แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด เพิ่งถูกเขี่ยตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก พ่ายแก่ โวล์ฟสบวร์ก 2-3 เมื่อวันอังคารที่ 8 ธันวาคม ขณะที่ พีเอสวี ไอน์โฮเฟน แซงชนะ ซีเอสเคเอ มอสโก 2-1 จึงจบอันดับ 3 ของกลุ่ม B หล่นลงมาประชันฝีเท้า ยูฟา ยูโรปา ลีก แทน อย่างไรก็ตาม “เดลี เมล” สื่อหัวดังแห่งเกาะอังกฤษ มองว่า นี่ไม่ใช่เวลาที่เหล่าสาวก “เรด เดวิลส์” ต้องมานั่งเสียใจ เนื่องจากผลดีที่กำลังจะตามมาถึง 10 ประการ
1. กองเชียร์เอ็นจอยหยุดวันเสาร์
ยูไนเต็ด จะต้องฟาดแข้งทุกคืนวันพฤหัสบดี เมื่อถึงสัปดาห์ฟุตบอลสโมสรยุโรป แล้วกลับมาลงแข่ง พรีเมียร์ ลีก วันอาทิตย์ เท่ากับว่า สาวก “เรด เดวิลส์” จะมีเวลาสังสรรค์อย่างเต็มที่วันศุกร์แห่งชาติ และรีแล็กซ์แบบยาว ๆ ช่วงวันเสาร์ เก็บแรงตื่นมาเชียร์ทีมรักหน้าจอโทรทัศน์ด้วยอาการกะปรี้กะเปร่า
2. เผชิญหน้าทีมจากลีกเดียวกัน ลุ้นแมตช์ “แดงเดือด”
ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ การันตีตั๋วสู่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ด้วยชัยชนะเหนือ คาราบัก เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาล ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะเกิดแมตช์ “แดงเดือด” ระดับสโมสรยุโรป นอกจากนี้ ยังมี อาร์เซนอล กับ เชลซี 2 ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ตามมาสมทบ หากผลการแข่งขันคืนวันพุธนี้ไม่เป็นใจ
3. หลุยส์ ฟาน กัล เคยคว้าแชมป์มาแล้ว
ฟาน กัล เคยชูโทรฟีรายการนี้ ภายใต้ชื่อ “ยูฟา คัพ” สมัยคุม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ปี 1992 ไม่มีเหตุผลใดอธิบายได้ว่า 24 ปีต่อมา อดีตผู้จัดการทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ จะทำไม่สำเร็จ หากนักเตะตัวหลักสมบูรณ์เต็มที่ ครั้งนั้น อาแจ็กซ์ ครองแชมป์ตามกฎ “อเวย์ โกล” โดยเลกแรก บุกเสมอ โตริโน 2-2 ที่เมืองตูริน และยันสกอร์ 0-0 ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม
4. โควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เป็นเดิมพัน
“ปิศาจแดง” ฟอร์มสะดุดเกม พรีเมียร์ ลีก เสมอ 4 จาก 6 เกมล่าสุด รั้งอันดับ 4 ของตาราง ขณะที่ สเปอร์ส กับ ลิเวอร์พูล คอยกดดัน การคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ย่อมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะคว้าสิทธิ์เข้าร่วม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กรณีหลุดท็อป 4
5. แฟน ๆ เห็นความหลากหลายระหว่างทัวร์ยุโรป
ความปราชัยที่สนาม โพล์กสวาเกน อารีนา แก่ โวล์ฟสบวร์ก 2-3 เมื่อวันอังคารที่ 8 ธันวาคม ย่อมเป็นผลดีต่อสาวก “เรด เดวิลส์” สำหรับการท่องเที่ยวสถานที่ที่ยังไม่เคยไป อาทิ คราสโนดาร์ ของ รัสเซีย และ มิดท์จิลลันด์ ของ เดนมาร์ก เป็นต้น
6. ฟาน กัล คืนสู่เหย้า
ฟาน กัล อาจมีโอกาสกลับสู่ถิ่น อัมสเตอร์ดัม อารีนา อีกครั้ง หาก อาแจ็กซ์ ผ่านรอบแรก กลุ่ม A โดย กุนซือจอมเฮี้ยบ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง ปี 1972 ก่อนรับหน้าที่ผู้ช่วย ปี 1988 และนั่งเก้าอี้นายใหญ่เต็มตัว ปี 1991 ก่อนย้ายไปคุม บาร์เซโลนา ปี 1997
7. พบปะเพื่อนเก่า
พลพรรค “ปิศาจแดง” อาจเผชิญหน้ากับนักเตะที่คุ้นเคยกันดี อาทิ “เจ้าถั่วน้อย” ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ ศูนย์หน้าเม็กซิกัน หาก ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซน จบอันดับ 3 ของกลุ่ม E รอบแรก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และ โอเล กุนนาร์ โซลชา ฮีโร่ชุดทริปเปิลแชมป์ ปี 1999 พังประตูชัยดับ บาเยิร์น มิวนิก รอบชิงฯ ยูซีแอล ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่กุนซือ โมลด์ สโมสรจากลีกนอร์เวย์
8. โรเตชันนักเตะ
ถึงแม้ออกอาการแกว่ง ๆ เกม พรีเมียร์ ลีก แต่ ยูไนเต็ด ก็ยังกวด เลสเตอร์ ซิตี จ่าฝูง ที่เก็บไป 32 แต้ม จาก 15 เกม ด้วยคู่ต่อกรที่อาจไม่แข็งแกร่งเท่าไร ทำให้ นายใหญ่วัย 65 ปี สามารถหมุนเวียนผู้เล่นบางตำแหน่ง เพื่อการลุ้นแชมป์
9. โอกาสลุ้นแชมป์อีก 1 รายการ
เชลซี คู่ปรับร่วมเกาะอังกฤษ พิสูจน์มาแล้ว หลังจากตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ก่อนคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก เมื่อปี 2013 ด้วยขุมกำลังที่มีนักเตะซึ่งผ่านการชูถ้วย “บิ๊กเอียร์” มาแล้วอย่าง เวย์น รูนีย์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , ฆวน มาตา และ ไมเคิล คาร์ริค ย่อมถูกจัดเป็นตัวเต็ง
10. ดาวรุ่งเก็บประสบการณ์
เกมพ่าย โวล์ฟสบวร์ก 2-3 เมื่อวันอังคารที่ 8 ธันวาคม จะเห็นว่า ฟาน กัล เปิดโอกาสแก่นักเตะเยาวชน ทั้ง เจสซี ลินการ์ด ที่ทำผลงานได้ดีซีซันนี้ รวมถึง คาเมรอน บอร์ธวิค-แจ็คสัน, กูเยร์โม บาเลรา และ นิค พาวล์ ย่อมกระหายที่จะสำแดงฝีเท้าระดับสโมสรยุโรป
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *
1. กองเชียร์เอ็นจอยหยุดวันเสาร์
ยูไนเต็ด จะต้องฟาดแข้งทุกคืนวันพฤหัสบดี เมื่อถึงสัปดาห์ฟุตบอลสโมสรยุโรป แล้วกลับมาลงแข่ง พรีเมียร์ ลีก วันอาทิตย์ เท่ากับว่า สาวก “เรด เดวิลส์” จะมีเวลาสังสรรค์อย่างเต็มที่วันศุกร์แห่งชาติ และรีแล็กซ์แบบยาว ๆ ช่วงวันเสาร์ เก็บแรงตื่นมาเชียร์ทีมรักหน้าจอโทรทัศน์ด้วยอาการกะปรี้กะเปร่า
2. เผชิญหน้าทีมจากลีกเดียวกัน ลุ้นแมตช์ “แดงเดือด”
ปลายเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ การันตีตั๋วสู่รอบ 32 ทีมสุดท้าย ด้วยชัยชนะเหนือ คาราบัก เช่นเดียวกับ ลิเวอร์พูล คู่ปรับตลอดกาล ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่า จะเกิดแมตช์ “แดงเดือด” ระดับสโมสรยุโรป นอกจากนี้ ยังมี อาร์เซนอล กับ เชลซี 2 ยักษ์ใหญ่แห่งกรุงลอนดอน ตามมาสมทบ หากผลการแข่งขันคืนวันพุธนี้ไม่เป็นใจ
3. หลุยส์ ฟาน กัล เคยคว้าแชมป์มาแล้ว
ฟาน กัล เคยชูโทรฟีรายการนี้ ภายใต้ชื่อ “ยูฟา คัพ” สมัยคุม อาแจ็กซ์ อัมสเตอร์ดัม ปี 1992 ไม่มีเหตุผลใดอธิบายได้ว่า 24 ปีต่อมา อดีตผู้จัดการทีมชาติ เนเธอร์แลนด์ จะทำไม่สำเร็จ หากนักเตะตัวหลักสมบูรณ์เต็มที่ ครั้งนั้น อาแจ็กซ์ ครองแชมป์ตามกฎ “อเวย์ โกล” โดยเลกแรก บุกเสมอ โตริโน 2-2 ที่เมืองตูริน และยันสกอร์ 0-0 ที่กรุงอัมสเตอร์ดัม
4. โควตา ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก เป็นเดิมพัน
“ปิศาจแดง” ฟอร์มสะดุดเกม พรีเมียร์ ลีก เสมอ 4 จาก 6 เกมล่าสุด รั้งอันดับ 4 ของตาราง ขณะที่ สเปอร์ส กับ ลิเวอร์พูล คอยกดดัน การคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก ย่อมเป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่จะคว้าสิทธิ์เข้าร่วม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก กรณีหลุดท็อป 4
5. แฟน ๆ เห็นความหลากหลายระหว่างทัวร์ยุโรป
ความปราชัยที่สนาม โพล์กสวาเกน อารีนา แก่ โวล์ฟสบวร์ก 2-3 เมื่อวันอังคารที่ 8 ธันวาคม ย่อมเป็นผลดีต่อสาวก “เรด เดวิลส์” สำหรับการท่องเที่ยวสถานที่ที่ยังไม่เคยไป อาทิ คราสโนดาร์ ของ รัสเซีย และ มิดท์จิลลันด์ ของ เดนมาร์ก เป็นต้น
6. ฟาน กัล คืนสู่เหย้า
ฟาน กัล อาจมีโอกาสกลับสู่ถิ่น อัมสเตอร์ดัม อารีนา อีกครั้ง หาก อาแจ็กซ์ ผ่านรอบแรก กลุ่ม A โดย กุนซือจอมเฮี้ยบ เริ่มต้นอาชีพค้าแข้ง ปี 1972 ก่อนรับหน้าที่ผู้ช่วย ปี 1988 และนั่งเก้าอี้นายใหญ่เต็มตัว ปี 1991 ก่อนย้ายไปคุม บาร์เซโลนา ปี 1997
7. พบปะเพื่อนเก่า
พลพรรค “ปิศาจแดง” อาจเผชิญหน้ากับนักเตะที่คุ้นเคยกันดี อาทิ “เจ้าถั่วน้อย” ฮาเวียร์ เฮร์นานเดซ ศูนย์หน้าเม็กซิกัน หาก ไบเออร์ 04 เลเวอร์คูเซน จบอันดับ 3 ของกลุ่ม E รอบแรก ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก และ โอเล กุนนาร์ โซลชา ฮีโร่ชุดทริปเปิลแชมป์ ปี 1999 พังประตูชัยดับ บาเยิร์น มิวนิก รอบชิงฯ ยูซีแอล ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่กุนซือ โมลด์ สโมสรจากลีกนอร์เวย์
8. โรเตชันนักเตะ
ถึงแม้ออกอาการแกว่ง ๆ เกม พรีเมียร์ ลีก แต่ ยูไนเต็ด ก็ยังกวด เลสเตอร์ ซิตี จ่าฝูง ที่เก็บไป 32 แต้ม จาก 15 เกม ด้วยคู่ต่อกรที่อาจไม่แข็งแกร่งเท่าไร ทำให้ นายใหญ่วัย 65 ปี สามารถหมุนเวียนผู้เล่นบางตำแหน่ง เพื่อการลุ้นแชมป์
9. โอกาสลุ้นแชมป์อีก 1 รายการ
เชลซี คู่ปรับร่วมเกาะอังกฤษ พิสูจน์มาแล้ว หลังจากตกรอบแบ่งกลุ่ม ยูฟา แชมเปียนส์ ลีก ก่อนคว้าแชมป์ ยูโรปา ลีก เมื่อปี 2013 ด้วยขุมกำลังที่มีนักเตะซึ่งผ่านการชูถ้วย “บิ๊กเอียร์” มาแล้วอย่าง เวย์น รูนีย์, บาสเตียน ชไวน์สไตเกอร์ , ฆวน มาตา และ ไมเคิล คาร์ริค ย่อมถูกจัดเป็นตัวเต็ง
10. ดาวรุ่งเก็บประสบการณ์
เกมพ่าย โวล์ฟสบวร์ก 2-3 เมื่อวันอังคารที่ 8 ธันวาคม จะเห็นว่า ฟาน กัล เปิดโอกาสแก่นักเตะเยาวชน ทั้ง เจสซี ลินการ์ด ที่ทำผลงานได้ดีซีซันนี้ รวมถึง คาเมรอน บอร์ธวิค-แจ็คสัน, กูเยร์โม บาเลรา และ นิค พาวล์ ย่อมกระหายที่จะสำแดงฝีเท้าระดับสโมสรยุโรป
* * *คลิก Like เพื่อมาเป็นแฟนเพจของหน้า “MGR SPORT” รับข่าวสารแวดวงกีฬาชนิดเกาะติดขอบสนามคลิกที่นี่เลย!!* * *