คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เช้าตรู่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาช่วงตี 5 เศษๆ ตามเวลาไทยมีศึกมวยโลกรุ่นยักษ์ระเบิดขึ้นที่เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ระหว่างเจ้าของเข็มขัดชาวยูเครน “ด็อกเตอร์สตีลแฮมเมอร์” วลาดิเมียร์ คลิทช์โก ที่ครอบครองเข็มขัด 4 สถาบันไล่ตั้งแต่ WBA, IBF, WBO และของสถาบันเดอะ ริง ขึ้นป้องกันตำแหน่งกับมวยที่หนุ่มกว่าถึง 1 รอบเต็มชาวไอริช ไทสัน ฟิวรี
ก่อนชก “ด็อกเตอร์สตีลแฮมเมอร์” เป็นต่อหายห่วง เพราะชกในเยอรมันซึ่งเป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2 ของแชมป์รุ่นยักษ์รายนี้ แถมสถิติที่ผ่านมาก็สวยหรู แม้จะมีความพ่ายแพ้มาแทรกบ้าง 3 ไฟต์ แต่ความพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายก็เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2004 หรือ 10 กว่าปีมาแล้ว แถมประสบการณ์เพียบชกในไฟต์ที่เกี่ยวข้องกับเข็มขัดโลก ไม่ว่าจะเป็นการชิงตำแหน่งหรือป้องกันตำแหน่งมาแล้ว 28 ไฟต์ ในขณะที่มวยหนุ่มจากเกาะอังกฤษเพิ่งชกมารวมแล้ว 27 ไฟต์เท่านั้น ชกแบบสมัครเล่นมาก็แค่ 36 ไฟต์ เรียกว่ารวมทุกไฟต์ที่ชกมาในชีวิตแล้วยังน้อยกว่าการชกแบบอาชีพของคลิทช์โกผู้น้องรายนี้แบบหายห่วง
มวยคู่นี้เดิมกำหนดฟาดปากกันตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่แชมป์โลกเกิดอาการเจ็บน่องขณะฝึกซ้อม ต้องเลื่อนการชก แถมก่อนชกยังมีปัญหาเรื่องนวมกันอีก โดยทางฝั่งผู้ท้าชิงเล่นสงครามประสาทบอกว่านวมที่แชมป์โลกเลือกนั้นไม่มีขนาดที่พอดีกับมือของเขา ใส่แล้วมีโอกาสเกิดนิ้วซ้นได้ และจะไม่ยอมสวมนวมยี่ห้อนี้ขึ้นชกเด็ดขาด เลิกชกไปเลยก็ได้ เล่นเอาแฟนๆ ที่ติดตามต้องลุ้นกันแทบแย่ แต่พอเจรจากันก็ตกลงกันได้เรียบร้อยได้ขึ้นชกสมใจ
เริ่มชกทางมวยยักษ์จากเกาะอังกฤษอาศัยความรวดเร็วเคลื่อนตัวไปรอบๆ เวที แถมมียืนสลับการ์ดไปมาเล่นเอามวยเก๋าประสบการณ์อย่าง คลิทช์โก ไปไม่เป็นเหมือนกัน ไฟต์นี้เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่ยักษ์ยูเครนต้องเจอกับคู่ชกที่สูงใหญ่กว่า ช่วงชกยาวกว่า และเร็วซะอีก ปกติเจอกับผู้ท้าชิงที่แทบต้องก้มตัวต่อย ทำเอา คลิทช์โก ทำอะไรไม่ถูก ยืนห่างหวังค้ำต่อยอย่างที่เคยทำ ก็เสียเปรียบช่วงชก พอเดินเบียดผู้ท้าชิงก็เข้ากอดคลุกไว้ เรียกว่าออกอาวุธไม่ถนัด ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นนักมวยหมัดหนักที่คางนิ่มเหมือนกัน โดยทั้งคู่ต่างมีสถิติชนะน็อกที่สวยงาม แต่ก็มีสถิติโดนต่อยหล่นพอๆ กัน แบบนี้ทั้งคู่เลยระวังตัวกันมากไม่กล้าผลีผลาม
การชกออกรูปน่าเบื่อจนครบ 12 ยกชนิด คลิทช์โก เป็นรองนิดหน่อย แต่แฟนๆ ยังห่วงเรื่องการตัดสินเพราะนักชกยูเครนรายนี้ชกในเยอรมันก็เหมือนชกในบ้าน แถม ฟิวรี โดนตัดคะแนนไปคะแนนหนึ่งตอนยก 11 โทษฐานต่อยท้ายทอยจนกรรมการเตือนหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายกรรมการข้างเวทีกล้าๆ ให้คะแนนผู้ท้าชิงชนะแบบค่อนข้างห่าง 115-112 จากกรรมการ 2 ท่านและ 116-111 จากกรรมการอีกท่านหนึ่ง ทำให้ ฟิวรี สร้างประวัติศาสตร์คว้าเข็มขัดโลกไปแบบพลิกล็อกขนานใหญ่ และถือเป็นครั้งแรกในรอบกี่ปีก็ไม่รู้ที่ในทำเนียบแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวทไม่มีชื่อของพี่น้องคลิทช์โก
แบบนี้วงการมวยรุ่นยักษ์ก็คงคึกคักขึ้นมาหน่อย เพราะที่ผ่านมาพี่น้องคลิทช์โกครองความยิ่งใหญ่และเอาชนะคู่ท้าชิงแบบสบายๆ น่าเบื่อมาตลอด ฟิวรี เองก็ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะแต่อย่างน้อยก็ถือเป็นนักชกที่มีสีสัน ทั้งการให้ข่าวก่อนชกแบบปากกล้า ตอนขึ้นเวทีมีแดนซ์ไปรอบๆ ไม่กลัวเหนื่อย แถมชกจบยังโชว์ลูกคอร้องเพลงกลางเวทีอีกต่างหาก แฟนๆ ก็คงนึกสนุกที่จะกลับมาติดตามมวยโลกรุ่นยักษ์กันอีกครั้ง
เช้าตรู่วันอาทิตย์ที่ผ่านมาช่วงตี 5 เศษๆ ตามเวลาไทยมีศึกมวยโลกรุ่นยักษ์ระเบิดขึ้นที่เมืองดุสเซลดอร์ฟ ประเทศเยอรมนี ระหว่างเจ้าของเข็มขัดชาวยูเครน “ด็อกเตอร์สตีลแฮมเมอร์” วลาดิเมียร์ คลิทช์โก ที่ครอบครองเข็มขัด 4 สถาบันไล่ตั้งแต่ WBA, IBF, WBO และของสถาบันเดอะ ริง ขึ้นป้องกันตำแหน่งกับมวยที่หนุ่มกว่าถึง 1 รอบเต็มชาวไอริช ไทสัน ฟิวรี
ก่อนชก “ด็อกเตอร์สตีลแฮมเมอร์” เป็นต่อหายห่วง เพราะชกในเยอรมันซึ่งเป็นเหมือนบ้านหลังที่ 2 ของแชมป์รุ่นยักษ์รายนี้ แถมสถิติที่ผ่านมาก็สวยหรู แม้จะมีความพ่ายแพ้มาแทรกบ้าง 3 ไฟต์ แต่ความพ่ายแพ้ครั้งสุดท้ายก็เกิดขึ้นตั้งแต่ปี 2004 หรือ 10 กว่าปีมาแล้ว แถมประสบการณ์เพียบชกในไฟต์ที่เกี่ยวข้องกับเข็มขัดโลก ไม่ว่าจะเป็นการชิงตำแหน่งหรือป้องกันตำแหน่งมาแล้ว 28 ไฟต์ ในขณะที่มวยหนุ่มจากเกาะอังกฤษเพิ่งชกมารวมแล้ว 27 ไฟต์เท่านั้น ชกแบบสมัครเล่นมาก็แค่ 36 ไฟต์ เรียกว่ารวมทุกไฟต์ที่ชกมาในชีวิตแล้วยังน้อยกว่าการชกแบบอาชีพของคลิทช์โกผู้น้องรายนี้แบบหายห่วง
มวยคู่นี้เดิมกำหนดฟาดปากกันตั้งแต่เดือนที่แล้ว แต่แชมป์โลกเกิดอาการเจ็บน่องขณะฝึกซ้อม ต้องเลื่อนการชก แถมก่อนชกยังมีปัญหาเรื่องนวมกันอีก โดยทางฝั่งผู้ท้าชิงเล่นสงครามประสาทบอกว่านวมที่แชมป์โลกเลือกนั้นไม่มีขนาดที่พอดีกับมือของเขา ใส่แล้วมีโอกาสเกิดนิ้วซ้นได้ และจะไม่ยอมสวมนวมยี่ห้อนี้ขึ้นชกเด็ดขาด เลิกชกไปเลยก็ได้ เล่นเอาแฟนๆ ที่ติดตามต้องลุ้นกันแทบแย่ แต่พอเจรจากันก็ตกลงกันได้เรียบร้อยได้ขึ้นชกสมใจ
เริ่มชกทางมวยยักษ์จากเกาะอังกฤษอาศัยความรวดเร็วเคลื่อนตัวไปรอบๆ เวที แถมมียืนสลับการ์ดไปมาเล่นเอามวยเก๋าประสบการณ์อย่าง คลิทช์โก ไปไม่เป็นเหมือนกัน ไฟต์นี้เป็นครั้งแรกก็ว่าได้ที่ยักษ์ยูเครนต้องเจอกับคู่ชกที่สูงใหญ่กว่า ช่วงชกยาวกว่า และเร็วซะอีก ปกติเจอกับผู้ท้าชิงที่แทบต้องก้มตัวต่อย ทำเอา คลิทช์โก ทำอะไรไม่ถูก ยืนห่างหวังค้ำต่อยอย่างที่เคยทำ ก็เสียเปรียบช่วงชก พอเดินเบียดผู้ท้าชิงก็เข้ากอดคลุกไว้ เรียกว่าออกอาวุธไม่ถนัด ทั้ง 2 ฝ่ายเป็นนักมวยหมัดหนักที่คางนิ่มเหมือนกัน โดยทั้งคู่ต่างมีสถิติชนะน็อกที่สวยงาม แต่ก็มีสถิติโดนต่อยหล่นพอๆ กัน แบบนี้ทั้งคู่เลยระวังตัวกันมากไม่กล้าผลีผลาม
การชกออกรูปน่าเบื่อจนครบ 12 ยกชนิด คลิทช์โก เป็นรองนิดหน่อย แต่แฟนๆ ยังห่วงเรื่องการตัดสินเพราะนักชกยูเครนรายนี้ชกในเยอรมันก็เหมือนชกในบ้าน แถม ฟิวรี โดนตัดคะแนนไปคะแนนหนึ่งตอนยก 11 โทษฐานต่อยท้ายทอยจนกรรมการเตือนหลายครั้งแล้ว แต่สุดท้ายกรรมการข้างเวทีกล้าๆ ให้คะแนนผู้ท้าชิงชนะแบบค่อนข้างห่าง 115-112 จากกรรมการ 2 ท่านและ 116-111 จากกรรมการอีกท่านหนึ่ง ทำให้ ฟิวรี สร้างประวัติศาสตร์คว้าเข็มขัดโลกไปแบบพลิกล็อกขนานใหญ่ และถือเป็นครั้งแรกในรอบกี่ปีก็ไม่รู้ที่ในทำเนียบแชมป์โลกรุ่นเฮฟวีเวทไม่มีชื่อของพี่น้องคลิทช์โก
แบบนี้วงการมวยรุ่นยักษ์ก็คงคึกคักขึ้นมาหน่อย เพราะที่ผ่านมาพี่น้องคลิทช์โกครองความยิ่งใหญ่และเอาชนะคู่ท้าชิงแบบสบายๆ น่าเบื่อมาตลอด ฟิวรี เองก็ต้องพิสูจน์ตัวเองอีกเยอะแต่อย่างน้อยก็ถือเป็นนักชกที่มีสีสัน ทั้งการให้ข่าวก่อนชกแบบปากกล้า ตอนขึ้นเวทีมีแดนซ์ไปรอบๆ ไม่กลัวเหนื่อย แถมชกจบยังโชว์ลูกคอร้องเพลงกลางเวทีอีกต่างหาก แฟนๆ ก็คงนึกสนุกที่จะกลับมาติดตามมวยโลกรุ่นยักษ์กันอีกครั้ง
