มีอคาเดมีครบทุกรุ่น ทั้งรุ่นอายุไม่เกิน 13 , 15 และ 18 ปี โดยปีนี้ก็เป็นปีที่ 5 แล้วที่สโมสรแห่งนี้เน้นนโยบายพัฒนาผู้เล่นเยาวชนจากอคาเดมีขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ และการเดินทางมาอุ่นเครื่องครั้งนี้ของบุรีรัมย์ก็จะเป็นโอกาสที่ดีที่น้องๆ ทุกคนจะได้รับแรงบันดาลใจเพื่อพัฒนาตัวเองต่อไปในอนาคต"
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *